ประชาชน นักท่องเที่ยว และพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมชม “พิธีลุยน้ำ – ลุยไฟ” ในงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี สุดคึกคัก ท่ามกลางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด- 19 อย่างเข้มข้น
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 15 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเทศกาลสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หลังจากเทศกาลตรุษจีนผ่านไป 15 วัน ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี
โดยที่สะพานเดชานุชิต สะพานข้ามแม่น้ำปัตตานี ต.อาเนาะรู อ.เมือง มีพิธีลุยน้ำ ซึ่งปกติทุกๆ ปีจะอัญเชิญองค์พระออกจากศาลทุกองค์ จำนวน 25 องค์ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ปีนี้จึงอัญเชิญองค์พระออกจากศาล 4 องค์เท่านั้น คือ 1.องค์พระหมอ 2.องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว 3.พระเจ้าที่ และ 4.เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย
นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และ นายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าฯ ได้ทำพิธีอัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวจากศาลเจ้า และแห่เกี้ยวองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เพื่อไปยังจุดที่จะลงลุยน้ำเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย
บรรยากาศบริเวณริมแม่น้ำปัตตานี มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนและบรรดาศิษยานุศิษย์ของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว รวมไปถึงนักท่องเที่ยว เดินทางไปชมพิธีลุยน้ำกันอย่างคึกคัก ซึ่งขบวนแห่ได้แบกเกี้ยวองค์พระลงไปในแม่น้ำปัตตานี เพื่อลุยน้ำพร้อมกันทั้ง 4 องค์ ข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำปัตตานี ระยะทางประมาณ 70 เมตร โดยปีนี้จะลุยน้ำเพียงรอบเดียว
พิธีลุยน้ำจัดขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวที่ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลจากเมืองจีนมายังปัตตานี และเพื่อความสิริมงคล ให้ค้าขายดี ชำระร่างกายจิตใจให้บริสุทธิ์
หลังจากองค์พระทั้ง 4 องค์เสร็จสิ้นการลุยน้ำ ก็ได้นำองค์พระทั้ง 4 กลับไปเตรียมความพร้อมทำพิธีลุยไฟที่หน้าศาลเจ้าเล่งจู่เกียง ต.อาเนาะรู ในตัวเมืองปัตตานี
ต่อมาเวลา 11.00 น. บริเวณหน้าศาลเจ้าเล่งจู่เกียง หรือศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีลุยกองไฟ มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนและนักท่องเที่ยว พาครอบครัวและญาติพี่น้องไปชมประเพณีแห่พระลุยไฟประจำปีอย่างเนืองแน่น โดยปีนี้อัญเชิญองค์พระออกจากศาลเจ้า จำนวน 4 องค์เช่นกัน
ความเชื่อของพิธีลุยไฟ คือเป็นการชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายที่ติดมา หลังจากออกตระเวนไปทั่วเมืองตลอดทั้งวัน โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีลุยไฟ ขบวนแห่ได้แบกเกี้ยวองค์พระกลับเข้าสู่ศาลเล่งจู่เกียง เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมจุดธูปสักการะต่อไป
สำหรับพิธีลุยไฟ เป็นพิธีที่ชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดปัตตานี และนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศต้องการชม เพราะถือเป็นความอัศจรรย์ ผู้ที่หามเกี้ยวหรือศิษยานุศิษย์ที่มีความศรัทธาในพิธีกรรม สามารถหามเกี้ยวเข้าไปในกองไฟที่ร้อนระอุและลุกท่วมหัวได้ ผู้ที่หามเกี้ยวองค์พระเชื่อว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ อีกทั้งประชาชนที่เดินทางมาชมพิธีลุยไฟ ได้มีการสวดขอพรขณะที่ขบวนแห่แบกเกี้ยวองค์พระลุยไฟ เพื่อให้เกิดสิริมงคล มั่งคั่ง ร่ำรวย
พิธีลุยน้ำ-ลุยไฟ และแห่เกี้ยวเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปีนี้ จัดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่ยังแพร่ระบาด ทางผู้จัดงานจึงกำหนดมาตรการให้ผู้ที่ผ่านการตรวจ ATK แล้วเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมพิธีได้ โดยสังเกตจากผู้ที่ใส่เสื้อสีดำและสีน้ำเงินที่ได้รับจากผู้จัดงาน ส่วนคนที่ไม่ได้ตรวจ ATK หรือไม่มีผลตรวจ ต้องรับชมรอบนอกเท่านั้น
ขณะเดียวกัน คณะผู้จัดได้งดจัดพิธีหามเกี้ยวใหญ่มหามงคล, งดจัดขบวนแห่บุปผชาติ, งดการแสดงเชิดมังกรทอง และงดการแข่งขันเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมย เนื่องจากยังอยู่ในช่วงการระบาดของโควิด-19