แม่ทัพภาคที่ 4 นำคณะนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา เดินสายลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล และพี่น้องประชาชน ทั่วทุกพื้นที่ชายแดนใต้ ทั้งปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของสงขลา หวังสร้างความอุ่นใจ ปลอดภัย ต้อนรับปีใหม่ 2566
เมื่อวันเสาร์ที่ 31 ธ.ค.65 พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เดินสายลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่กำลังพล ชุดปฏิบัติงานตามจุดตรวจ ด่านตรวจ จุดบริการประชาชน ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) พร้อมไปพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมในพื้นที่ เนื่องในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 ทั่วพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา (อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย นาทวี)
คณะผู้บังคับบัญชา นอกจากแม่ทัพศานติแล้ว ยังประกอบด้วย พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และรอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. รับผิดชอบตรวจเยี่ยมในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส
พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตรวจเยี่ยมในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี
พล.ต.เฉลิมพงค์ คงบัว เลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ตรวจเยี่ยมในพื้นที่อำเภอเมือง จ.นราธิวาส
พล.ท.อุทิศ อนันตนานนท์ แม่ทัพน้อยที่ 4 และผู้อำนวยการสำนักอำนวยการข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 สน. ตรวจเยี่ยมพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
และรองเลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ตรวจเยี่ยมในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี, อ.จะนะ จ.สงขลา และ อ.รามัน จ.ยะลา
วัตถุประสงค์สำคัญเพื่อสร้างความมั่นใจ อุ่นใจด้านความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลต้อนรับปีใหม่ รวมถึงลงไปเน้นย้ำนโยบายตามมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่แก่เจ้าหน้าที่ ให้เฝ้าระวังคุมเข้มสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชน ควบคู่กับการป้องกันฐานที่ตั้งอย่างเข้มข้น ตลอดจนอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน
ทุกจุดที่ลงพื้นที่มีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ร่วมให้การต้อนรับ โดยการปฏิบัติงานทุกฝ่ายให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานเป็นอย่างดี
พร้อมกันนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะผู้บังคับบัญชา ได้กล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่แก่กำลังพลเจ้าหน้าที่ ประชาชน และมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ รวมทั้งพักค้างแรม ร่วมวงอาหาร ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ สร้างความอุ่นใจปลอดภัยให้กับประชาชนเป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่ 2566
ภายหลังการตรวจเยี่ยมพบปะกำลังพล เจ้าหน้าที่ และประชาชน แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โพชฌังคปริตร เจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ ศาลาการเปรียญ วัดเนรัญชราวาส อ.บันนังสตา จ.ยะลา
เวลา 23.30 น. คืนส่งท้ายปีเก่า แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะผู้บังคับบัญชา พร้อมด้วยพี่น้องพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2566 ด้วย
เช้าวันปีใหม่ 1 ม.ค.2566 แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะผู้บังคับบัญชาฯ รวมถึงส่วนราชการ และพี่น้องพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ได้ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในวันปีใหม่ ณ วัดในพื้นที่ เพื่อความเป็นสิริมงคล และดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ตลอดจนมุ่งหวังให้ประชาชนมีความสุข ต้อนรับปีใหม่ 2566
โอกาสนี้ยังได้ร่วมรับประทานอาหาร พบปะพูดคุย พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง
@@ 19 ปีไฟใต้ กองทัพลดกำลังพล - บำรุงขวัญผู้เสียสละ
จะเห็นได้ว่า แม่ทัพภาคที่ 4 และนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา ได้ลงพื้นที่ครบทุกจังหวัดที่มีสถานการณ์ความไม่สงบ และปัญหาความมั่นคง หรือที่เรารู้จักกันดีว่า “ปัญหาไฟใต้” ซึ่งก็คือ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาที่เป็นพื้นที่รอยต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ อำเภอจะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี
โดยในวันที่ 4 ม.ค.2566 ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันครบรอบ 19 ปี เหตุการณ์ปล้นปืน จำนวน 413 กระบอก จากค่ายปิเหล็ง หรือ ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ปล้นปืนครั้งใหญ่ที่สุดในบ้านเรา และเรียกได้ว่าเป็น “วันเสียงปืนแตก” ของกลุ่มก่อความไม่สงบที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนชายแดนใต้ ที่เปิดฉากต่อสู้ด้วยอาวุธกับรัฐบาลไทย และฝ่ายความมั่นคงไทย โดยหลังจากนั้นได้เกิดเหตุรุนแรงรูปแบบต่างๆ แทบจะรายวัน ทั้งยิง ทั้งเผา ทั้งลอบวางระเบิด ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลาได้เกือบ 19 ปีเต็มแล้ว
รัฐบาลไทยในช่วงทศวรรษหลัง มอบอำนาจให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. โดย “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” เป็นหน่วยงานกลางในการบังคับบัญชาและควบคุมหน่วยปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาไฟใต้ทั้งหมด ที่ผ่านมาสถานการณ์โดยรวมดีขึ้น สถิติการก่อเหตุรุนแรงลดน้อยลง ทำให้มีการลดกำลังทหารหลักซึ่งระดมมาจากกองทัพภาคต่างๆ ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ และสร้างกองกำลังประจำถิ่น ทั้ง “ทหารพราน” และ “กองกำลังภาคประชาชน” ขึ้นมาดูแลพื้นที่แทน
ปีที่แล้วมีการลดกำลังพลไป 4,000 นาย ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แม่ทัพภาคที่ 4 จะต้องตระเวนเยี่ยมให้กำลังใจและบำรุงขวัญ เพราะถือเป็นกองกำลังที่เสียสละ และปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย ในขณะที่คนอื่นๆ ได้เฉลิมฉลองหรือหยุดพักผ่อน
การลงพื้นที่เยี่ยมเยียนบำรุงขวัญกำลังพล โดยลงไปแบบใกล้ชิด ถึงขั้นล้อมวงกินข้าว เกิดขึ้นในยุค “แม่ทัพเกรียง” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ตั้งแต่ปี 2563-2565 โดยปัจจุบัน พล.อ.เกรียงไกร ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก แต่ก็ยังไม่ทอดทิ้งกำลังพล และเพิ่งเดินทางลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบของขวัญปีใหม่ของ ผบ.ทบ. เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง
สำหรับแม่ทัพภาคที่ 4 คนปัจจุบัน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค ได้ยึดแบบแผนประเพณีดีๆ ของ “แม่ทัพเกรียง” จึงมีกิจกรรมลงพื้นที่เยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพล และเยี่ยมเยียนสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนด้วยเช่นกัน
ส่วนวาระ 19 ปีไฟใต้ วันที่ 4 มกราคมที่จะถึงนี้ “ทีมข่าวอิศรา” จะมีรายงานพิเศษมานำเสนอ หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า เราทุ่มเทงบประมาณไปกับปัญหานี้แล้วถึงเกือบ “ครึ่งล้านล้าน” บาท ฉะนั้นหลายฝ่ายจึงคาดหวังว่า ไฟใต้น่าจะสงบเสียทีในวาระ 20 ปีไฟใต้ หรืออีก 1 ปีข้างหน้า แต่ความหวังจะเป็นจริงหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม