เมื่อเร็วๆ นี้ เดอลาแป อาร์ต สเปซ นราธิวาส เปิดนิทรรศการ "(WITHIN) THE PLACE เขาก็มีชีวิต" โดยศิลปิน ณัท เศรษฐ์ธนา, สิทธิกร ขาวสะอาด และ ณัฐนันท์ ศรเฉลิม จัดโดย ดร.ปรัชญ์ พิมานแมน อาจารย์ประจำสาขาออกแบบประยุกต์ศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี ในฐานะผู้อำนวยการเดอลาแป อาร์ท สเปช จังหวัดนราธิวาส และ ผศ.คีต์ตา อิสรั่น หัวหน้าผู้ประสานงานหลักสูตรออกแบบประยุกต์ศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี
โดยมี นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เป็นประธานเปิดการจัดแสดง ระหว่างวันที่ 1 ก.ค. ถึง 30 ก.ย.66 ณ De' Lapae Art Space Narathiwat อ.เมือง จ.นราธิวาส
ดร.ปรัชญ์ กล่าวว่า การจัดแสดงผลงานศิลปะในวันเปิดนิทรรศการ "(WITHIN) THE PLACE เขาก็มีชีวิต" เป็นการทำงานร่วมกันกับการลงพื้นที่ชุมชนในนราธิวาสของ 3 ศิลปิน คือ ณัท เศรษฐ์ธนา จากภาคกลาง กรุงเทพมหานคร, สิทธิกร ขาวสะอาด จากภาคอีสาน จังหวัดร้อยเอ็ด และณัฐนันท์ ศรเฉลิม จากภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี โดยศิลปินทั้ง 3 เข้าร่วมในโครงการ Part to Pass Artist Residency จังหวัดนราธิวาส
นิทรรศการ (WITHIN) THE PLACE เป็นการทำงานของศิลปินที่มีวิธีการนำเสนอผลงานจากเรื่องราวในจังหวัดนราธิวาสที่ถูกตีความต่างแง่มุม ในเทคนิควิธีการนำเสนอที่แตกต่างกันออกไปตามความถนัด แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนอยากจะเล่าและถ่ายทอดออกมา คือการพบเจอเรื่องราวของการมาพำนักในนราธิวาสทั้งหมด 26 วัน การพบเจอผู้คน สถานที่ ความรู้สึกเหล่านี้ได้ถูกนำเสนอและรอให้ทุกคนมาร่วมรับชม
"เป็นงานที่เราตั้งใจนำเสนอมากๆ หากเรามาเป็นศิลปินนราธิวาส 1 เดือน เรื่องที่เราสนใจจะนำเสนอเป็นผลงานจะออกมารูปร่างหน้าตาอย่างไร” ดร.ปรัชญ์ ผูกปมให้คิด
"ศิลปิน ทั้ง 3 ท่าน มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป ทั้งวิธีคิดและการทำงาน อย่าง ‘ณัท’ เป็นศิลปินในพำนัก จากการคิดงานโดยการตั้งคำถามและชวนพูดถึงประเด็นในหลากหลายแง่มุม โดยการคิดย้อนกลับและคิดเข้าไปถึงพื้นที่ของนราธิวาส และพื้นที่ของสเปซ โดยใช้เสียงที่มีอยู่ในพื้นที่ เสียงของสเปซเป็นตัวเล่า และนำพาผู้คนไปสู่การรับฟังที่สะท้อนไปสะท้อนมาของเรื่องเล่าที่เขาสนใจนำมาสู่การรับฟัง
‘ตุ้ย’ (สิทธิกร) เป็นศิลปินอีสานที่เคยลงมานราธิวาสแล้วในปีก่อน เราไปร่อนทองด้วยกัน และมีความสนใจในการออกไปเป็นศิลปินพำนักในหลายๆ เมือง เช่น ญี่ปุ่น (Artist in Residency) ในครัังนี้ที่นราธิวาส ตุ้ยสนใจในการทำอาหาร เพื่อเปิดการรับรสชาติที่แตกต่างออกไปในเมนูซุป เพียงแต่การเปิดรับรสชาติในครั้งนี้ จะว่าด้วยรสชาติขมที่ถูกปูพื้นจากเบื้องหลังของสี ซึ่งศิลปินมักจะใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน สีน้ำเงินในที่นี้เป็นดั่งตัวแทนของศิลปิน และเป็นเรื่องการไขว่คว้าของชนชั้น
‘เซฟ’ (ณัฐนันท์) ศิลปินอีกท่านที่เห็นการเจอผู้คนที่มีวัฒนธรรมของตัวเอง เลยนำมุมนี้มาเล่าและเกี่ยวกับการเลี้ยงนกกรงหัวจุก โดยศิลปินสนใจการจัดวางภาพประกอบ ทั้งการตัดกระดาษ การคอลลาจ (ปะติด) รวมถึงการใช้สีในระนาบ 2 มิติ ที่เล่าเรื่องราวของนก เป็น 4 ผลงานที่แสดงถึงความเข้มข้นทางวัฒนธรรม
การพาศิลปินจากที่อื่นๆ มาพำนักอยู่ที่นี่ อย่างหนึ่งมันคือการแชร์ริ่ง ทำให้ได้เราเห็นว่า นราธิวาสจะขับเคลื่อนอย่างไรในแง่ของวัฒนธรรม” ดร.ปรัชญ์ กล่าว
@@ กระจกสะท้อนกันและกัน
พร้อมย้ำว่า นิทรรศการ (WITHIN) THE PLACE ศิลปินพยายามบอกว่า “เขาก็มีชีวิต” เขาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่คน แต่หมายถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในพื้นที่ ศิลปินจึงเลือกใช้คำว่า “เขา” เพื่อเป็นตัวแทนของพื้นที่ที่มีชีวิตแห่งนี้
“เดอลาแป อาร์ต สเปซ เปรียบเสมือนกระจกสะท้อนศิลปินในพื้นที่ มันไม่ได้สะท้อนแค่เราในฐานะศิลปินที่มีบ้านอยู่ที่นี่ แต่ยังเป็นกระจกสะท้อนศิลปินจากข้างนอกที่เข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ด้วย
“เราเชื่อว่า อย่างน้อยศิลปินข้างนอกเข้ามาในนราธิวาส จะได้มีพื้นที่แลกเปลี่ยน ตัวศิลปินเองก็ได้เข้าใจในบริบทพื้นที่มากขึ้น ในแง่ของคนทำงานศิลปะจึงเปรียบเสมือนกระจกที่ช่วยกันสะท้อนไปมา” ดร.ปรัชญ์ อธิบาย
@@ จาก “เจ้าบ้าน” มาเป็น “แขก”
ณัท เศรษฐ์ธนา ศิลปินจากกรุงเทพมหานครที่มาพำนักที่นราธิวาส กล่าวว่า พอเป็นโครงการที่เริ่มมาจากการมาใช้ชีวิต ทำให้ได้เห็นความเป็นภูมิทัศน์ของที่นี่ชัดเจนขึ้น
"ผมเริ่มเล่างานศิลปะจากในบ้านของตัวเอง พอเราย้ายถิ่นมาเป็นแขก เราพาอย่างอื่นมาด้วย ทั้งมุมมอง ลิ้น เริ่มเปิดรับ และสำรวจรอบๆ ตัวก่อน ทำให้นึกขึ้นได้ว่า เราไม่สามารถตัดสินพื้นที่แห่งนี้ได้ในทันทีทันใด
เราเดินในบ้านตัวเอง เดินไปกี่ก้าว ก็สามารถรับรู้ได้ว่าเราเดินไปกี่ก้าว จะเจอกับอะไรบ้าง จะไปเปิดไฟ จะไปหยิบของตรงไหน แต่พอเราย้ายจากความเป็นเจ้าบ้านมาเป็นแขก ทำให้เราเปิดรับ สำรวจโลกของเขาอีกแบบหนึ่ง โดยไม่ตัดสินบางอย่างในทันที” ณัท กล่าวถึงวิธีคิดในการทำงาน
"การที่เราได้มาสำรวจพื้นที่ทำให้ได้ศึกษาความเป็นสาระจริงๆ ของตัวพื้นที่ ซึ่งเราใช้ความเป็นสถานที่มาเป็นโจทย์ว่า ในเมื่อเราเป็นแขกของที่นี่ สิ่งที่เราต้องทำ ต้องดีลกับสถานที่ตลอดเวลา อาจจะหมายถึง การชิมรสชาติใหม่ๆ การได้เห็นแลนด์สเคปใหม่ๆ หรือวัฒนธรรมใหม่ๆ โดยงานของเราจึงหมายถึงการดีลกับสถานที่ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งจะมาพร้อมกับความคุ้นชิน เพราะฉะนั้นแลนด์สเคปมีอยู่ทั้งภายในและภายนอก
ผมเลือกทำงานศิลปะกับตัวพื้นที่ที่มีอยู่แล้ว เหมือนเราฟังว่าสถานที่มันมีอะไร และเราก็จัดการกับภูมิทัศน์ที่เรามี”
@@ ทำตัวเป็นฟองน้ำ ซึมซับชายแดนใต้
สิทธิกร ขาวสะอาด กล่าวว่า ความรู้สึกแรกก่อนจะมาที่นราธิวาส ไม่มีไอเดียกับพื้นที่ หยิบแค่เสื้อผ้ามาใส่กระเป๋า พอมาอยู่ที่นี่ อ.ปรัชญ์ ก็ให้ข้อมูลแนะนำในมิติต่างๆ ทั้งมิติการเมือง ทรัพยากร และวัฒนธรรมของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
"จากที่ผมไม่มีไอเดีย ว่างเปล่า ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ผมพยายามทำตัวเป็นฟองน้ำ เริ่มซึมซับความเป็นที่นี่ ผมมองว่าอาหารที่นี่หวานมากนะ ไม่ได้เป็นเรื่องน่าเกลียดอะไร ผมจึงหยิบเรื่องความหวานกับความขมเล่าผ่านงานศิลปะ
คนที่นี่ทานหวาน ดูว่าที่นี่มีอะไรบ้างที่ให้สัมผัสรสขม และทำอย่างไรให้อาหารเป็นสีฟ้า ผมจึงหยิบสองสิ่งนี้ ความขม และสีฟ้า”
เขาเล่าต่อว่า เมื่อได้เมนูอาหารจึงใช้วิธีไปถามคนทั่วไป ทำไมคนที่นี่ไม่ทานขม ทานหวานมาก เขาก็จะให้คำตอบและเล่าเรื่องราวต่างๆ
“ผมไม่ชินกับรสหวานของที่นี่ ย้อนกลับมาคิด เราชินกับตัวเองมากเกินไป สุดท้ายแล้วมันคือบริบทของความปกติของพื้นที่นี้" สิทธิกร กล่าว
@@ ชีวิตในกรง...เหมือนนกกรงหัวจุก
ณัฐนันท์ ศรเฉลิม บอกว่า งานศิลปะครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนกที่อยู่ในกรง เมื่อไปนั่งร้านน้ำชา เห็นกรงนกหัวจุกมาแขวนอยู่ตามบ้านเกือบทุกบ้าน จึงเป็นแรงบันดาลใจหนึ่งในการคิดงาน
“ผมรู้สึกว่าคนที่นี่เหมือนกับนกกรุงหัวจุกที่ต้องอยู่ในกรง กรงเปรียบเสมือนพื้นที่หนึ่งที่มีวัฒนธรรมที่สวยงาม ผมจึงตีความผลงานชิ้นนี้มาเป็นงานที่จัดแสดงในวันนี้ มีอยู่ 4 ชิ้น เป็นการเล่าเรื่องนกที่อยู่กรงทั้ง 4 แบบ ชิ้นแรก นกที่อยู่ในกรงสวยงามอยู่ในพื้นที่ที่เป็นวัฒธรรมของเขา พร้อมๆ กับเป็นกรงที่สร้างบาดแผลให้เขา
ชิ้นที่ 2 นกที่พยายามจะหนีจากกรงของเขา หนีจากพื้นที่ของเขา เขาอยากเดินหน้าต่อ หรืออยู่ในพื้นที่นี้ของเขาต่อไป ชิ้นที่ 3 นกที่คิดว่าการออกไปนอกกรง เขาคิดว่ามีอิสระ และงานชิ้นที่ 4 เป็นงานเย็บผ้าม่าน เป็นการเล่าว่าพื้นที่นอกกรงและในกรง เรามีการเขียนในผ้าม่านเป็นภาษาอาหรับไว้ คือ คำว่า ไป และ กลับ”
“ส่วนตัวชอบทุกอย่างที่นี่ คนน่ารัก อาหารอร่อย การมาที่นี่ทำให้เราชอบมาก” สิทธิกร กล่าว