ภาพชุด กอ.รมน. ป่าไม้ลุยจับ ขบวนการบุกรุกป่าเขาปางก่อ ป่าวังชมภู อ.เขาค้อ 436 ไร่ ของอดีตผู้สมัคร ส.ส.-เสี่ยร้านทอง กว้านซื้อจากชาวบ้าน 6-7 ปี ให้ชาวม้งเช่าปลูกพืชล้มลุก พบเผายางนายักษ์ 13 ต้นให้ยืนต้นตาย โค่นล้มแล้ว 1 ส่งตำรวจดำเนินคดี
ปัญหาการบุกรุกป่ายังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องล่าสุด ล่าสุดเป็นพื้นที่ป่าหลังบ้านมุกโตในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู ท้องที่หมู่ที่ 3 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2563 เวลา 11.00 น. ชุดปฏิบัติการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 (ศปป.4) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุด ปฏิบัติการฯ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ท.เรืองสิทธิ์ มิตรภานนท์ ผู้อำนวยการศปป.4 ร่วมกับกรมป่าไม้ ภายใต้การอำนวยการของ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นำโดยนายสมชาย ฉิมแย้ม บูรณาการหน่วยงานประกอบด้วย กอ.รมน.จังหวัด ตำรวจ สภ.เขาค้อ และฝ่ายปกครอง อ.เขาค้อ นำโดยนายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอ เข้าตรวจสอบการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาปางก่อ และป่าวังชมภู ของนายทุนรายใหญ่ บริเวณ หมู่ 3 บ.มุกโต ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ พื้นที่ป่าถูกบุกรุกไถพรวนเป็นบริเวณกว้าง พื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกขิง บางส่วนปลูกสัปปะรด บางส่วนมีการไถพรวนแต่ยังไม่ได้ปลูก และบางส่วนมีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม สภาพมีเพียงหญ้าคา กอพง หญ้าคอมมิวนิสต์ และวัชพืชปกคลุม
พบต้นไม้ยางนาขนาดใหญ่ล้มอยู่ 1 ต้น มีการสุมไฟโคนต้นให้ยืนต้นตาย และในพื้นที่ยังมีต้นยางนาขนาดใหญ่เหลือเพียง 12 ต้น แต่มีการเจาะ และเผาสุมไฟโคนต้นไม้ทุกต้น เพื่อเอาน้ำมันยาง และให้ต้นไม้ยืนต้นตาย ก่อนโค่นออก เพื่อใช้ประโยชน์ในที่ดินได้เต็มที่
คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพื้นที่ของนายทุน รวม 2 แปลง พื้นที่รวม 436 - 1 - 32 ไร่ ค่าเสียหายของรัฐในเบื้องต้นคิดเป็นเงิน รวม 29,777,000 บาท ได้แก่
แปลงที่ 1 เป็นของเป็นอดีตผู้สมัคร สส. สอบตก ใน จ.เพชรบูรณ์ เข้ามากว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว โดยพบมีการฝังเสาคอนกรีต เพื่อปลูกต้นพริกไทยทั่วบริเวณ แต่ไม่ได้ผล ปัจจุบันให้ชาวม้งเช่าปลูกขิง และสับปะรด เมื่อตรวจสอบข้อมูลการสำรวจการถือครองที่ดินตาม มติ ครม. 30 มิ.ย.41 พบว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือเป็นของนายทุนรายนี้แล้ว ซึ่งไม่เข้าเงื่อนไขตาม มติ ครม.ดังกล่าว และบางส่วนไม่มีการสำรวจการถือครอง จึงตรวจยึดพื้นที่ 311 - 1 - 32 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน จำนวน 21,246,473 บาท
แปลงที่ 2 เป็นของนายทุนชื่อ ‘เสี่ยใหม่’ เจ้าของร้านขายทองชื่อดัง ในเมืองเพชรบูรณ์ มีคนดูแลอยู่ใน บ.มุกโตปัจจุบันให้ชาวม้งเช่าปลูกขิง และข้าวไร่ เมื่อตรวจสอบข้อมูลการสำรวจการถือครองที่ดินตาม มติ ครม. 30 มิ.ย.41 พบว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือเป็นของนายทุนรายนี้ ประมาณ 6-7 ปี แล้ว ซึ่งไม่เข้าเงื่อนไขตาม มติ ครม.ดังกล่าว และบางส่วนไม่มีการสำรวจการถือครอง โดยในพื้นที่นายทุนรายนี้มีต้นยางนาขนาดใหญ่ 12 ต้น มีการทำลายโดยเจาะ และเผาสุมไฟโคนต้นไม้ทุกต้นด้วย จึงตรวจยึดพื้นที่ 125 - 0 - 00ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็น 8,530,527 บาท
การยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าของนายทุนทั้ง 2 ราย เป็นกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ต่อไปนี้
1. พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 - มาตรา 54 ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” และมาตรา 72 ตรี - มาตรา 55 ฐาน "ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น”
2.พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559 - มาตรา 14 ฐาน "ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” และมาตรา 31 - มาตรา 26/4 ฐาน "ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น”
หลังจากนั้นได้จัดทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายโดยมอบหมายให้ นายสมชาย ฉิมแย้ม เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และให้นายยงยุทธ คำติง พนักงานพิทักษ์ป่า ส.3 หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2 (เขาค้อ) เป็นพยาน
ทั้งนี้การเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวมาจากการร้องเรียนของชาวบ้าน
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage