เบตงกลับมาคึกคัก ต่างชาติแห่ข้ามชายแดนเข้ามาเที่ยวหลังโควิดซา แม่ค้าเผยกว่า 2 ปีเพิ่งได้จับเงินมาเลย์ ขณะที่ “เอ็ม- แลนดาร์ช” เล็งนำเครื่องบินเล็กเปิด 3 เส้นทางบินเบตง ให้บริการนักธุรกิจ ประชาชน นักท่องเที่ยว
วันจันทร์ที่ 30 พ.ค.65 ภายหลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.ชุดใหญ่) เห็นชอบการเปิดด่านทางบก (จุดผ่านแดนถาวร) จำนวน 17 จังหวัด 31 ด่าน ซึ่งด่านพรมแดนเบตงก็เป็น 1 ใน 31 ด่านที่ได้เปิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน จ.ยะลา ตรวจพบผู้ติดเชื้อยืนยันไม่ถึงวันละ 5 คน และผู้ติดเชื้อเข้าข่ายเพียงหลักสิบนั้น ส่งผลให้สถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง
โดยเฉพาะจุดเช็คอินในเขตเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา ที่มีการตกแต่งไฟตามถนนใจกลางเมือง เพื่อให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาวางจำหน่าย ปรากฏว่ามีประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติพากันไปเที่ยวจับจ่ายใช้สอยจำนวนมาก โดยเฉพาะของฝากและสินค้าพื้นเมือง แต่ทุกคนทั้งพ่อค้าแม่ค้าและนักท่องเที่ยวเองยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าเลือกซื้อสินค้าหรือท่องเที่ยวตามจุดเช็คอิน
แม่ค้าขายข้าวเหนียวมะม่วง เล่าว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มเบาบาง ทำให้การท่องเที่ยวของ อ.เบตง มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ เข้ามามากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดิมเป็นนักท่องเที่ยวหลัก ขณะที่คนไทยก็เริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและเข้ามาทำธุรกิจมากขึ้น ทำให้สถานการณ์ของภาคธุรกิจ ตลอดจนสถานประกอบการกลับมากระเตื้องขึ้น และการเปิดสถานบันเทิงจะช่วยให้การท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้นอีก เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติชื่นชอบ
“ตั้งแต่ปิดด่านพรมแดนมานานกว่า 2 ปี การค้าขายไม่เคยได้จับเงินมาเลเซียเลย เมื่อเปิดด่านก็เป็นสัญญาณที่ดี คือมีเงินมาเลเซียสะพัดในพื้นที่ ซึ่งช่วงโควิดที่ผ่านมาทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าและสถานประกอบการหลายแห่งปิดตัวลง เพราะยื้อไม่ไหว ไร้นักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่เมื่อมีการผ่อนคลายควบคู่ไปกับสถานการณ์แพร่ระบาดอยู่ในขาลง ทำให้ในพื้นที่ อ.เบตง มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเกิดเงินสะพัดและเงินหมุนเวียน ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้หลังจากที่ซบเซามานาน” แม่ค้าข้าวเหนียวมะม่วง กล่าว
@@ คนไทยไม่ต้องใช้ “ไทยแลนด์พาส”
สำหรับการอำนวยความสะดวกการท่องเที่ยวหลังจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ไทยจะปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศอีกครั้ง โดยยกเลิกการกักตัวทุกรูปแบบ สำหรับคนไทยไม่ต้องลงทะเบียนผ่านระบบไทยแลนด์พาส และไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้าไทย แต่ชาวต่างชาติยังต้องลงทะเบียนในระบบไทยแลนด์พาส โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามข้อกำหนด ให้แนบหลักฐานการรับวัคซีนและประกันสุขภาพวงเงินขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ กรณีไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามข้อกำหนด ให้แนบหลักฐานการตรวจโควิด-19 ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ส่วนจุดผ่านแดนทางบกทุกจุด จะเปิดภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้เช่นกัน
นายมนชิต วาสะสิริ หัวหน้าฝ่ายบริการด่านศุลกากรเบตง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านพรมแดนอำเภอเบตง มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ศบค.กำหนด สำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ต้องแสดงหลักฐานรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบตามเกณฑ์
@@ “เอ็ม-แลนดาร์ช” เล็งนำเครื่องบินเล็กเปิด 3 เส้นทางบินเบตง
