ระทึกซ้ำ! ฉก.ร.5 ออกลาดตระเวนเส้นทางรถไฟในพื้นที่ปาดังเบซาร์ คุมเข้มหลังโดนลอบวางระเบิด พบถูกลักลอบถอดหมุดยึดราง หายไป 80 ตัว ตามรวบตัววัยรุ่นผู้ก่อเหตุ สารภาพถอดหมุดไปขาย นำเงินไปซื้อยาเสพติด
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนส่งสินค้า เส้นทางชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 จนโบกี้บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งยางพาราตกรางถึง 9 โบกี้ และเกิดระเบิดซ้ำขณะเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กำลังเก็บกู้ตู้สินค้า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.65 ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 4 ราย ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงยกระดับมาตรการคุมเข้มเส้นทางคมนาคมและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น พร้อมบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนควบคุมพื้นที่ล่อแหลม โดยเฉพาะในเขตเมืองและเขตเศรษฐกิจสำคัญนั้น
ล่าสุดวันจันทร์ที่ 12 ธ.ค.65 ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 (ฉก.ร.5) บูรณาการการปฏิบัติร่วมกัน 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ ร่วมกันเดินลาดตระเวนเส้นทางรถไฟ เมื่อถึงพื้นที่หมู่ 3 บ้านท่าข่อย ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา ได้ตรวจพบรางรถไฟถูกถอดน็อตออกไปจำนวน 80 ตัว จึงแจ้งให้แขวงทางการรถไฟปาดังเบซาร์ดำเนินการซ่อมแซม
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุดังกล่าว พบว่ามีชายวัยรุ่น 2 คนนำน็อตพร้อมสกรูไปขายที่ร้านขายของเก่า ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา ทราบชื่อ คือ นายองอาจ เผือกผ่อง และนายไพร อินทรีย์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมนายองอาจได้ที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ผลการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า นำเงินที่ได้จากการขายหมุดรางรถไฟไปซื้อยาเสพติด ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการติดตามจับกุม