วิทยาลัยเกษตรฯ ม.นราธิวาสฯ เชิญผู้ปกครองนักศึกษาที่ไปฝึกอาชีพในอิสราเอล โฟนอินคุยกับบุตรหลาน ให้คลายกังวลยังไม่กระทบกับสงคราม ขณะที่แรงงานชาวเบตงสองพี่น้องปลอดภัยดีขออยู่ต่อยังไม่กลับไทย ด้านพรรคประชาชาติขอรัฐเร่งช่วยเหลือตัวประกัน จี้รัฐบาลวางตัวเป็นกลาง
วันพุธที่ 11 ต.ค. 66 ที่ห้องประชุมวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนราธิวาส มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 5 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ผศ.ทวี บุญภิรมย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เชิญผู้ปกครองของนักศึกษาปี 3 คณะเกษตรศาสตร์ จำนวน 30 คน ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และถูกส่งไปเรียนและฝึกทักษะด้านอาชีพที่เมืองอราวาน ทางตอนใต้ของอิสราเอล เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างกลุ่มฮามาสกับกองทัพอิสราเอล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
บรรยากาศการพบปะพูดคุย ทางผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ และคณะ ได้ชี้แจงให้ผู้ปกครองนักศึกษาได้รับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และได้ใช้ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ ให้ผู้ปกครองของนักศึกษาทั้ง 30 คน ได้มีการโฟนอินพูดคุยกับบุตรหลานแบบตัวต่อตัว เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ ซึ่งผู้ปกครองทุกคนมีความเป็นห่วงและเกรงบุตรหลานจะได้รับอันตรายจากสงครามที่เกิดขึ้น
ทางคณาจารย์ของวิทยาลัยฯ ได้โฟนอินสอบถามถึงที่ตั้งของที่พักและสถานที่ทำงาน โดยทุกคนปลอดภัยดี จะมีเจ้าหน้าที่ทหารทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีจัดทำบังเกอร์รายรอบหากเกิดสถานการณ์คับขัน และมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบบุคคลเข้า-ออกอย่างเข้มงวด
ในเรื่องของอาหารการกินจะมีการกักตุนสำรองไว้ทุกๆ 2 วัน และจากเหตุการณ์สงครามที่เกิดขึ้นห่างจากที่ตั้งและที่พักของนักศึกษาประมาณ 100 กิโลเมตร ขณะนี้ทุกคนยังสามารถอาศัยอยู่ได้และไม่วิตกกังวลกับสงครามที่เกิดขึ้น มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
นายคอโรอันวา แก่ต๋อง หนึ่งในผู้ปกครองของนักศึกษา กล่าวว่า ได้ติดตามข่าวจากสื่อ ทำให้รู้สึกเป็นห่วงมาก เป็นโอกาสดีที่ทางวิทยาลัยฯ ได้เชิญผู้ปกครองมารับฟังและดูบรรยากาศจริง จากการได้โฟนอิน ก็รู้สึกมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง และทางวิทยาลัยฯ ได้ติดต่อผ่านสถานทูตหรือองค์กรต่างๆ ที่ดูแลนักศึกษาไทยหรือแรงงานไทยที่อยู่ในประเทศอิสราเอล ก็รู้สึกเบาใจมากขึ้น
ผศ.ทวี บุญภิรมย์ ผอ.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนราธิวาส กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยมีความเป็นห่วงลูกศิษย์ที่เราส่งไปฝึกสหกิจศึกษาที่เขตอราวาน ประเทศอิสราเอล จึงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการดูแลความปลอดภัยของนักศึกษาทั้ง 30 คน
หลังจากที่ผู้ปกครองได้โฟนอินพูดคุยกับลูกหลานโดยตรง สังเกตว่าหลายคนคลายวิตกกังวล อยากจะนำเรียนว่า เราติดตามดูแลนักศึกษาที่อยู่อิสราเอลตลอดเวลา มีหน่วยประสานงานที่ดูแลความเรียบร้อย ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ รวมถึงเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วยของนักศึกษาก็มีคนดูแลอยู่
@@ แรงงานชาวเบตงปลอดภัยดี ยังไม่ขอกลับประเทศ
ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา มีแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ในเมือง Southern (Hadarom) และ Notthern (Hazafon) ประเทศอิสราเอล โดยเป็นแรงงานในภาคเกษตร จำนวน 2 คน คือ นายทัดเทพ เลศธนู และ นายเทพพิทักษ์ เลศธนู ซึ่งทั้งสองปลอดภัยดี โดยยืนยันจะไม่กลับประเทศและพร้อมที่จะทำงานต่อไป
นายทัดเทพ เลศธนู บอกเล่าผ่านแอปพลิเคชันไลน์กับมารดาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้อยู่ห่างจากฉนวนกาซา ประมาณ 70–80 กิโลเมตร การโจมตีทางอากาศของกลุ่มฮามาส กับพื้นที่ที่ตนทำงานอยู่ ค่อนข้างไกลกัน ไม่มีระเบิดหรือการโจมตีใดๆ เพราะตนอยู่ชายแดนติดกับประเทศอียิปต์ ชนพื้นเมืองและแรงงานไทยยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามทางการอิสราเอลมีแผนอพยพ
นางดาบส เบ้าที มารดาของแรงงานสองพี่น้องบอกว่า ลูกชายทั้ง 2 คนไปทำงานผ่านกรมแรงงาน โดยลูกชายคนโตไปทำงานประมาณ 2 ปีแล้ว ส่วนคนน้องไป 1 ปีกว่า ที่ทำงานของลูกชายมีแรงงานไทยกว่า 20 คน ส่วนความรู้สึกของคนเป็นแม่ก็อยากให้ลูกกลับ เพราะความเป็นห่วงลูก แต่จากการที่ได้ติดต่อพูดคุยมาตลอดก็ทำให้เบาใจ เพราะพื้นที่ที่ลูกชายทำงานอยู่ห่างออกมากว่า 80 กิโลเมตร และนายจ้างที่นั่นก็ดูแลดี มีการส่งอาหารโดยที่ไม่ต้องออกไปจากโรงงาน ได้ยินแบบนี้ก็สบายใจ
@@ ประชาชาติแถลงจี้รัฐ “วางตัวเป็นกลาง”
ที่รัฐสภา นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ โฆษกพรรคประชาชาติ และ สส.ชายแดนใต้ของพรรครวม 7 คน ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ของพรรคประชาชาติ ถึงเหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า
“ทางพรรคประชาชาติขอแสดงความเสียใจต่อกรณีการเสียชีวิตของชาวไทยที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และขอให้รัฐบาลไทยดำเนินมาตรการในการปกป้องให้ ความช่วยเหลือต่อประชาชนชาวไทยที่ถูกจับกุมตัวและบางส่วนที่ยังอยู่ในพื้นที่การปะทะอย่างเร่งด่วน
พรรคประชาชาติขอเป็นกำลังใจในการทำงานช่วยเหลือประชาชนชาวไทยให้รอดพ้นภัยอันตรายจากสถานการณ์เฉพาะหน้าที่กำลังเกิดขึ้น และพรรคประชาชาติขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวที่สูญเสียญาติพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งสองฝ่ายจากความรุนแรง และขอเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายยุติความรุนแรงและการสู้รบกัน และมีความจำเป็นที่จะต้องหันหน้าเข้ามาเจรจากันเพื่อคืนความสงบให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์
พรรคประชาชาติขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยรักษาความเป็นกลางทางการเมืองร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ เพราะความขัดแย้งนี้มีความซับซ้อน มีรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชน ชาวยิว คริสต์ และมุสลิมทั่วภูมิภาค
ทั้งนี้ พรรคประชาชาติสนับสนุนการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อความจำเป็นในการช่วยเหลือแรงงาน และนักศึกษา รวมตลอดถึงประชาชนชาวไทยที่ได้รับผลกระทบให้มีความปลอดภัยและให้ได้รับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในสถานการณ์เฉพาะหน้าในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด
พรรคประชาชาติ มีความกังวลและห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง และขอวิงวอนให้ความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นได้ยุติลงโดยเร็ว และนำสันติภาพและความสงบสุขมาสู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในเร็ววันต่อไป”