หลังจากที่สายการบินนกแอร์ยุติทำการบินในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง มาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี คงเหลือแค่เที่ยวบินส่วนบุคคลและเช่าเหมาลำขึ้น-ลงอยู่บ้าง
ทำให้ท่าอากาศยานนานาชาติเบตงในวันนี้ กลายเป็นแค่อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องมาเยือนเพื่อถ่ายภาพเช็คอินของนักท่องเที่ยว จนทำให้ภาคเอกชนและชาวเบตงเรียกร้องให้รัฐบาลนำสายการบินพาณิชย์กลับมาเปิดบริการอีกครั้ง
ผลจากการหยุดบินของสายการบินพาณิชย์และสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องสนามบิน ถึงขั้นไปต่อไม่ไหว ต้องปิดกิจการกันไป
อย่าง “ร้านคีรีเบย์” ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาย 4326 ต.ยะรม อ.เบตง ทางผ่านไปยังท่าอากาศยานเบตง ต้องปิดกิจการลงชั่วคราวมาระยะหนึ่ง ปัจจุบันอาคารมีสภาพทรุดโทรม ถูกปล่อยรกร้าง มีวัชพืชนานาพันธุ์ขึ้นบดบังหน้าร้าน ข้างทางยังมีหญ้าขึ้นสูง และเริ่มลามเอนเข้ามาบริเวณทางเดินเท้าของร้าน
เดิม “คีรีเบย์” เป็นร้านทันสมัยและขึ้นชื่อ ชาวเบตงและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาร้านแห่งนี้เพื่อเช็คอิน ชิม ช้อป ภายในร้าน เนื่องจากร้านคีรีเบย์ มีบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม จำหน่ายของฝากเมืองเบตง เป็นร้านสำหรับพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินเบตง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว สร้างโอกาสสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่
ร.ต.ต.อุดม ลักษณะ เจ้าของร้านคีรีเบย์ เล่าว่า หลังทราบว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้เห็นชอบในหลักการให้กรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม ดำเนินโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง เมื่อปี 2559 – 2561 เพื่อจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของอําเภอเบตง จึงใช้อาคารห้องแถวของครอบครัวมาปรับปรุงเปิดเป็นร้านคีรีเบย์ โดยใช้งบ 4-5 ล้านบาท ในการทำธุรกิจเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว ทั้งทางรถยนต์และเดินทางมากับสายการบินต่างๆ ที่ลงที่สนามบินเบตง เนื่องจากทำเลที่ตั้งของร้านอยู่ระหว่างทางไปสนามบินเบตง จะกลายเป็นจุดพัก แวะเติมพลังก่อนเดินทางไกล
“แต่ก็เปิดบริการได้ไม่นานก็ต้องปิดกิจการชั่วคราว เนื่องจากได้รับผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 และยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของสายการบินพาณิชย์ที่จะมาเปิดทำการบินที่สนามบินเบตง ซึ่งหากมีความชัดเจนก็พร้อมที่จะกลับมาเปิดร้านคีรีเบย์อีกครั้ง”
“ขอให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งดำเนินจัดหาสายการบินพาณิชย์เปิดเส้นทางการบินดอนเมือง-เบตง หรือ หาดใหญ่-เบตง ก็ได้ และเร่งขยายรันเวย์ให้ได้ สร้างสนามบินให้มันใหญ่ รองรับเครื่องบินขนาด 200 ที่นั่ง เพื่อรองรับสายการบินระหว่างประเทศ เปิดเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-เบตง, ปีนัง-เบตง, สิงคโปร์-เบตง, จีน-เบตง หรือกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง-เบตง ในอนาคต ไม่ใช่มองว่าอำเภอเบตงเป็นเมืองเล็กแล้วก็ผู้โดยสารก็น้อย ต้องมองถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย”
เจ้าของร้านคีรีเบย์ กล่าวอีกว่า นอกจากทำร้านคีรีเบย์แล้ว ยังได้ทำมินิบัสด้วย เพราะว่าตนได้สัมปทานเส้นทาง ด่านพรมแดน–สนามบินเบตง และได้สัมปทานวิ่งรับส่งผู้โดยสารในสนามบิน โดยมีรถตู้ รถมินิบัส รถเก๋ง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเบตง ที่มากับเครื่องบิน เมื่อสนามบินหยุดบินไปก็ไม่มีนักท่องเที่ยว รถทั้งหมดก็ต้องคืนบริษัทที่กรุงเทพฯ เพื่อนำไปให้บริการที่สนามบินดอนเมือง หากยังอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ใช้งาน
“ส่วนเส้นทางที่สัมปทานไว้ระยะ 5 ปีกว่าสนามบินจะเสร็จก็ 6-7 ปี ก็หมดอายุสัทปทานพอดี เมื่อสายการบินมาบินแล้วไม่คุ้มทุน นักท่องเที่ยวไม่เพียงพอที่จะบินด้วย ก็เลยต้องหยุดบิน รถทั้งหมดก็ต้องคืนให้กับทางบริษัท เพราะบริษัทมีเส้นทางสัมปทานอยู่หลายที่ หากทำอยู่ที่เบตงคงจะขาดทุนมาก”
เจ้าของร้านคีรีเบย์ กล่าวด้วยว่า แม้ท่าอากาศยานนานาชาติเบตงจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวชมพร้อมถ่ายรูปเช็คอินเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งลงในโซเชียลเดีย และสนามบินเบตงก็ยังเปิดให้บริการปกติ แต่ก็มีเฉพาะเครื่องบินส่วนบุคคลของเอกชน และเครื่องบินของทางราชการขึ้น-ลง แต่ก็น้อยมาก และยังไม่มีสายการบินพาณิชย์ทำการบิน ซึ่งใกล้ครบ 1 ปีเต็มที่สายบินนกแอร์ ยุติเที่ยวบิน เส้นทางกรุงเทพ-เบตง เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2565 ที่ผ่านมาแล้ว
นายคอร์ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เผยความรู้สึกเกี่ยวกับสนามบินใต้สุดแดนสยาม ว่า สนามบินเบตงมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก ตนกับครอบครัวเดินทางมากกัวลาลัมเปอร์ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 5-6 ชั่วโมงเพื่อมาเที่ยวเบตง และมาเช็คอินกับสนามบินแห่งนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีสายการบินพาณิชย์ทำการบิน
อนาคตหากมีสายการบินระหว่างประเทศ เส้นทาง กัวลาลัมเปอร์-เบตง คงดี น่าจะย่นระยะเวลาเดินทางเหลือเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางสู่อำเภอเบตง และจังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น
สำหรับท่าอากาศยานเบตง เป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ล่าสุดลำดับที่ 29 ของกรมท่าอากาศยาน ที่มีสโลแกนว่า “สวรรค์บนดิน สนามบินเบตง” เริ่มก่อสร้างปี 2559 วงเงินงบประมาณกว่า 1,900 ล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2562 มีความยาวรันเวย์ขนาด 1,800 เมตร และเตรียมจะขยายความยาวเป็น 2,500 เมตร เพิ่มขึ้น 700 เมตร โดยขยายไปทางทิศตะวันตก 375 เมตร และทางทิศตะวันออก 325 เมตร เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ 180-200 ที่นั่งได้ อาทิ แอร์บัส A320 และโบอิ้ง B-737 จากเดิมรองรับได้เพียงเครื่องบินขนาด 80 ที่นั่ง อาทิ Q400 และ ATR 72
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มี.ค.65 แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ต้องยุติทำการบิน กระทั่งอยู่ในสภาพกึ่งร้างมาจนถึงปัจจุบัน