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานเบตง นายบุญชัย เลี้ยงภิรมย์ภักดี ปลัดอำเภอเบตง ได้เป็นประธานการประชุมปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการเปิดเส้นทางบินของ บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด ที่จะนำเครื่องบินขนาดเล็ก 19 ที่นั่ง รุ่น C408 Sky courier ซึ่งเป็นรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดโลก เมื่อวันที่ 21 มี.ค.65 มาใช้บินเส้นทาง เบตง-หาดใหญ่, เบตง-ภูเก็ต, เบตง-นราธิวาส โดยมี นายธานี ธราภาค กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด, นางกรณิศ สุขการ นักวิชาการขนส่งชำนาญการรักษาราชการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานเบตง, นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง ตลอดจนนักธุรกิจ สมาคมพ่อค้า การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารในพื้นที่ และตัวแทนสายการบินภาคเอกชน เข้าร่วมหารือ
ในการประชุมเป็นการพูดคุยแบบเป็นกันเอง โดยตัวแทน บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด ได้สอบถามขอข้อมูล พร้อมขอคำแนะนำต่างๆ จากนักธุรกิจ ทั้งข้อมูลการใช้สนามบิน ข้อมูลการท่องเที่ยวในพื้นที่ จำนวนโรงแรมที่พักใน อ.เบตง ที่จะรองรับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงธุรกิจการค้าในพื้นที่และละแวกใกล้เคียง เพื่อจะได้ทราบความต้องการในการเดินทางและภาวะเศรษฐกิจ ก่อนจะตัดสินใจนำเครื่องบินมาบิน ซึ่งทางนักธุรกิจในพื้นที่ก็ต้องการให้ บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด เปิดเส้นทางบิน เพื่อความสะดวกในการเดินทางและเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว
นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ทาง บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด สนใจจะนำเครื่องบินมาเปิดให้บริการทำการบินในเส้นทางเบตง เบื้องต้นทราบว่า เครื่องบินที่จะนำมาให้บริการนั้น เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก 19 ที่นั่ง รุ่น C408 Sky courier ส่วนจะเปิดให้บริการได้เมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับทางบริษัท ในส่วนของนักธุรกิจและประชาชนในพื้นที่นั้น อยากให้รีบดำเนินการ เพราะจะได้สะดวก ลดระยะเวลาการเดินทาง เพิ่มทางเลือกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวใน อ.เบตง และตามแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้
นายธานี ธราภาค เปิดเผยว่า บริษัท เอ็ม-แลนดาร์ช จำกัด ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 ตามระเบียบกระทรวงพาณิชย์ มีทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นทั้งหมดเป็นคนไทย ด้วยประสบการณ์ของทีมงานกว่า 50 ปีในธุรกิจการบิน ประกอบกับวิธีการเดินทางของนักเดินทางที่เปลี่ยนไปหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทได้เล็งเห็นถึงโอกาสและการเพิ่มศักยภาพในการนำนักท่องเที่ยวและเพิ่มทางเลือกในการเดินทางที่ใช้เวลาสั้นกว่าและมีความปลอดภัยตามมาตราฐานการบินสากล ในราคาที่จับต้องได้ให้แก่คนในพื้นที่ภาคใต้ อีกทั้งสามารถนำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นส่งออกและนำเข้าสู่ อ.เบตง รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้นด้วย
ส่วนเส้นทางบินที่ทางบริษัทสนใจนั้น เบื้องต้น มี 3 เส้นทาง คือ เบตง-หาดใหญ่ ระยะเวลาการบินประมาณ 40 นาที, เบตง-ภูเก็ต ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง 40 นาที และ เบตง-นราธิวาส ระยะเวลาการบิน ประมาณ 40-45 นาที ส่วนค่าใช้จ่าย มีการประเมินไว้เบื้องต้น เช่น ในเส้นทางระยะสั้น ราคาอยู่ประมาณ 1,500 บาทต่อที่นั่ง ส่วนเส้นทางที่ต้องใช้ระยะเวลาการบิน จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาทต่อที่นั่ง นอกจาก 3 เส้นทางนี้แล้ว ก็ยังสนใจจะเปิดตลาดการบิน เส้นทางต่างประเทศ อย่าง เบตง-ปีนัง, เบตง-ลังกาวี อีกด้วย ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและการประเมินของบริษัท