สถาบันอิศราจัดงานร่วม ป.ป.ช. ให้ความรู้การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน เลขาฯเผยการยืมทรัพย์สินแบ่งเป็น 2 ส่วน ชี้เรื่องสำคัญไม่ใช่ยืมแล้วต้องแจ้งบัญชี แต่มีการยืมจริงหรือไม่ เผยเบื้องหลังสำนวนไต่สวนคดี ‘นาฬิกาเพื่อน’ นำไปคืนเจ้าของแล้ว แต่ไม่สะดวกรับคืน เลยกลายเป็นประเด็น ตั้งคณะทำงานศึกษาฯแล้ว - คดีฟุตซอล-คดีโรงพัก ยังอยู่ระหว่างดำเนินงานของ ป.ป.ช. ถ้าส่งอัยการแล้วจะแถลง
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2562 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี สถาบันอิศรา ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. จัดกิจกรรมผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. พบสื่อมวลชน หัวข้อ ‘เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน’ โดยมีนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายอุทิศ บัวศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นวิทยากร มีนายมนตรี จุ้ยม่วงศรี บรรณาธิการศูนย์ข่าวสืบสวนสอบสวน สำนักข่าวอิศรา เป็นผู้ดำเนินรายการ
ภายในงาน นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เล่าเรื่องราวเบื้องลึกฉากหลังคดี 'นาฬิกาเพื่อน' รวมถึงชำแหละประเด็น 'การยืมทรัพย์สินบุคคลอื่น' สามารถทำได้หรือไม่ อย่างไร ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียบเรียงให้สาธารณชนรับทราบ ดังนี้
นายวรวิทย์ กล่าวตอนหนึ่งถึงประเด็นการยืมบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่กลายเป็นประเด็นในสังคมที่ผ่านมาว่า บ้านเรายังติดหล่มกันอยู่ตรงนี้ ก่อนอื่นต้องดูเรื่องของวัตถุประสงค์ของการให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าพนักงานของรัฐยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินมีวัตประสงค์เพื่อต้องการสร้างความโปร่งใสให้กับระบบการเมืองและระบบราชการ ความโปร่งใสป้องกันการทุจริตได้ หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อเข้ารับตำแหน่งแล้วต้องโปร่งใส การยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งแรกเอาไว้เป็นฐานว่า ทรัพย์สินมีเท่าไหร่อย่างใด
“หัวใจสำคัญในการตรวจสอบของ ป.ป.ช. คือ ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง เขาได้ใช้อำนาจหน้าที่ไปแสวงหาผลประโยชน์ทำให้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ นี่คือประเด็นสำคัญ แต่ขณะเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการทำงานของ ป.ป.ช. ที่ผ่านมา มักมุ่งเน้นไปเรื่องแสดงถูกต้องตามความเป็นจริงหรือไม่ ยังไม่ได้ไปดูเรื่องความเคลื่อนไหวระหว่างดำรงตำแหน่ง” นายวรวิทย์ กล่าว
@เล่าเบื้องหลังคดี ‘นาฬิกาเพื่อน’ ในสำนวนระบุชัดส่งคืนแล้ว แต่เจ้าของไม่สะดวกรับคืน
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า การตรวจสอบทรัพย์สินในกรรมสิทธิ์ของผู้ยื่น คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เริ่มจากการตรวจสอบทรัพย์สินที่ต้องแสดงต่อ ป.ป.ช. ได้แก่ ทรัพย์สิน 9 ประเภท เช่น เงินฝาก เงินลงทุน ที่ดิน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น และหนี้สิน 4 ประเภท เช่น เงินเบิกเกินบัญชี หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เป็นต้น ส่วนกรณีของการยืมบัญชีทรัพย์สิน หากยึดตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ระบุไว้ แบ่งเป็น 2 แบบคือ 1.ยืมใช้คงรูป เช่น การขอยืมทรัพย์สินแบบให้เปล่า แต่มีภาระที่ต้องคืนเมื่อถึงกำหนด กรรมสิทธิ์ไม่โอน สมมติ ตนมีรถใช้ เผอิญรถเสีย แต่ต้องการใช้รถ มีเพื่อนสนิทเลยขอยืมรถเพื่อนมาใช้ ตนมีภาระที่ต้องคืนรถคันนั้นเมื่อใช้เสร็จ แต่รถคันดังกล่าวไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของตน เป็นต้น
2.การยืมใช้สิ้นเปลือง เช่น การยืมเงิน กรรมสิทธิ์ของวัตถุที่ยืมคือเงิน กรรมสิทธิ์โอนไปยังผู้ยืมเลย แล้วถ้าเกิดคนที่ยืมไม่จำเป็นต้องใช้ธนบัตรฉบับเดิม ใช้ธนบัตรฉบับใหม่ได้ เมื่อกรรมสิทธิ์โอน มีหนี้ ในแบบบัญชีทรัพย์สินระบุว่าไว้ชัดเจนในส่วนของการแสดงรายการหนี้สิน
“ส่วนประเด็นเรื่องยืมนาน ๆ หากกลับไปอ่านข้อเท็จจริงในแถลงข่าวของ ป.ป.ช. ว่า ยืมนานแค่ไหน ข้อเท็จจริงมีการยืมนาฬิกาทั้งหมด 21 เรือน ในช่วงระยะเวลาต่าง ๆ ไม่ได้ยืมกันนาน ๆ ยืมเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วก็คืน เปลี่ยนใหม่ไปเรื่อย ๆ จนถึง 21 เรือน อาจมีประเด็นสื่อมวลชนสงสัยว่า บางเรือนนานผิดปกติ ข้อเท็จจริงในสำนวนระบุว่า มีการคืนแล้ว แต่เจ้าของไม่สะดวกที่จะรับคืน ก็เป็นระยะเวลาที่อาจกลายเป็นประเด็น” นายวรวิทย์ กล่าว
นายวรวิทย์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อปรับปรุงแก้ไขแบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องยื่นแก่ ป.ป.ช. เนื่องจากมีทรัพย์สินหลายรายการที่มีคำอธิบายและอาจเกิดปัญหา เช่น ทรัพย์สินอื่น โดย 2-3 วันก่อนหน้านี้ไปชี้แจงเรื่องยื่นบัญชีทรัพย์สินให้ ส.ว. ฟัง มีบางรายตั้งข้อสังเกตว่า ทรัพย์สินอื่นนั้น ต้องระบุเป็นรายชิ้น หรือระบุภาพรวม เป็นต้น นี่คือประเด็นที่ ป.ป.ช. รับมาพิจารณา
“ส่วนกรณีการยืมทรัพย์สิน ถ้าเกิดขึ้นก่อน และถือว่าอยู่ในบริบทที่ควรจะต้องแจ้งหรือไม่ นี่คืออยู่ในประเด็นที่คณะทำงานศึกษาอยู่ และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป แต่ประเด็นไม่ใช่อยู่ที่ว่ายืมแล้วแจ้งบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ ประเด็นอยู่ที่ว่าใช่การยืมหรือไม่ หรือเป็นของตัวเองแล้วบอกยืมหรือไม่ นี่เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ในการค้นหาความจริง” นายวรวิทย์ กล่าว
@เผยมี ส.ว.บางรายยื่นทรัพย์สินช้า แต่สามารถขอขยายเวลาเพิ่มได้อีก 30 วัน
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงขั้นตอนการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. ว่า ในส่วน ส.ว. เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมาครบกำหนดการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามกฎหมายใหม่ไปแล้ว 60 วัน อย่างไรก็ดีพบว่ายังมีบางรายยังไม่ยื่น เนื่องจากอ้างว่ารวบรวมไม่แล้วเสร็จ แต่สามารถขอขยายเวลาเพิ่มเติมได้อีก 30 วัน ส่วน ส.ส. จะครบกำหนดในวันนี้ (24 ก.ค. 2562) โดยการขอขยายเวลาเพิ่มเติม เป็นดุลยพินิจในอำนาจของเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่วนคณะรัฐมนตรีนั้น หากเป็นรัฐมนตรีเดิมที่เคยได้รับการแต่งตั้งต่อเนื่องให้เป็นรัฐมนตรีใหม่ ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตาม มาตรา 105 วรรคสี่ ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. ปี 2561 เพราะจะยึดจากการยื่นบัญชีในครั้งแรกที่เข้ารับตำแหน่ง แต่ไม่ห้ามหากใครจะยื่นไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น แต่หาก ป.ป.ช. มีเหตุอันควรสงสัยเรื่องบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองผู้ใด สามารถขอให้ชี้แจงได้ โดยคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่มิได้เป็นรัฐมนตรีเดิม ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายใน 17 ก.ย. 2562
@อุบไต๋ปมชี้มูล‘สุเทพ’คดีโรงพัก-ลั่นแถลงทุกคดีสำคัญหลังส่งให้อัยการ
นายวรวิทย์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับพวก คดีโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (โรงพัก) ทดแทน 396 แห่ง 5.8 พันล้านบาท กับคดีชี้มูล 3 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พันคดีการก่อสร้างสนามฟุตซอลเขตพื้นที่การศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. ยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่สามารถบอกอะไรได้
เมื่อถามว่าชี้มูลไปแล้ว หรืออยู่ระหว่างรอส่งอัยการ นายวรวิทย์ กล่าวว่า ขั้นตอน ป.ป.ช. รวมทุกอย่างตั้งแต่เรื่องการรับรองรายงานการประชุม การส่งหลักฐานให้กับอัยการ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ถ้าส่งให้อัยการแล้วจะแถลงให้ทราบต่อไป รวมถึงทุก ๆ เรื่องที่จะเปิดเผย หลังจากที่ส่งให้อัยการแล้ว
เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราเกี่ยวกับประเด็นยืมทรัพย์สินต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินเเละหนี้สินกับป.ป.ช. หรือไม่ เมื่อ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.ชี้มูล‘สุเทพ-พล.ต.อ.ปทีป’ถูกกล่าวหาคดีโรงพักทดแทน 396 แห่ง 5.8 พันล.
ป.ป.ช.เชือด 3 ส.ส.พปชร.-มี ‘บิ๊ก’ด้วย! คดีสนามฟุตซอล เขตพื้นที่การศึกษา 2 โคราช