“คนมูโนะ” เจ้าของบ้าน 25 หลัง รวมตัวฟ้องแพ่งเจ้าของโกดังพลุระเบิด หลังประกันจ่ายเงินชดเชยไม่พอค่าซ่อมบ้าน ขณะที่รัฐจ่ายเพียง 2.3 แสนบาทต่อหลัง ด้านแรงงานจังหวัดนราธิวาสเผยตัวเลขคนมูโนะตกงานหลังโศกนาฏกรรมร้ายกว่าครึ่งพัน ยังไม่รวมผู้เช่าร้านขายของอีก 200 รายที่ข้าวของเสียหาย ค้าขายไม่ได้
มีประเด็นคืบหน้าเกี่ยวกับช่วยเหลือเยียวยาบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ที่บ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 ที่ผ่านมา แม้ทางหน่วยงานทางราชการที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น โดยเน้นให้หน่วยทหาร อาสารักษาดินแดน (อส.) และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดนราธิวาส ทยอยเข้าซ่อมแซมบ้านและอาคารร้านรวงที่ส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายบางส่วนหรือร้อยละไม่เกิน 50 เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าอยู่อาศัยตามปกติได้โดยเร็วที่สุดนั้น
หลังเหตุการณ์ผ่านมาได้เกือบ 1 เดือน ปรากฏว่าบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ในโซนไข่แดง ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของที่ตั้งโกดังเก็บดอกไม้ไฟ ปรากฏว่าทางเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง และได้ทำประกันไว้กับบริษัทประกันภัยนั้น ส่วนใหญ่ทำประกันไว้เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนในเรื่องของภัยน้ำท่วม เพราะตลาดมูโนะเผชิญปัญหาอุทกภัยมา 2 ปีติดต่อกัน แต่เหตุการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เกิดจากโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ซึ่งชาวบ้านรับทราบว่า ทางบริษัทประกันจะชดเชยค่าสินไหมเพียงบางส่วน เนื่องจากวินาศภัยที่เกิดขึ้นไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่เจ้าของบ้านระบุไว้ในสัญญา ซึ่งมีจำนวน 25 ราย และบ้านแต่ละหลังมีมูลค่า 1 ล้านบาทไปจนถึงราคา 4 ล้านบาทเศษ
นายนิฟัยรุส สมานกุลวงศ์ ชาวตลาดมูโนะ 1 ใน 25 รายที่ทำประกันภัยเอาไว้ แต่ประกันจ่ายไม่ครอบคลุม เปิดเผยว่า 3 ปีที่แล้วเราเจอน้ำ คิดว่าทำประกันดีกว่า คือเบี้ยประกันไม่สูงมากเท่าไร พอเจอเหตุการณ์อย่างนี้ จึงได้วงเงินสูงสุดแค่ 2.9 ล้านบาท แต่บ้านหลังที่อยู่ประเมินแล้ว 4.5 ล้านบาท ถ้าได้เงินสินไหมทดแทนแค่ 2.9 ล้านบาท จริงๆ ก็ไม่เพียงพอ ซึ่งในส่วนของภาครัฐจะเยียวยาสูงสุดอยู่ที่ 230,000 บาท แต่หากภาครัฐรู้ว่ามีประกัน อาจจะลดวงเงินเหลือ 46,000 บาท เพื่อนำเงินเยียวยาที่เหลือแบ่งไปช่วยบ้านที่ไม่มีการทำประกัน
“ผมมีความรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมสำหรับสิ่งที่จะได้มา ความเสียหายเราไม่ได้สร้างให้มันเกิดขึ้น เราอยู่ดีๆ ก็ต้องมาติดหนี้ แล้วจริงๆ ถ้าบริษัทประกันจ่ายมาจริงๆ 2.9 ล้านบาท มันก็ไม่เพียงพอต่อการสร้างบ้าน ถ้ารัฐบาลให้มาอีก 230,000 บาท มันก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี แต่ถือว่ายังโอเคที่เราจะได้สิทธิ์เหมือนๆ ชาวบ้านทุกคนที่ได้ แต่ถ้ามันลดเหลือแค่ 4 หมื่นกว่าบาทนี่ มันไม่ยุติธรรมสำหรับเราเลย”
เจ้าของบ้านรายนี้ กล่าวอีกว่า ได้คุยกับหลายๆ บ้าน ก็จะมีการฟ้องร้องทางแพ่ง เพื่อเอาผิดกับเจ้าของโกดัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการดำเนินการต้องมีค่าใช้จ่าย ตั้งทนาย และอื่นๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งตอนนี้เราก็เดือดร้อนอยู่แล้ว ก็ไม่รู้จะไปทำอย่างไรต่อ แต่ถ้ามีการรวมกลุ่มกัน ไม่ใช่เราคนเดียวไปทำ ก็น่าจะมีเพาเวอร์มากกว่านี้
“เราอยู่ของเราดีๆ แต่โกดังมาระเบิดอย่างนี้ เจ้าของโกดังจะไม่รับผิดชอบเลยหรือ เราต้องการเรียกร้องสิทธิ ชาวบ้านทุกคนอยากให้เจ้าของโกดังมารับผิดชอบ ภาครัฐก็เยียวยาไป ไม่ใช่เงียบอย่างนี้” เจ้าของบ้านโซนไข่แดงที่ตลาดมูโนะ กล่าว
@@ ชาวมูโนะตกงานกว่าครึ่งพัน
ด้านการติดตามผลกระทบของชาวบ้านที่ตลาดมูโนะ จากการรวบรวมข้อมูลของสำนักงานแรงงานจังหวัดนราธิวาส พบว่า จากยอดชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมีทั้งหมด 2,146 คน มีชาวบ้านที่ตกงานหรือไม่มีงานทำ จำนวนทั้งสิ้น 501 คน แยกเป็น
1.อยู่ระหว่างดิ้นรนหางานทำ 154 คน
2.ลงทะเบียนสมัครงาน 48 คน
3.มีความต้องการฝึกงานด้านอาชีพต่างๆ 189 คน
4.ได้ลงทะเบียนเพื่อต้องการฝึกอาชีพหลังจากเหตุการณ์โกดังพลุระเบิดคลี่คลาย จะได้มีอาชีพติดตัว จำนวน 110 คน
โดยชาวบ้านที่ตกงานหรือไม่มีงานทำ 501 คน ยังไม่รวมชาวบ้านที่ไปเช่าร้านจำหน่ายสินค้าในตลาดมูโนะอีก 200 คน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสภาวะตกงานเหมือนกับชาวบ้านอีก 501 คนที่ได้แจ้งความจำนงต่อสำนักงานแรงงานจังหวัดนราธิวาส
นายซัมรี อาแว ผู้เช่าร้านจำหน่ายเสื้อผ้าชุดนักเรียน กล่าวว่า ตนไม่ได้อยากจะเรียกร้องอะไรมาก แต่ต้องการชดเชยข้าวของที่อยู่ด้านในร้านอย่างน้อยครึ่งหนึ่งก็ยังดี แต่ตอนนี้เพิ่งได้ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท แค่นี้มันไม่เพียงพอ เพราะว่าทรัพย์สินที่อยู่ในร้านเกือบ 2 แสนบาท
“เราไปแจ้งความไว้หมดแล้ว ถ้าได้ 2 หมื่นกว่ามันไม่คุ้ม แต่ไม่รู้ว่าทางรัฐเขาเยียวยากันแบบไหน หลังจากทรัพย์สินเสียหายตอนนี้ ก็เหมือนไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ลูกก็เรียนอยู่ ขอให้ทางรัฐเร่งช่วยเยียวยาหน่อย เพราะว่าชาวบ้านมูโนะตอนนี้ลำบากกันทุกคน” นายซัมรี กล่าวอย่างทดท้อ