คำวินิจฉัยสารพัดคดีในชั้นศาล ตัวแปรสำคัญ  ‘นายใหญ่-ลุงบ้านป่า’ หลังพิงฝากระชับอำนาจ

"...สถานการณ์ของ ‘นายใหญ่-ลุงบ้านป่า’ ตอนนี้จึงคล้ายคลึงกันในลักษณะ ‘หลังพิงฝา’ คนหนึ่งมีคดีความเป็นชนักปักหลังทำให้ขยับเขยื้อนตัวลำบาก เพราะหากเคลื่อนไหวเกินขอบเขต อาจโดนล้ม ‘ซูเปอร์ดีล’ ลงได้ ส่วนอีกคนยังคงถูกโปรยยาเสน่ห์ใส่ โดยไม่ได้มองภาพความเป็นจริงตรงหน้าว่า พรรคการเมืองที่สร้างมากำลังล่มสลายลงแล้ว..."

ยังมีเวลาต่อลมหายใจต่อไปอีกเฮือกใหญ่ ไม่ว่าจะ ‘ค่ายแดง-ค่ายส้ม’

เริ่มจาก ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มากบารมี ‘ตัวจริง’ แห่งพรรคเพื่อไทย ที่ ‘ศาลอาญา’ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว คดีกล่าวหาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ่วง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลังเจ้าตัวยื่นหลักทรัพย์ 5 แสนบาท แต่ศาลสั่งยึดพาสปอร์ต ทำสัญญาห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พร้อมนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง 19 ส.ค.นี้

• ยื่นหลักทรัพย์ 5 แสน ได้ปล่อยตัวชั่วคราว! ศาลรับฟ้องทักษิณ ผิดคดี ม.112 พ่วงข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ
• โจทก์ไม่คัดค้าน! เผยเหตุอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวทักษิณ ยึดพาสปอร์ต-ทำสัญญาห้ามออกนอกปท.

ส่วนที่ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ศาลรัฐธรรมนูญ นั่งบัลลังก์พิจารณา 3 คดีร้อน

คดีแรก ‘ยุบพรรคก้าวไกล’ ศาลให้โอกาสให้ยื่นถ้อยคำชี้แจงข้อเท็จจริง-ความเห็นแก่ศาลภายใน 7 วัน

ที่น่าสนใจศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้นำพยานเอกสารในการไต่สวนคดีกล่าวหา ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์-ก้าวไกล’ ล้มล้างการปกครอง และศาลสั่งเมื่อ 31 ม.ค.ให้ยุติการกระทำดังกล่าว มารวมในสำนวนคดีนี้ โดยนัดพิจารณา 3 ก.ค. และเรียกคู่กรณีมาตรวจพยานหลักฐาน 9 ก.ค. นี้ 

คดีสอง ‘กลุ่ม 40 สว.’ ยื่นถอดถอน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ พ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี โดยศาลฯ สั่งให้หน่วยงาน-บุคคลที่เกี่ยวข้อง ทำความเห็น-ยื่นพยานเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมภายใน 15 วัน และศาลนัดพิจารณาอีกรอบ 10 ก.ค.นี้

คดีสุดท้าย ที่เรียกได้ว่า ‘กกต.’ คงโล่งใจขึ้นมาทันที เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติ ‘เอกฉันท์’ ชี้ขาดว่า 4 มาตราใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้เส้นทางเลือก สว.ที่ปัจจุบันรอการเลือกระดับประเทศ 26 มิ.ย.นี้ เดินหน้าต่อได้อย่างราบรื่น

ในบรรดา 4 คดีสำคัญดังกล่าว มีอยู่ 3 คดีน่าสนใจ ถ้าหากมีผลออกมา ย่อมส่งผลสะเทือนทางการเมือง

เริ่มจากฝั่ง ‘ค่ายสีแดง’ คือ คดีกล่าวหา ‘ทักษิณ’ ตามมาตรา 112 และคดีถอดถอน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ถ้าหากผลออกมาเป็นลบ ย่อมเป็นข่าวร้ายของ ‘พรรคเพื่อไทย’ หลังจากได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งในรอบ 13 ปี (นับตั้งแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปี 2554) ทำให้ ‘คีย์แมนสีแดง’ เริ่มประเมินสถานการณ์ออกมาเป็นฉาก ๆ

เริ่มจากคดีถอดถอน ‘นายกฯนิด’ พ้นเก้าอี้ คดีนี้ค่อนข้างเบาใจ หลังจากอาศัย ‘คอนเนกชั่น’ เชื้อเชิญ ‘เนติบริกร’ วิษณุ เครืองาม มาเป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และที่ปรึกษาส่วนตัวนายกฯ เพื่อมาช่วยเหลือ ‘ข้อกฎหมาย’ ต่อสู้คดีนี้ จึงคาดว่าผลจะออกมาเป็นบวก และ ‘เศรษฐา’ ยังคงอยู่บนเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 ต่อไป

หาก ‘เสี่ยนิด’ พ้นบ่วงคดีนี้ คาดกันว่าอาจมีการปรับ ครม. เป็นครั้งที่ 3 เพื่อตัดสัมพันธ์กับพรรคใหญ่บางพรรค ที่เป็นต้นเรื่องนี้ก็เป็นไปได้?

ส่วนคดีกล่าวหา ‘ทักษิณ’ ตามมาตรา 112 คดีดังกล่าวแม้หน้าฉากจะดูไม่กังวล และยังสู้ได้อีกยาว ต่อให้แพ้คดีในศาลชั้นต้น ก็ยังมีชั้นอุทธรณ์ และฎีกาอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ เพราะผลอาจออกมาได้ทุกหน้า จึงจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์กันแทบจะรายวัน ส่งผลให้เริ่มมีการ ‘กระชับอำนาจ’ จาก ‘นายใหญ่’ รวมถึงการออกมาปล่อยหมัดฮุกใส่ ‘คนบ้านป่า’ ว่า “ถ้าจะมีคนวุ่นวาย ก็คนแถวบ้านในป่า”

เรื่องนี้ทำเอา ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และหนึ่งในผู้ก่อตั้งมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดฯ ถึงกับ ‘ควันออกหู’ ปฏิเสธเสียงแข็ง สวนกลับไปว่า “ไปถามคนพูดสิ ฉันไม่ได้ไปเจอใครเลย คนในป่าไหนล่ะ”

หลังจากนั้น ‘บิ๊กป้อม’ ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

แต่หลายคน โดยเฉพาะสมาชิกพรรครู้กันดีว่า ‘บิ๊กป้อม’ ณ เวลานี้ กำลัง ‘ต้องมนต์’ จาก ‘คนใกล้ชิด’ ที่พยายามเป่าหูให้กลับมา ‘ขี่หลังเสือ’ อีกรอบ โปรยยาหอมยกใหญ่ว่า ดูด สส.งูเห่า จากพรรคชื่อดัง มาเข้าค่ายได้หลายสิบคนแล้ว ดังนั้นฝันจะนั่งเก้าอี้นายกฯสมัยแรก คงไม่ใกล้เกินเอื้อม

สวนทางกับสถานการณ์ภายใน พปชร. โดยเฉพาะสมาชิกที่เคยสังกัด ‘ค่ายสีแดง’ ต่างประหวั่นพรั่นพรึงกับคำพูดของ ‘ทักษิณ’ จนเริ่มออกอาการลังเลว่า จะไปต่อในทางการเมืองอย่างไร บางคนเริ่มขบคิดเตรียมย้ายกลับ ‘บ้านเก่า’ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะมองว่า พปชร.คงแทบไม่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลได้

แต่เกมของ ‘นายใหญ่-ลุงบ้านป่า’ จะเริ่มขยับหมากได้ ก็ต่อเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ‘ยุบพรรคก้าวไกล’ เสียก่อน?

‘ก้าวไกล’ ที่รู้อยู่แล้ว และประเมินฉากทัศน์ทางการเมืองมาโดยตลอด จึงพยายามต่อสู้คดีนี้ในศาลรัฐธรรมนูญ อย่างยืดเยื้อ โดยหยิบยกพยานหลักฐาน-พยานบุคคล เพื่อหวังให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดทางไต่สวนคดีดังกล่าว แม้จะรู้ว่า ‘ปลายทาง’ เป็นเช่นไร แต่ ‘ยานพาหนะสำรอง’ ถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อม ๆ กับ ‘ผู้นำสีส้มคนใหม่’  ดังนั้นจึงคาดกันว่า จะมี ‘สส.งูเห่า’ แค่ไม่กี่สิบรายเท่านั้น คิดเป็นจำนวนเล็กน้อย และไม่มีนัยสำคัญที่จะช่วยให้เกิดเกม ‘พลิกขั้วตั้งรัฐบาล’ เกิดขึ้นได้

@ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ดังนั้น สถานการณ์ของ ‘นายใหญ่-ลุงบ้านป่า’ ตอนนี้จึงคล้ายคลึงกันในลักษณะ ‘หลังพิงฝา’ คนหนึ่งมีคดีความเป็นชนักปักหลังทำให้ขยับเขยื้อนตัวลำบาก

เพราะหากเคลื่อนไหวเกินขอบเขต อาจโดนล้ม ‘ซูเปอร์ดีล’ ลงได้ ส่วนอีกคนยังคงถูกโปรยยาเสน่ห์ใส่ โดยไม่ได้มองภาพความเป็นจริงตรงหน้าว่า พรรคการเมืองที่สร้างมากำลังล่มสลายลงแล้ว

หมากเกมนี้จะออกมาหน้าไหน ใครจะกลับมาผงาดติดปีกบินอีกรอบ ต้องรอผลคำวินิจฉัยสารพัดคดีในชั้นศาลข้างต้นให้จบลงเสียก่อน