"...ไอ้คนไหนวะไม่ยอมเซ็น กูไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนถ้าเกิดอะไรขึ้น กูรับผิดชอบเองทุกอย่าง ใครที่ทำงานที่เทศบาลเมืองปากช่อง กูไม่เคยให้ใครเดือดร้อน ครั้งนี้ถ้าพวกเอ็งไม่เซ็น ก็คิดเอาเองแล้วกันว่าจะตายในวันหน้า หรือจะตายวันนี้..."
กรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาตัดสินในคดีกล่าวหา นายคมกฤษณ์ ลิ้มปัญญาเลิศ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กับพวกรวม 9 ราย ดำเนินโครงการก่อสร้างปรับปรุงพื้นที่สวนสาธารณะเขาแคน วงเงิน 29,992,000 บาท ด้วยวิธีการทุจริตและผิดกฎหมาย
โดยศาลฯ มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำเลย ดังนี้
1. นายคมกฤษณ์ ลิ้มปัญญาเลิศ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปากช่อง จำเลยที่ 1 และ นายดิเรกฤทธิ์ พงษ์ศิริ อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองปากช่อง จำเลยที่ 2 ลงโทษจำคุกคนละ 6 ปี
2. นายธรรมรัตน์ อังกิจตานนท์ หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ทรัพย์สุวรรณมหาศาล จำเลยที่ 4 ,นายวิชัย พันธ์หว้า หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ปราจีนก้าวหน้า จำเลยที่ 6 , นายวิฑูร ตั้งธรรมเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอิสวันกรุ๊ป จำกัด จำเลยที่ 8 และนายกรณ์ อังกิตานนท์ จำเลยที่ 9 ลงโทษจำคุกคนละ 4 ปี
3. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์สุวรรณมหาศาล จำเลยที่ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัดปราจีนก้าวหน้า จำเลยที่ 5 และ บริษัทอิสวันกรุ๊ป จำกัด จำเลยที่ 7ปรับคนละ 100,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29
อย่างไรก็นี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำรายละเอียดพฤติการณ์การกระทำความผิด ของจำเลยทั้ง 9 รายมานำเสนอไปแล้วว่า การดำเนินโครงการก่อสร้างปรับปรุงพื้นที่สวนสาธารณะเขาแคน มีการดำเนินไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ กำหนดราคากลางครุภัณฑ์สูงเกินจริง และมีการสั่งการให้ปกปิดวิธีประกวดราคาโครงการก่อสร้างปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สวนสาธารณะเขาแคนด้วย
- คุกคนละ 6 ปี! อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปากช่อง-รองฯ ทุจริตปรับปรุงสวนสาธารณะเขาแคน
- พฤติการณ์ คุก 6 ปี อดีตนายกเทศมนตรีปากช่อง-รองฯ คดีทุจริตปรับปรุงสวนสาธารณะเขาแคน
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลคำพิพากษาคดีนี้ พบว่า มีการระบุข้อมูลพฤติการณ์ "ผู้อำนาจ" ที่มีการข่มขู่เอาชีวิตเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการลงนามในเอกสารสำคัญ และการพามือถือขึ้นไปสำนักงาน รวมไปถึงการให้เงินซองเพื่อเป็นส่วนแบ่งให้กับเจ้าหน้าที่ที่ร่วมขบวนการทุจริตคดีนี้ ผ่านคำให้การของพยานผู้เกี่ยวข้องหลายปาก
มีรายละเอียดโดยสรุปดังนี้
ผู้เกี่ยวข้องในคดีให้การว่า ไม่มีเจตนากระทำความผิด แต่เพราะมีการสั่งการจากผู้มีอำนาจ จึงต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามที่มีการกล่าวหา ประกอบกับเป็นผู้รู้เห็นเหตุการณ์และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ถูกกล่าวหา จึงมีความประสงค์ที่จะให้ถ้อยคำและข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้เกี่ยวข้องอ้างว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางงานก่อสร้างปรับปรุงพื้นที่สวนสาธารณะเขาแคนนั้น เป็นเพียงการแต่งตั้งในนามเท่านั้น
เพราะในช่วงต้นเดือนต.ค.2553 ก่อนที่จะเริ่มดำเนินงานตามโครงการฯ ผู้มีอำนาจ โทรศัพท์มายังธุรการกองช่าง แจ้งให้ผู้อำนวยการกองช่างในขณะนั้นไปพบที่ห้องทำงาน พร้อมกับหัวหน้าฝ่ายแบบแผนและก่อสร้างและนายช่างโยธา 7 ว. ให้ส่งมอบเอกสารโครงการให้แก่ตัวเอง ได้แก่ รายละเอียดแบบแปลนการก่อสร้าง ตามที่เทศบาลเมืองปากช่องได้ขอกู้ยืมเงินจากธนาคารออมสินยังไม่มีรายละเอียดวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างที่โครงการปรับปรุงสวนสาธารณะเขาแคนแต่อย่างใด
เมื่อผู้มีอำนาจ ได้รับเอกสารแล้วได้พูดว่า "จะให้พี่บีเป็นผู้จัดทำรายละเอียดทั้งในส่วนของแบบแปลน และประมาณราคากลางแทนกองช่าง"
โดยให้เหตุผลว่า "ทางกองช่างน่าจะทำเสร็จไม่ทันเวลา พี่บีเขามีประสบการณ์ มีทีมงานที่ทำเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ ผมจะมอบให้เขาทำพวกเราไม่ขัดข้องนะ"
เบื้องต้น ผู้เกี่ยวข้อง จึงคิดในแง่ดีว่า ผู้มีอำนาจ อาจต้องการช่วยแบ่งภาระงานของลูกน้องจริง ๆ จึงไม่ได้ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาแต่อย่างใด
ขณะนั้นไม่ทราบว่านายบี คือใคร ภายหลังทราบว่า นายบี คือ จำเลยที่ 9
จากนั้นประมาณ 6 สัปดาห์ ผู้มีอำนาจ พร้อมด้วยจำเลยที่ 7 และที่ 8 ภายหลังได้เป็นคู่สัญญากับเทศบาลเมืองปากช่อง นำแบบแปลนโครงการก่อสร้างปรับปรุงพื้นที่สวนสาธารณะเขาแคนและเอกสารประมาณราคาตามแบบ ปร.4 และปร. 5 ตามเอกสารหมาย จ.66 มาพบผู้อำนวยการกองช่างในขณะนั้นที่ห้องทำงานในกองช่าง โดยมีหัวหน้าฝ่ายแบบแผนและก่อสร้างและนายช่างโยธา 7 ว. นั่งอยู่ในห้องทำงานด้วย เพื่อให้คณะกรรมการกำหนดราคากลางลงลายมือชื่อ
แต่ก็ไม่ได้ลงลายมือชื่อในทันที เพราะเห็นความไม่ชอบมาพากล
จึงได้ประชุมร่วมกันตรวจสอบแบบแปลน และราคากลางดังกล่าวอีกครั้ง พบว่า มีราคากลางสูงเกินกว่าราคาท้องตลาดมาก จึงได้แจ้งข้อเท็จจริงให้ผู้บังคับบัญชาตามสายงานได้แก่ ปลัดเทศบาลมืองปากช่อง (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)
วันต่อมา มีผู้มาแจ้งกับ ผู้อำนวยการกองช่าง และคณะกรรมการว่า ผู้มีอำนาจ ยังยืนยันให้ลงลายมือชื่อในเอกสารราคากลาง ปร.4 และ ปร.5 ตามเอกสารหมาย จ. 66 ผู้อำนวยการกองช่าง และคณะกรรมการกำหนคราคากลางปฏิเสธ ยกเว้นนาย ศ. เห็นว่าน่าจะให้มีการสำรวจและทำเอกสารราคากลางใหม่
ต่อมา มีการแจ้งให้ลงลายมือชื่อ ผู้อำนวยการกองช่างกับพวกปฏิเสธ
ผู้มีมาแจ้งข้อมูลบอกให้ ผู้อำนวยการกองช่าง และคณะกรรมการ ให้เข้าไปบอกกับผู้มีอำนาจ ด้วยตัวเอง
ด้วยความโมโห ผู้อำนวยการกองช่าง จึงพูดตอบกลับไปว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ให้ท่าน....แต่งตั้งคณะผู้บริหารเป็นกรรมการกำหนดราคากลางและเซ็นชื่อเองเลย"
หลังจากผู้มาแจ้งข้อมูลกลับไปไม่นาน ผู้มีอำนาจ เดินมาที่ ห้องทำงานของผู้อำนวยการกองช่าง และขึ้นเสียงทำนองว่า "แต่งตั้งให้อยู่ในฐานะคณะกรรมการกำหนดราคากลางแล้ว ทำไมไม่เซ็นชื่อรับรองในเอกสาร มีปัญหาอะไร"
ผู้อำนวยการกองช่าง จึงได้อธิบายเหมือนเช่นที่เคยพูดกับปลัดฯ ว่า ถ้าเซ็นไปก็ต้องมีความผิดและเดือนร้อน
ทำให้ ผู้มีอำนาจ โกรธและพูดว่า "พวกมึงคิดเอาเองก็แล้วกันว่า พวกมึงจะตายวันนี้หรือจะตายวันหน้า" แล้วเดินออกไปด้วยความโมโห
วันต่อมาขณะที่ผู้อำนวยการกองช่าง และคณะกรรมการคนอื่น ทำงานอยู่ที่ห้อง
ปรากฏว่า ผู้มีอำนาจ เดินเข้ามาพร้อมกับผู้คุ้มกัน 2 คน ซึ่งเป็นมือปืนของผู้มีอำนาจ กวาดสายตามองแบบไม่พอใจ และพูดด้วยเสียงอันดังว่า
"ไอ้คนไหนวะไม่ยอมเซ็น กูไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนถ้าเกิดอะไรขึ้น กูรับผิดชอบเองทุกอย่าง ใครที่ทำงานที่เทศบาลเมืองปากช่อง กูไม่เคยให้ใครเดือดร้อน ครั้งนี้ถ้าพวกเอ็งไม่เซ็น ก็คิดเอาเองแล้วกันว่าจะตายในวันหน้า หรือจะตายวันนี้"
ในคำพิพากษายังคำให้การของผู้เกี่ยวข้องต่อว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า หากมีใครเสนอความคิดที่ขัดแย้งกับผู้มีอำนาจรายนี้ ก็จะถูกกลั่นแกล้งด้วยวิธีการต่าง ๆ ผู้อำนวยการกองช่าง กับพวกจึงได้เซ็นชื่อด้วยความจำยอม รวมทั้งต้องจัดทำบันทีกข้อความกองช่างเทศบาลเมืองปากช่อง ที่ 212/2554 เรื่อง ขออนุมัติจัดจ้างโครงการก่อสร้างปรับปรุงพื้นที่สวนสาธารณะเขาแคน ลงวันที่ 11 เมษายน 2555 เพื่อมอบให้กองคลังดำเนินการตามระเบียบต่อไป
ในระหว่างการทำงานผู้อำนวยการกองช่าง มักจะได้รับการรายงานจากช่างผู้ควบคุมงาน คือ นายศ. และนาย ธ. ว่า ผู้รับจ้างทำการก่อสร้างไม่เรียบร้อย ไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการในสัญญา
ผู้มีอำนาจ เรียกผู้อำนวยการกองช่าง ไปพบที่ห้องทำงาน มีจำเลยรายหนึ่ง อยู่ในห้องดังกล่าวด้วย
ผู้มีอำนาจ ถามว่า "การก่อสร้างทำไมจึงเกิดปัญหาได้ " จึงได้แจ้งว่า "ปัญหาไม่ได้เกิดจากช่างผู้ควบคุมงาน แต่เกิดจากผู้รับจ้างที่ไม่ดำเนินการไห้เป็นไปตามสัญญา"
ทันใดนั้น จำเลยรายนั้น ลุกขึ้นและพูดโต้กลับด้วยความโกรธว่า "อย่างนี้พวกมึงก็อยู่กับกูไม่ได้" แล้วลุกเดินไปคว้าแฟ้มเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ ขว้างไปที่โซฟา
ผู้อำนวยการกองช่าง จึงได้พูดว่า "อยู่ด้วยกันได้หรือไม่ได้มันเกี่ยวอะไรกับผม ทุกอย่างผมก็ได้รายงานคณะผู้บริหารไปหมดแล้ว ทำไมต้องเรียกผมมาอธิบายอีก"
ต่อมา ผู้อำนวยการกองช่าง นำเหตุการณ์ดังกล่าวไปเล่าให้นาย ก. ประธานสภาเทศบาลเมืองปากช่องให้รับรู้และปรึกษาหารือกันเพื่อไปตรวจสอบความถูกต้องงานก่อสร้าง
นาย ก. นัดหมายกับสมาชิกสภาเทศบาลเพื่อไปดูงานโครงการดังกล่าว พร้อมด้วยนาย ก. เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว ของเทศบาลเมืองปากช่อง ผู้อำนวยการกองช่าง ไม่ได้เดินทางไปด้วย
นาย ก. เล่าให้ ผู้อำนวยการกองช่าง ฟังว่าขณะเดินสำรวจ และนาย ก. กำลังถ่ายภาพเพื่อเตรียมการประชาสัมพันธ์โครงการ ปรากฎเสียงคนงานโห่ร้องแสดงความไม่พอใจ ที่เห็นคณะสมาชิกสภาเทศบาลเดินสำรวจการก่อสร้าง
หลังจากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดมาจากทิศที่คนงานอยู่ จึงทำให้คณะสมาชิกสภาเทศบาลต้องยุดิการเดินสำรวจ นาย ก. ได้เก็บปลอกกระสุนปืนที่พบในบริเวณนั้น นำไปรายงานให้ผู้มีอำนาจในเทศบาล ทราบ
จากนั้น นาย ก. เรียกผู้อำนวยการกองช่าง ไปพบ และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังพร้อมกับแนะนำให้ผู้อำนวยการกองช่าง ย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัย ผู้อำนวยการกองช่าง ไม่ย้ายแต่ขอลาออก ในวันที่ 3 ก.ค. 2555 อำนวยการกองช่าง จึงได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากเทศบาลเมืองปากช่อง
สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 4 ตรวจพบว่า ราคากลางโครงการดังกล่าวสูงเกินจริงและเสนอให้เทศบาลเมืองปากช่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหาผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 4,436,371.83 บาท และผู้มีอำนาจ ออกคำสั่งให้ผู้อำนวยการกองช่าง และคณะชดใช้เงินคนละ 492,930.21 บาท
ขณะตรวจสอบผู้อำนวยการกองช่าง และคณะกรรมการต่างทราบว่า มีราคากลางสูงเกินจริง จึงไม่ได้โต้แย้งการตรวจสอบแต่อย่างใด
อีกทั้งได้มีโอกาสพูดคุยกับ ผู้มีอำนาจ ในเรื่องดังกล่าว ผู้มีอำนาจ พูดว่า "ไม่ต้องกลัวกูจะชดใช้ให้พวกมึงเอง ทุกบาททุกสตางค์"
แต่ ผู้มีอำนาจ ออกคำสั่งให้ผู้อำนวยการกองช่าง และคณะกรรมการกำหนดกลางชดใช้เงิน ซึ่งไม่เป็นธรรม นาย ป. รวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อเตรียมตัวที่จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อผู้มีอำนาจ
ต่อมามีการร่วมประชุมกัน
ผู้มีอำนาจ ถาม ผู้อำนวยการกองช่างและคณะกรรมการ ว่า "ทำไมพวกมึงถึงคิดจะอุทธรณ์"
นาย ป. ตอบว่า เพราะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีหลายฝ่าย แต่ที่ ผู้มีอำนาจ ออกคำสั่งมีแต่เฉพาะคณะกรรมการกำหนดราคากลาง จึงเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม
ผู้มีอำนาจ พูดว่า "กูบอกแล้วไง ว่ากูไม่ให้ใครเดือดร้อน พวกมึงไม่ต้องอุทธรณ์นะ เดี่ยวค่าใช้จ่ายคนละ 4 แสนกว่ากูจะรับผิดชอบให้เอง"
นาย ป. โต้แย้งว่า มันเป็นความผิดวินัยและอาญาและความผิดนี้ก็ไม่ได้เกิดจากพวกของผู้อำนวยการกองช่างด้วยซ้ำ จึงเห็นว่าไม่ถูกต้อง
ผู้มีอำนาจ พูดขึ้นว่า "มึงก็แค่เซ็นรับไปเฉย ๆ กูบอกแล้วไง กูจะให้เรื่องมันจบที่นี่ เรื่องเงินกูก็จะจ่ายแทนพวกมึง กูจะเซ็นค้ำประกันให้ด้วย มึงมากเรื่องนักนะ ......เรื่องแค่นี้ขอกันไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป"
ผลจากการประชุมดังกล่าวผู้อำนวยการกองช่าง กับพวก จำต้องลงชื่อรับทราบความผิดและชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยไม่เต็มใจ
ต่อมากรมบัญชีกลางได้มีหนังสือขอให้มีการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวอีกครั้งตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0410.2/22841 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2559 เทศบาลเมืองปากช่อง มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุดใหม่ขึ้น โดยมีนาย จ. รองปลัดเทศบาลเมืองปากช่อง เป็นประธานกรรมการสอบสวน และได้พูดเกลี้ยกล่อมไม่ให้คณะกรรมการกำหนดราคากลางกลับคำให้การเดิมที่ได้เคยใช้ไว้ ให้เชื่อและทำตามที่ผู้มีอำนาจบอกแล้ว จะรับผิดชอบค่าเสียหายแทนให้เอง
ผู้อำนวยการกองช่าง และคณะกรรมการ จึงไม่ได้ให้การใหม่และอุทธรณ์คำสั่งแต่อย่างใด และยินยอมลงลายมือชื่อและชดใช้หนี้คนละ 492,930.21 บาท โดยผู้มีอำนาจ เป็นผู้ลงชื่อค้ำประกันให้กับทุก ๆ คนตามที่ได้รับปากเอาไว้ รวมทั้งเป็นผู้ชดใช้งินคืนให้แก่เทศบาลเมืองปากช่อง
หลังจากที่ได้รับเงินแล้วทางกองคลัง ก็จะมีการเฉลี่ยเงินให้กับทุกคน ดังจะเห็นได้จากวันที่ตามที่ปรากฎในโบเสร็จรับเงินมักจะเป็นวันเดียวกันทุกครั้ง ผู้อำนวยการกองช่าง และคณะกรรมการกำหนดราคากลางรายอื่น ไม่เคยเป็นผู้นำเงินไปชำระให้แก่กองคลังเทศบาลเมืองปากช่องแต่อย่างใด มีเพียงนาย จ. และนาย ป.เท่านั้น
ต่อมาเมื่อผู้มีอำนาจ ขาดส่งการชำระเงิน จึงทำให้กองคลังทำหนังสือเตือนและทวงหนี้ ผู้อำนวยการกองช่าง พร้อมคณะกรรมการสอบถาม
ผู้มีอำนาจ ตอบว่า "แล้วพวกมึงจะคิดมากอะไร กูก็รับผิดชอบอยู่แล้ว"
*********
ข้อมูลพฤติการณ์ผู้อำนาจ ที่ระบุไว้ในคำพิพากษาตัดสินคดีนี้ ยังไม่จบ ยังมีข้อมูลในส่วนการให้เงินซองเพื่อเป็นส่วนแบ่งให้กับเจ้าหน้าที่ที่ร่วมขบวนการทุจริตคดีนี้ โดยระบุว่าเป็นค่าขนมอีกส่วนหนึ่งด้วย
รายละเอียดเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป