บช.น.ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เร่งตรวจสอบเอกสารผู้ถือหุ้น ‘คริสตัลคลับ-เอมเมอรัลด์’ สองสถานบันเทิงคลัสเตอร์โควิดระลอกใหม่ ย้ำ หากพยานหลักฐานชัด จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาแจ้งข้อกล่าวหาทันที
----------------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.2564 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และ โฆษก บช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) แถลงชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกับร้านคริสตัลคลับและร้านเอมเมอรัลด์ สถานบันเทิงย่านทองหล่อ ที่เป็นคลัสเตอร์การระบาดของเชื้อโควิดระลอกใหม่
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานโดยมี พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น.เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ส่วนจะมีความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบต่อไป นอกจากนั้น ผบก.น.5 ได้มีคำสั่งให้ ผกก.สน.ทองหล่อ และ รอง ผกก.ป.สน.ทองหล่อ มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจนครบาลแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน และขอให้คณะกรรมการได้ทำงานตามระเบียบประมาณ 30 วัน
ด้าน พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า การดำเนินการก่อนหน้านี้ ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีกับผู้จัดการสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่งแล้ว และยังทำการสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ในกรณีเจ้าของหรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของสถานที่ดังกล่าว ได้มีการดำเนินการหลังวันที่ 9 เม.ย.ที่นำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งศาลแขวงพระนครใต้ได้พิพากษาลงโทษจำคุกผู้ต้องหาทั้งสอง คนละสองเดือน และให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังคนละสองเดือน นอกจากนั้น บก.น.5 ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนดำเนินการเรื่องดังกล่าว ตามคำสั่งที่ 104/2564 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เพื่อความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม บช.น.จึงได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่าจะสามารถดำเนินการไปถึงตัวเจ้าของได้หรือไม่ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะยึดจากพยานหลักฐานเป็นหลัก ซึ่งพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการไปตั้งแต่แรกที่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้จัดร้านด้วยซ้ำ แต่ต้องเรียนว่า เบื้องต้นผู้จัดการร้านถูกดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนการสืบสวนจะต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาพจากที่เป็นข่าวก็ปรากฏว่ามีนิติบุคคลใดที่ถือหุ้นบ้างนั้น ในการดำเนินคดีต้องใช้พยานเอกสารที่เป็นต้นฉบับหรือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับรองในส่วนนี้ นอกจากนั้นตำรวจยังรวบรวมข้อมูลจากทุกช่องทาง รวมถึงจากสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวด้วย และใครที่มีข้อมูลสามารถส่งมาที่ บก.น.5 หรือ บช.น.ได้ เพราะขณะนี้เราได้ทำงานในรูปแบบของคณะพนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการดำเนินการเชิญตัวผู้ถือหุ้นสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่งมาให้การกับพนักงานสืบสวนเมื่อไรนั้น พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า คงเป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว หากพิจารณาแล้วมีความเห็นทางคดีจะต้องแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด ก็เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ทั้งเอกสารทางราชการและจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจจะต้องสอบปากคำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ถึงที่มาที่ไปรวมถึงลักษณะของการถือหุ้นตรงนี้ และพยานแวดล้อมอื่นๆด้วย
(อ่านประกอบ : หุ้นส่วนธุรกิจเจ้าของ 'คริสตัลทองหล่อ' มีชื่อ-นามสกุล คล้ายนายตร.ระดับสูง?, เอ็กซ์คลูซีฟ 'พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ' ผมเป็นหุ้นส่วนธุรกิจเจ้าของ 'คริสตัลทองหล่อ' จริง)
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าของสถานบริการที่มีฉายาว่า ‘อ๊อด มิยาบิ’ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า ตำรวจยังรับข้อมูลข่าวสารเหมือนที่สื่อมวลชนรับทราบ และอยู่ระหว่างตรวจสอบอยู่ ทั้งนี้เป็นเรื่องของพนักงานสืบสวนสอบสวน หากผู้ใดก็ตามที่พบว่ามีความเกี่ยวข้อง ไม่ว่าชื่ออะไร ก็จะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมยืนยันจะเร่งดำเนินการตามกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าสถานบริการมีใบอนุญาตบางประเภท แต่ยืนยันว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบสถานบริการตาม พ.ร.บ.สถานบริการ ก็ต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาและได้ดำเนินคดีในส่วนนี้ไปแล้ว โดยขณะนี้ทั้งสองแห่งถูกสั่งปิดตามประกาศของ กทม.อยู่แล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/