ป.ป.ช.ภาค 9 แถลงผลการปราบปรามทุจริตในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง พบ 4 จังหวัดชายแดนใต้มีมติชี้มูล 3 เรื่อง ศาลมีคำพิพากษาแล้ว 1 เรื่อง ส่วนด้านป้องกันและเฝ้าระวังทุจริต พบถนนเลี่ยงเมือง อ.แว้ง นราธิวาส เป็นหลุมเป็นบ่อหลังสร้างเสร็จไม่นาน
วันจันทร์ที่ 28 มี.ค.65 สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 9 ได้แถลงผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ 2564 และปีงบประมาณ 2565 ครั้งที่ 3 ที่โรงแรมลำปำรีสอร์ท อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง
สาระสำคัญที่แถลง แบ่งเป็นผลงานด้านการปราบปรามการทุจริต เรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลรวม 12 เรื่อง และเรื่องที่ศาลมีคำพิพากษาในกรณีทุจริตประพฤติมิชอบ รวม 1 เรื่อง
นอกจากนั้นเป็นผลงานด้านการป้องกันการทุจริต อาทิ ตรวจสอบถนนสายทางเลี่ยงเมืองแว้ง-บางขุด หมู่ 1 บ้างบางขุด ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส
@@ ฟันนายก อบต. ขุดลอก-ดูดทรายคลองอู่ตะเภาไม่โปร่งใส
เรื่องปราบปรามทุจริตที่เกี่ยวข้องกับ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลแล้ว มีจำนวน 3 เรื่อง คือ
1.เรื่องในความรับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา
ผู้ถูกกล่าวหาคือ นายสุนทร จันทร์งาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา กับพวก ได้ร่วมกันดำเนินการโครงการขุดลอกสันดอนทรายคลองอู่ตะเภาและคลองหลำ โดยสมรู้ร่วมคิดกันเพื่อแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรของรัฐโดยทุจริต มิได้มุ่งหมายแก้ไขปัญหาให้เป็นตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ไม่ตรวจสอบและควบคุมการขุดลอกคลองตามโครงการดังกล่าว กลับให้ผู้รับจ้างดำเนินการดูดทรายโดยไม่ชอบด้วยระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการเกี่ยวกับการขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ที่ตื้นเขิน พ.ศ.2547และหลีกเลี่ยงไม่เปิดโอกาสให้มีการเสนอราคาอย่างเป็นธรรมในการดำเนินโครงการดังกล่าว
พฤติการณ์การกระทำความผิดโดยสรุป คือ นายสุนทร จันทร์งาม ในฐานะนายก อบต.ท่าโพธิ์ เป็นผู้เสนอโครงการขุดลอกสันดอนทรายคลองอู่ตะเภาและคลองหลำ เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง และการสัญจร ซึ่งได้ดำเนินการในช่วงปีงบประมาณ 2550-2551 และในปีงบประมาณ 2552-2554 โดยให้ผู้รับจ้างนำวัสดุ กรวด หิน ดิน ทรายที่ได้จากการขุดเป็นค่าตอบแทน มีนายธนาคม ขุนโหร เป็นผู้รับจ้าง และเป็นผู้จัดทำรายละเอียดตามโครงการเสนอให้ นายสุนทร จันทร์งาม ลงนามอนุมัติ โดยที่ไม่ได้ผ่านขั้นตอนกระบวนการของส่วนราชการภายใน อบต.และที่ประชุมของ อบต.
ประกอบกับการดำเนินการจัดจ้างขุดลอกตามโครงการมิได้มีการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 กล่าวคือ ไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับงานจ้างหรือตรวจสอบปริมาตรของดิน หิน กรวด ทรายที่ได้จากการขุดลอกและผู้รับจ้างก็มิได้ส่งมอบงานจ้าง ทั้งๆ ที่ได้ทำสัญญาจ้างขุดลอกกับ อบต.ท่าโพธิ์ จำนวนหลายครั้งด้วยกัน
นอกจากนี้ในการดำเนินงานของผู้รับจ้างนั้น ก็ได้ดำเนินการขุดลอกโดยใช้เครื่องดูดทรายวางไว้บนทุ่นเรือแพ แล้วทำการดูดทรายอยู่ที่จุดเดิม โดยไม่ได้เคลื่อนย้ายไปยังจุดอื่นเลย อันมิใช่ลักษณะของการขุดลอกสันดอนทรายเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง และการสัญจรให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่ อบต.ท่าโพธิ์ ได้กำหนดไว้ ทั้งการขุดลอกดังกล่าวก็มิได้เป็นไปตามตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการเกี่ยวกับการขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ที่ตื้นเขิน พ.ศ.2547 และเงื่อนไขในการอนุญาตที่กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้กำหนดไว้ว่าให้ใช้รถแบคโฮขุดลอกเท่านั้น
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 9 เสียง ดังนี้
การกระทำของ นายสุนทร จันทร์งาม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลเป็นการกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
การกระทำของ นายธนาคม ขุนโหร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 จึงส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดีอาญาต่อศาล และส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาดำเนินการทางวินัย
@@ สอบเทศบาลปล่อยเอกชนสร้างอาคารบุกรุกที่ดินรัฐ
2.เรื่องในความรับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสงขลา
ผู้ถูกกล่าวหาคือ นายเกชา เบ็ญจคาร ตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสำนักขาม กับพวกรวม 1 คน ได้ร่วมกันกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีเจตนาปล่อยให้เอกชนก่อสร้างอาคารร้านขายอาหารและสิ่งปลูกสร้างบุกรุกที่ดินของรัฐ บริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำกงสีขาว หมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมิชอบ
ทั้งนี้การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
@@ ธารโตเจอสอบโกงโครงการประปาผิวดิน
3.เรื่องในความรับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยะลา
ผู้ถูกกล่าวหาคือ นายฮูเซ็น กอตา นายก อบต.ธารโต กับพวกรวม 12 คน ได้ร่วมกันทุจริตโครงการก่อสร้างและปรับปรุงระบบประปาแบบผิวดินขนาดเล็ก หมู่ 1 บ้านตลาดธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา
@@ จำคุก ผอ.การไฟฟ้าฯยะลา ช่วยลูกน้องยักยอกเงินพ้นผิด
ส่วนเรื่องที่ศาลมีคำพิพากษาในกรณีทุจริตประพฤติมิชอบ จำนวน 1 เรื่อง ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนราธิวาส ตามคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 คดีหมายเลขดำที่ อท 52/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 36/2564
คดีนี้อัยการสูงสุดได้รับสำนวนคดีอาญาจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยอัยการสูงสุด พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 ได้ดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบภาค 9 โดยศาลได้พิจารณาว่า นาย บ. จำเลย (เสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 ก.พ.65) ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 (ยะลา) ภาค 4 เมื่อได้รับรายงานจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและนิติกรว่า นาง ศ. พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กระทำการยักยอกเงินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และจัดทำหลักฐานไม่ถูกต้องตามระเบียบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคว่าด้วยการเงิน พ.ศ.2548 แต่จำเลยไม่ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ตามข้อบังคับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคว่าด้วยระเบียบพนักงาน พ.ศ. 2547 ที่กำหนดให้ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งอาจทำให้นาง ศ. ได้รับโทษไล่ออกหรือปลดออกหรืออาจทำให้พนักงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมรับผิดทางวินัยกับการกระทำดังกล่าวด้วย แต่จำเลยกลับเรียก นาง ศ. เข้าพบหลายครั้ง แล้วให้นาง ศ. ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจนเสร็จสิ้น และไม่ได้มอบอำนาจให้พนักงานที่เกี่ยวข้องไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีแก่นาง ศ. และไม่รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมานาง ศ. ยื่นหนังสือขอลาออกจากงานในขณะถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยและกระทำผิดในทางอาญา แต่จำเลยกลับกระทำการรับรองอันเป็นเท็จว่า นาง ศ. ไม่เป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยหรือกระทำผิดในทางอาญา และเห็นควรนำเสนอขออนุมัติให้ลาออกได้ จนผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีคำสั่งอนุมัติให้นาง ศ. ลาออกจากงาน เป็นเหตุให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเสียหาย ต้องจ่ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแก่นาง ศ. จำนวน 477,140.02 บาท
ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้อื่น แม้จำเลยให้การรับสารภาพ แต่การกระทำของจำเลยเป็นกรณีร้ายแรง ไม่มีเหตุรอการลงโทษ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงาน นองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี
@@ ลุยสอบถนนเลี่ยงเมือง “ผิวดวงจันทร์” ที่แว้ง
ส่วนผลงานด้านการป้องกันการทุจริตและการเฝ้าระวังการทุจริตเชิงรุก 1 เรื่องของสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนราธิวาส คือ รายงานการตรวจสอบถนนสายทางเลี่ยงเมืองแว้ง-บางขุด หมู่ 1 บ้างบางขุด ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส
โดยเมื่อวันที่ 3 มี.ค.65 นายสุวัฒน์ เสาวรัญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนราธิวาส ได้เข้าตรวจสอบถนนสายทางเลี่ยงเมืองแว้ง-บางขุด หลังจากได้รับแจ้งว่า ถนนสายดังกล่าวมีสภาพชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อหลังจากที่สร้างเสร็จได้ไม่นาน
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า โครงการก่อสร้างถนนสายดังกล่าวดำเนินการโดย อบต.ฆอเลาะ อ.แว้ง ลักษณะการก่อสร้างถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีต กว้าง 8 เมตร ยาว 1,850 เมตร หนา 0.04 เมตร หรือพื้นที่ไม่น้อยกว่า 14,800 ตารางเมตร จัดจ้างโดยวิธีคัดเลือก วงเงินงบประมาณตามสัญญาจ้างก่อสร้าง 4,383,800 บาท ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วเมื่อต้นปี 2564 แต่สภาพถนนในปัจจุบัน พบว่าถนนมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อตามที่ได้รับแจ้งจริง คณะตรวจสอบจึงได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ได้พูดคุยและแจ้งให้ อบต.ฆอเลาะ ดำเนินการแจ้งให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการปรับปรุงแก้ไขสภาพถนนให้กลับมาใช้งานตามปกติ เนื่องจากยังอยู่ในระยเวลารับประกันผลงาน 2 ปี อีกทั้งยังได้มีการกำชับให้มีการปฏิบัติหน้าที่โดยยึดระเบียบ กฎหมาย เป็นสำคัญ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดความคุ้มค่า โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นแก่ประชาชน
โดยหลักจากที่ได้มีการลงพื้นที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนราธิวาสได้รับการประสานจาก อบต.ฆอเลาะ ว่าได้แจ้งให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการปรับปรุงแก้ไขสภาพถนนและทางผู้รับจ้างได้ตอบรับและเข้าดำเนินการปรับปรุงแก้ไขแล้ว