"บราวนี่ขายดีที่สุดในราคาสำหรับน้องๆ ในโรงเรียนให้ได้ทานขนมอร่อยๆ เราทำขนมส่งในโรงเรียนวันละ 1,200 ชิ้น อาทิตย์ละ 5 วัน ทุกคนในชั้นคิตมัตจะทำเป็นกันทุกคน"
เป็นเสียงที่เจือความสุขและความภูมิใจของ มุสลีฮะ สามะ นักเรียนชั้นคิตมัต (ชั้นบำเพ็ญประโยชน์) ในมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้าปัญญาเลิศ ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ที่บอกเล่าถึงการฝึกทำเบเกอรี่และขนมไทยของพวกเธอ จนสามารถวางขาย จัดเบรค (เสิร์ฟในช่วงพักเรียน พักประชุม) ได้อย่างมีพัฒนาการ
“ร้านอัลอัยตามชอป” เกิดขึ้นด้านหน้าอาคารของมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้าปัญญาเลิศ เป็นทั้งที่พักและห้องเรียนของเด็กในมูลนิธิฯ เพื่อวางจำหน่ายสินค้าและของฝากจากฝีมือเด็กๆ รวมถึงสินค้าในชุมชน มีเบเกอรี่, ยาหม่องอับบะตุสเซาดะฮ, ตะไคร้หอม, พิมเสนน้ำ, ลูกหยีรูปแบบต่างๆ, กรือโป๊ะธัญพืช, ถั่วต่างๆ, น้ำผึ้งเกสรดอกไม้ เป็นต้น
ลูกค้าของร้านคือนักเรียนในโรงเรียนดารุลบารอกะฮ และผู้ที่ผ่านมาเยี่ยมเยืยน
กำลังสำคัญของการเปิด “ร้านอัลอัยตาม” และการผลิตสินค้า คือนักเรียนชั้นคิตมัตที่มีความตั้งใจ มุมานะ อดทนเรียนรู้ จนสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่ม
มุสลีฮะ บอกว่า รายได้แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นค่าบริหารจัดการ ค่าอุปกรณ์ ส่วนที่ 2 เป็นค่าอาหารกลางวันของนักเรียนหอพักจำนวน 5,000 บาท และส่วนที่ 3 เป็นทุนการศึกษาและทุนให้น้องๆ นักเรียนในหอพักที่มีกันเกือบ 200 ชีวิต
"วันศุกร์และเสาร์ที่เป็นวันหยุดเรียนของเรา เราจะทำออเดอร์ของวันอาทิตย์และวันจันทร์ ส่วนวันอาทิตย์ถึงพฤหัสบดีทำกันทุกคืนหลังเลิกเรียน แบ่งกันทำตามความรับผิดชอบของแต่ละฐาน คือฐานเด็ก ฐานห้องครัว ฐานมูลนิธิ ฐานบุคลากร ฐานการเงิน และฐานธุรการ”
“ตอนฝึกทำมีครูมาสอนจนเราทำเป็นในเวลา 1 เดือน ทั้งขนมไทยและเบเกอรี่ ทั้งบราวนี่ ทาร์ตไข่ ชิฟฟ่อน เค้กกล้วยหอม คุกกี้ เครปเย็น เค้กปอนด์ ธัญพืชอบ ขนมชั้น ขนมปุยฝ้าย สามารถสั่งปลีกหรือสั่งเค้กล่วงหน้าได้ เวลามีแขกมาเยี่ยม โรงเรียนเราก็จัดเบรคเอง"
มุสลีฮะ เป็นเด็กปัตตานี มาเรียนที่นี่ตั้งแต่ ม. 1 เมื่อปี 2559 เป็นพี่คนโตที่มีน้องอีก 6 คนกำลังเรียนศาสนา ตอนนี้เธอเรียนจบศาสนาชั้น 10 และเป็นนักเรียนชั้นคิตมัตที่ตั้งใจเรียนรู้วิชาชีพนี้เพื่อนำไปเป็นอาชีพสร้างรายได้เมื่อจบไปจากที่นี่
"เมื่อเรียนศาสนาจบชั้น 10 แล้ว ก็จะเป็นชั้นคิตมัตที่บำเพ็ญประโยชน์ ฝึกเรียนวิชาชีพจบไปแล้วใครจะเลือกทำอาชีพอะไรหรือไปเรียนต่อก็สามารถทำได้ ฝึกให้ชำนาญโดยสามารถนำไปใช้ในอนาคตได้แน่นอน ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านก็ได้ เราสามารถขายทางออนไลน์ได้"
นักเรียนชั้นคิตมัตปีนี้มีจำนวน 13 คน ในจำนวนนี้ 3 คนไปฝึกงานและทำงานควบคู่กันที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนอีก 10 คนกำลังตัดสินใจ
กิจกรรมนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้าปัญญาเลิศ และ OTAI Group Malaysia ในการพัฒนาทักษะวิชาชีพด้านธุรกิจการอาหารแก่นักเรียนระดับชั้นคิตมัตกับอาหารว่าง เค้ก และเบเกอรี่ ตลอดจนทักษะการเปิดและบริหารจัดการ ตลอดจนขยายกิจการร้าน ฝึกอบรมร่วมกันเพื่อสร้างโอกาสแก่พวกเขา
"ในอนาคตทุกการงานคือการเรียนรู้ ฝึกตั้งแต่วัยเยาว์เพื่อต่อยอดกิจการในอนาคต" มุสลีฮะ บอก
อุดหนุนขนมจากฝีมือเยาวชนที่ตั้งใจในโอกาสที่หยิบยื่นให้พวกเขาได้ที่...เพจมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้าปัญญาเลิศ