บุคคล พระสงฆ์ ถือครองนับสิบราย! ละเอียดยิบ ฉบับเต็ม คำสั่ง ปปง.ยึดอายัดทรัพย์ 20 ล. พระครูสุธีสุตวัฒน์ (วิวัฒน์ พ่วงเกิด) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส กับพวก คดียักยอกเงินวัดราชประดิษฐฯ 32.3 ล้าน ที่ดิน บ้าน เงินฝาก กรมธรรม์ สลากออมสิน 89 รายการ
วันที่ 20 มกราคม 2568 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย.6 2568 เรื่องยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ราย พระครูสุธีสุตวัฒน์ (วิวัฒน์ พ่วงเกิด) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กับพวก เป็นทรัพย์สินจำนวน 89 รายการ มูลค่า 20,151,504.18 บาท จำแนกเป็นที่ดินตามโฉนดที่ดินจ.ปทุมธานี ร้อยเอ็ด ชลบุรี และ นครสวรรค์ รวม 9 โฉนด พร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่า 8,310,160 บาท และ เงินในบัญชีเงินฝาก สิทธิเรียกร้องในกรมธรรม์ประกันชีวิต ในชื่อบุคคล พระสงฆ์ รวม 80 รายการ มูลค่า 11,841,344.18 บาท กรณีร่วมกันยักยอก เบียดบังเอาเงิน ของวัด 32.3 ล้านบาทไปใช้จ่ายและแบ่งปันกันโดยทุจริต ตามที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานแล้ว (ข่าวเกี่ยวข้อง: ปปง.ตามยึดทรัพย์ได้ 20 ล. คดีพระครูสุธีสุตวัฒน์-พวก ยักยอกเงินวัดราชประดิษฐฯ 32.3 ล.)
สำนักข่าวอิศรานำรายละเอียดคำสั่งมารายงาน
เปิดรายละเอียดคำสั่งยึดอายัดทรัพย์
ด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้รับรายงาน จากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ตามหนังสือที่ ตช 0026.(10)1/875 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เรื่อง รายงานคดีความผิดมูลฐาน กรณีร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น กล่าวคือ
สำนักพระคลังข้างที่ฯ มอบเช็คให้วัด 74.2 ล.- เจ้าอาวาสสอบพบจ่ายเช็ค 13 ฉบับ ไม่ใช้ในกิจการของวัด
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 สำนักพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง มอบเช็คธนาคาร เป็นเงิน 74,243,641.10 บาท ให้แก่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม และได้โอนเงินบางส่วนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาพระบรมมหาราชวัง เลขที่บัญชี 061-212558-9 ชื่อบัญชี วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ต่อมาทางวัดได้ทำการตรวจสอบรวบรวมทรัพย์สินรวมทั้งเงินที่ได้รับจากสำนักพระคลังข้างที่ดังกล่าว เพื่อส่งมอบให้มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นผู้บริหารจัดการ
พบว่ามีการออกเช็คสั่งจ่ายเงินออกจากบัญชีเงินฝากดังกล่าว จำนวน 13 ฉบับ แบ่งเป็นเช็คเงินสด 4 ฉบับ รวมเป็นเงิน 3,324,000 บาท และเป็นเช็คระบุชื่อนายปานจิตร พันธุ์พรหม เป็นผู้รับเงิน 9 ฉบับ รวมเป็นเงิน 29,000,000 บาท โดยที่การสั่งจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าวไม่ได้เป็นการใช้จ่ายเงินในกิจการของวัด
พระพรหมวัชราจารย์ เจ้าอาวาส วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม จึงได้ทำการตรวจสอบและเชื่อว่าพระครูสุธีสุตวัฒน์ (วิวัฒน์ พ่วงเกิด) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม และเป็นเลขานุการสำนักงานจัดผลประโยชน์ของวัด มีหน้าที่ ทำจัดการ รักษาเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด และนายฐนวัฒน์ ธนพงศ์อัครเวช หรือนายปานจิตร พันธุ์พรหม ได้ร่วมกันยักยอก เบียดบังเอาเงินดังกล่าวของวัดไปใช้จ่ายและแบ่งปันกันโดยทุจริต จึงมอบอำนาจ ให้นายประนูนไชย วิลาศรี ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับพระครูสุธีสุวัฒน์ (วิวัฒน์ พ่วงเกิด) และนายปานจิตร พันธุ์พรหม เป็นคดีอาญา ที่ 3/2567
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีมีความเห็นควรสั่งฟ้องพระครูสุธีสุตวัฒน์ (วิวัฒน์ พ่วงเกิด) ผู้ต้องหาที่ 1 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และนายฐนวัฒน์ ธนพงศ์อัครเวช หรือนายปานจิตร พันธุ์พรหม ผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิดของผู้ต้องหาที่ 1
ศาลอาญาคดีทุจริตฯสั่งจำคุกพระครูสุธีสุตวัฒน์ฐายยักยอก 45 ปี 6 เดือน อีกคนโดน 21 ปี ร่วมชดใช้ 29 ล้าน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสต้องคืนเงินอีก 3.3 ล้าน
ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ อท 84/2567 หมายเลขแดง ที่ อท 183/2567 ได้มีคำพิพากษาว่าการกระทำของพระครูสุธีสุตวัฒน์ หรือนายวิวัฒน์ พ่วงเกิด จำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของ ผู้อื่นโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172
นายฐนวัฒน์ ธนพงศ์อัครเวช หรือนายปานจิตร พันธุ์พรหม จำเลยที่ 2 เป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลงโทษจำเลยที่ 1 จำคุก 45 ปี 6 เดือน ลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุก 21 ปี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันคืนหรือชดใช้เงิน 29,000,000 บาท และให้จำเลยที่ 1 คืนหรือชดใช้เงินอีก 3,324,000 บาท แก่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ผู้เสียหาย อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (5) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าพระครูสุธีสุตวัฒน์ (วิวัฒน์ พ่วงเกิด) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
เข้าข่ายความผิดมูลฐาน กม.ฟอกเงิน ใช้อำนาจยึดอายัด 89 รายการ
ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 ที่ประชุม มีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประกอบกับคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม.135/2567 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2567 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทำความผิด รายพระครูสุธีสุตวัฒน์ (วิวัฒน์ พ่วงเกิด) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กับพวก และคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม.635/2567 ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทำความผิด (เพิ่มเติม) รายพระครูสุธีสุตวัฒน์ (วิวัฒน์ พ่วงเกิด) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กับพวก
พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับ การทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า พระครูสุธีสุตวัฒน์ (วิวัฒน์ พ่วงเกิด) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเข้าลักษณะ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (5) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน และจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมทั้งจากการรวบรวม พยานหลักฐานปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 89 รายการ พร้อมดอกผล และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ประเภท ที่ดินตามโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียน ในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง โดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง อาจดำเนินการทางนิติกรรม โอน เปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้ และสังหาริมทรัพย์ประเภท เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร สลากออมสิน กรมธรรม์ประกันชีวิต อันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย หากมิได้ออกคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สิน ดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้น ทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า พระครูสุธีสุตวัฒน์ (วิวัฒน์ พ่วงเกิด) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทำความผิดและอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบ การพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรม จึงมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 89 รายการ พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 19 เมษายน 2568 โดยมีรายการทรัพย์สินที่ยึดและอายัดปรากฏตามบัญชี ทรัพย์สินแนบท้ายคำสั่งนี้
ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย
ในกรณีผู้ซึ่งถูกยึดและอายัดทรัพย์สินตามคำสั่งนี้หรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าว ประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวนั้น ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์สิน ที่ถูกยึดและอายัดดังกล่าวนั้นมิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง คำสั่งเป็นหนังสือ
อนึ่ง การยักย้าย ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดไว้หรือที่ตนรู้หรือควรรู้ว่าจะตกเป็นของแผ่นดินอาจมีความผิดทางอาญา และต้องระวางโทษตามนัยมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
สั่ง ณ วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568
ทรัพย์สิน 89 รายการ ในชื่อบุคคลพระนับสิบ
สำหรับทรัพย์สิน 89 รายการ จำแนก เป็นที่ดินตามโฉนดที่ดินจ.ปทุมธานี ร้อยเอ็ด ชลบุรี และ นครสวรรค์ รวม 9 โฉนด พร้อมสิ่งปลูกสร้าง อยู่ในชื่อ นางกัลยา บุญดี นายศุภศักดิ์ บุญดี นายทองหล่อ นางวัฒนา ชูชื่น นายเดโช เคนผา มูลค่า 8,310,160 บาท
เงินในบัญชีเงินฝาก สิทธิเรียกร้องในกรมธรรม์ประกันชีวิต สลากออมสิน ในชื่อบุคคล พระสงฆ์ รวม 80 รายการ มูลค่า 11,841,344.18 บาท อยู่ในชื่อบุคคลนับสิบราย อาทิ นายวิวัฒน์ พ่วงเกิด หรือ พระครูสุธีสุตวัฒน์ พระครูโสภณธรรมโชติ พระโกเมทฯ พระครูสังฆรักษ์ชัสิทธิ์ฯ พระธีรวุฒิฯ นางสาวปวีณาฯ พระครูสุทธิกิจโกศล พระครูปลัดวิสุทธิวัฒน์ พระมหาภาคภูมิ เป็นต้น (ดูเอกสาร)
เรื่องเกี่ยวข้องก่อนหน้า :