ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาชั้นฎีกา ยืนโทษคุก 12 ปี ‘สุเทพ อัคควุฒิไกร' อดีตผู้บริหาร บมจ.ปิคนิคฯ-พวก คดียักยอกทรัพย์ ส่วน 'สนธยา น้อยเจริญ' ที่ปรึกษากฎหมายจำเลยที่ 4 โดนเท่ากัน หลบหนี ศาลออกหมายจับปรับนายประกันเอาตัวมารับโทษ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2567 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดี อ 1396/2557 แดง อ 1594/2562 ที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุเทพ อัคควุฒิไกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ,นายภาณุวรรณ เลิศวิเศษ ,บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด,นายสนธยา น้อยเจริญ อดีตที่ปรึกษากฎหมายฯ,นายธรรมนูญ ทองลือ ,หม่อมหลวงชัยภัทร ชยางกุร ,บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด และนางวันดี โตเจริญ เป็นจำเลยที่ 1-8 ในความผิดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันเเล้วข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นายสุเทพ อัคควุฒิไกร จำเลย 1 กับ นายภาณุวรรณ เลิศวิเศษ จำเลยที่ 2 ครอบครองหุ้นตามฟ้องแล้วอาศัยโอกาสเป็นกรรมการบริหารบริษัท ปิคนิคฯ กระทำผิดหน้าที่เบียดบังหุ้นไปจริง โดยกระทำร่วมกันเป็นเหตุลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 2 ไม่ฎีกาก็มีผลถึงจำเลยที่ 2 ด้วย จำคุกยืนคนละ 12 ปี และพิพากษาแก้ไม่มีโทษปรับ ส่วนบริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด จำเลยที่ 3 ศาลพิพากษาแก้บทลงโทษคงปรับ 1 ล้านบาท นายสนธยา น้อยเจริญ จำเลยที่ 4 ยืนจำคุก 12 ปี ส่วน บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด จำเลยที่ 7 แม้ไม่ฎีกาแต่เป็นเหตุลักษณะคดีมีผลไปถึงด้วยให้ปรับ 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ การนัดฟังคำพิพากษาวันนี้ จำเลยที่1 ที่ได้ประกันตัวเดินทางมาศาล เเละตัวเเทนนิติบุคคลจำเลยที่ 3 มาศาลส่วนจำเลยที่ 4 นายสนธยา หลบหนีไม่มาศาลตั้งเเต่นัดที่เเล้วศาลออกหมายจับปรับนายประกันวันนี้มีเพียง นายประกันมาศาล
หลังฟังคำพิพากษา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัว นายสุเทพ จำเลยที่ 1 ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารบริษัทไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป ในส่วน บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด จำเลยที่ 3 เป็นนิติบุคคลคงมีเเต่โทษค่าปรับ
ส่วนนายสนธยา น้อยเจริญ จำเลยที่ 4 ศาลฯ จะออกหมายจับฉบับใหม่เพื่อนำตัวมาลงโทษตามคำพิพากษาต่อไป
สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการ ฟ้องว่าจำเลยฯ ได้ร่วมกันสนับสนุน ช่วยเหลือ และกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยร่วมกันยักยอกหุ้นบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด มาเป็นของของบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI จำนวน 7.9 ล้านหุ้น มูลค่า 711 ล้านบาท และร่วมกันยักยอกเงินของ PICNI จำนวน 50 ล้านบาท ปี 2562
ต่อมาในปี 2562 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1396/2557 คดีหมายเลขแดงที่ อ.1594/2562 ลงวันที่ 25 มิ.ย.2562 ยกฟ้องจำเลยทั้ง 8 ส่วนนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์สมัยรัฐบาลทักษิณ 2 เมื่อปี 2548 และพวกอีกหลายคนได้หนีคดี
อัยการได้ยื่นอุทธรณ์ฯ และต่อมาวันที่ 21 ส.ค.2563 ศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 954-956/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 12833-12835/2563 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 นายสุเทพ อัคควุฒิไกรและนายภาณุวรรณ เลิศวิเศษ จำเลยที่ 2 จำคุก 12 ปี และปรับคนละ 1,522,000,000 บาท ,จำเลยที่ 3 บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด ปรับ 1,422,000,000 บาท
จำเลยที่ 4 และที่ 7 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 313 ประกอบมาตรา 308 เช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 นั้น ให้จำคุกจำเลยที่ 4 (นายสนธยา น้อยเจริญ) กระทงแรก 6 ปี และปรับ 1,422,000,000 บาท จำคุกกระทงที่สอง 6 ปี และปรับ 100,000,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 12 ปี และปรับ 1,522,000,000 บาท และลงโทษปรับจำเลยที่ 7 บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัดสองกระทงปรับ 1,522,000,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่8ยกฟ้อง ส่วน นายธรรมนูญ จำเลยที่ 5 เเละนายสุริยา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หลบหนี ออกหมายจับปรับนายประกัน
จำเลยที่1,3 เเละ 4 ยื่นฎีกา โดยคดีนี้เดิมนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาตั้งเเต่ปี 2566 เเต่ก็เลื่อนมา เนื่องจากจำเลยอ้างเหตุ จนมีการออกหมายจับปรับนายประกันจำเลยบางคนไป
อ่านประกอบ :
- คุกคนละ 12 ปี ปรับรวม 7.5 พันล.! พลิกคดียักยอกทรัพย์'ปิคนิค'ชั้นอุทธรณ์ ก่อนศาลฎีกาชี้ขาด
- ‘ศาลฎีกา’ชี้ขาดคดียักยอกทรัพย์ PICNI 25 ม.ค.นี้ หลังชั้นอุทธรณ์สั่งจำคุก 3 จำเลย 12 ปี
- ศาลสั่งอดีตบิ๊กปิคนิค พี่ชาย“สุริยา” รมช.พาณิชย์ยุคแม้วล้มละลาย