ศบค.มท. สั่งผู้ว่าฯทุกจังหวัด วางระบบฉีดวัคซีนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ครอบคลุม ทั่วถึง ไม่เลือกปฏิบัติ ให้ความสำคัญกับบุคลากรแพทย์ - เจ้าหน้าที่ด่านหน้า - อาชีพเสี่ยง - ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ส่วนกรณีองค์กรภาครัฐและเอกชน ขอรับวัคซีนให้บุคลากรให้ติดต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
--------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2564 กระทรวงมหาดไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กระทรวงมหาดไทย PR ว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับการสนับสนุนวัคซีนสำหรับฉีดให้กับบุคลากรในสังกัดจากหลายองค์กร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ ส่วนราชการหลายหน่วยงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมตลาดสดไทย สมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย บริษัทและสถานประกอบการขนาดใหญ่ ซึ่ง ศบค.มท.ได้แจ้งข้อมูลการขอรับการสนับสนุนวัคซีนข้างต้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผน เพื่อให้การบริหารจัดการการฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหารือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพื่อวางระบบการบริหารการฉีดวัคซีนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ครอบคลุม ทั่วถึง ไม่เลือกปฏิบัติ เป็นไปตามมติ ศบค. และแนวทางที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติกำหนด โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ 1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ยังไม่ได้รับวัคซีน 2.เจ้าหน้าที่อื่นด่านหน้า และกลุ่มอาชีพเสี่ยงติดเชื้อ รวมทั้งผู้มีอาชีพหรือกิจการที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพของประชาชน เช่น สาธารณูปโภค อาหาร ยา 3.ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปและผู้ที่มีโรคประจำตัว และ 4.ประชาชนทั่วไป พร้อมสร้างการรับรู้แก่องค์กรภาครัฐและภาคเอกชน โรงงาน สถานประกอบการ องค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่
โดยในกรณีองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนที่มีความประสงค์จะขอรับวัคซีนให้กับบุคลากรสามารถแจ้งความประสงค์ไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ในกรณีองค์กรขนาดใหญ่ที่มีบุคลากรอยู่ในหลายจังหวัด หรือองค์กรระหว่างประเทศหรือหน่วยงานต่างชาติ ที่ติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศ สามารถแจ้งหนังสือไปยังอธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อขอรับวัคซีนไปฉีดให้บุคลากรในสังกัด โดยหาสถานพยาบาลรองรับการฉีดเอง และสำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม กระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม เป็นหน่วยงานที่รับการจัดสรรวัคซีนเพื่อบริหารจัดการและจัดแผนการฉีดวัคซีนได้โดยตรง และรวบรวมข้อมูลจากสถานประกอบการเพื่อกำหนดสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน ทั้งในสถานพยาบาลตามสิทธิ และเชิงรุกนอกสถานพยาบาล เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและให้ผู้ประกันตนได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้สำนักงานประกันสังคมจังหวัด รวมทั้งหน่วยงานระดับจังหวัด สังกัดกระทรวงแรงงาน ประสานการดำเนินงานร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน ซึ่งการบริหารจัดการฉีดวัคซีนต้องเป็นไปตามเป้าหมายและความสำคัญเร่งด่วนที่ ศบค. กำหนดโดยเคร่งครัด
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน บริษัท สถานประกอบการ แคมป์คนงาน ที่มีบุคลากรจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดจัดทำข้อมูลสถานที่ จำนวนบุคลากร และแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมการกรณีเกิดการติดเชื้อโควิดเป็นคลัสเตอร์หรือกลุ่มก้อน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถานประกอบการใช้ปฏิบัติในการควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายแรงงานไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรคโควิดไปยังพื้นที่อื่นๆ พร้อมมอบหมายนายอำเภอดำเนินการแนวทางดังกล่าวในระดับอำเภอด้วย
อ่านข่าวประกอบ:
ศบค.มท.แจ้งทุกจังหวัด พิจารณาสนับสนุนวัคซีนให้ พนง.-ครอบครัว'ไทยเบฟฯ' 7 หมื่นราย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage