3 ป.สนธิกำลังรวบพระครูฯคาวัดกลางกรุงเทพฯ พฤติการณ์สมคบพ่อค้ายักยอกเงินวัดกว่า 200 ล้าน-ใช้เช็คเปล่าให้เจ้าอาวาสเซ็นก่อนปรับเพิ่มยอดเงินภายหลัง ทำมาตั้งแต่ปี 61-66 เบื้องตั้งเจ้าตัวยังปฏิเสธ ส่วนพ่อค้ายอมรับทำผิดจริง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 23 ก.พ.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ผบก.ปปป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าจับกุมตัว พระครูสุธีสุตวัฒน์วิวัฒน์ พ่วงเกิด อายุ 47 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม เนื่องจากว่าพระครูฯ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม แต่กลับมีพฤติกรรมร่วมกับนายปานจิตร อาชีพพ่อค้าขายของอยู่ในวัด ยักยอกเงินของวัดจำนวนกว่า 200 ล้านบาท ไปเป็นทรัพย์สินส่วนตัว
โดยทำมาตั้งแต่ปี 2561 จนถึง 2566 รวมเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท กระทั่งต่อมามีการตรวจสอบพบความผิดปกติ ทั้งสองจึงชิงหลบหนีออกจากวัด เจ้าหนาที่จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนานศาลออกหมายจับ ก่อนที่ต่อมาจะทราบว่าปัจจุบันพระครูสุธีสุตวัฒน์วิวัฒน์ ได้หนีมาจำวัดซ่อนตัวอยู่กับเพื่อนพระที่วัดดวงแข เช่นเดียวกับนายปานจิตร ที่หนีมาขวชเป็นพระอยู่ที่วัดท่าพระ จึงเร่งนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ทั้งนี้การจับกุมเป็นไปตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.9/2567 ลงวันที่ 22 ก.พ.2567 ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต ,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” และ นายปานจิตร พันธุ์พรหม หรือ นายฐนวัตร ธนพงศ์อัครเวช อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.8/2567 ลงวันที่ 22 ก.พ.2567 ข้อหา สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต ,และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” โดยจับกุมพระครูสุธีสุตวัฒน์วิวัฒน์ ได้ที่ กุฏิภายในวัดดวงแข แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ส่วนนายปานจิตร จับกุมตัวได้ที่ วัดท่าพระ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
จากการสอบสวน พระครูสุธีสุตวัฒน์วิวัฒน์ ยังคงยืนกรานให้การปฏิเสธ ขณะที่ในส่วนของ นายปานจิตร ยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกระทำผิดจริง โดยทำหน้าที่เป็นผู้นำเช็คของวัดไปขึ้นเงินสดก่อนนำเงินสดทั้งหมดมามอบให้กับพระครูสุธีสุตวัฒน์วิวัฒน์ ตามคำสั่ง เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวนพฤติกรรมของผู้ต้องหากลุ่มนี้ยังทราบว่า ทุกครั้งที่มีการยักยอกเงินวัด พระครูสุธีสุตวัฒน์วิวัฒน์ มักจะนำเช็คเงินสดไปให้เจ้าอาวาสเซ็นอนุมัติ จากนั้นก็จะนำเช็คใบดังกล่าวมาแก้ไขตัวเลขเพื่อเพิ่มยอดเงินให้มากขึ้น หรือแม้กระทั่งนำเช็คเปล่าไปให้เข้าอาวาสเซ็น โดยที่เจ้าอาวาสไม่รู้เรื่อง ก่อนจะเอาเช็คใบดังกล่าวไปให้นายปานจิตร นำไปเบิกออกมาให้เป็นเงินสด เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบเส้นทางการเงิน