"...กระทรวงฯ มีการแก้ไข TOR จริงแล้วไม่ได้ระบุเทคโนโลยีใหม่ที่มีคุณสมบัติใกล้กัน แต่กลับเสนอให้มีการสลักรูปด้วยเลเซอร์ซึ่งเป็นคุณสมบัติปกติทั่วไปที่มีอยู่แล้ว ไม่สามารถเทียบเท่าคุณสมสบัติ Image Perf ได้เลย การเปิดกว้างรับเทคโนโลยีใหม่เป็นพื้นฐานทั่วไปในการเสนอราคาโครงการโดยปกติไม่เกี่ยวกับการแก้ไข TOR ให้ต่ำลง ทั้งนี้คุณสมบัติการป้องกันการปลอมแปลงของไทยสูงกว่าใน ICAO อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ต่ำกว่าครั้งแรกจากการลดคุณสมบัติ Image Perf ที่เคยมีอยู่อย่างเห็นได้ชัด..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.israne ws.org : เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2562 กิจการร่วมค้า จันวาณิชย์ (บริษัท จันวาณิชย์ จำกัด และบริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้ พริ้นท์ติ้ง จำกัด) และกลุ่มบริษัทฯผู้เข้าเสนอราคา อีก 2 ราย คือ กิจการร่วมค้า TIM (บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด, IDEMIA (ฝรั่งเศส) MSC และ CP) และ กิจการร่วมค้า WIN (สามารถ, ศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์, MSCS และ Dermalug (เยอรมัน) ได้รวมกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวกรณี กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ชี้แจงเกี่ยวกับหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ จำนวน 15 ล้านเล่ม วงเงิน 7.4 พันล้านบาท
โดยระบุเนื้อหาว่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงเกี่ยวกับหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ ตามที่มีการเผยแพร่รายงานข่าวเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562 เกี่ยวกับหนังสือเดินทางรุ่นใหม่โดยกล่าวอ้างว่า ได้ลดคุณลักษณะการรักษาความปลอดภัยของเล่มหนังสือเดินทางเพื่อให้ราคาต่ำลงและอาจถูกปฏิเสธเข้าเมืองได้ นั้น
กลุ่มบริษัทฯผู้เข้าเสนอราคา ทั้ง 3 ราย ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
กรณีที่กระทรวงฯชี้แจงว่า “1. การพิจารณาข้อเสนอสำหรับโครงการจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 ใช้เกณฑ์การประเมิน price performance ซึ่งได้กำหนดสัดส่วนคะแนนด้านราคาไว้ที่ร้อยละ 40 และคะแนนด้านประสิทธิภาพไว้ที่ร้อยละ 60 ผู้ชนะจึงอาจไม่ใช่ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด แต่ต้องเป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้คะแนนราคา-ประสิทธิภาพรวมสูงสุด ดังนั้น การที่กล่าวอ้างว่าลดราคาหาผู้ชนะประมูล จึงคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง”
-เข้าใจเรื่องเกณฑ์การประเมิน price performance ดี แต่การที่ สเปกลดลงและมีผลทำให้ต้นทุนราคาผู้เสนอถูกลงนั้น ในขณะเดียวกันคุณสมบัติขั้นต่ำที่จำเป็นต้องมีไม่ให้ต่ำกว่าของเดิมควรจะคงอยู่ แต่ผู้ชนะการประมูลไม่ได้นำเสนอให้มาตรฐานไม่ต่ำกว่าที่ใช้อยู่ในหนังสือเดินทางปัจจุบัน
กรณีที่กระทรวงฯชี้แจงว่า 2. กระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความสำคัญกับคุณลักษณะความปลอดภัยของหนังสือเดินทางมาโดยตลอด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ที่ได้เพิ่มการจัดเก็บข้อมูลชีวมาตรเพิ่มขึ้นจากเดิมโดยจะมีการจัดเก็บม่านตา (iris) เพิ่มขึ้นจากการจัดเก็บเพียงใบหน้าและลายนิ้วมือ ซึ่งข้อมูลชีวมาตรดังกล่าวเป็นคุณลักษณะความปลอดภัยสำคัญสูงสุดในการป้องกันการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง จึงเห็นได้ว่า หนังสือเดินทางรุ่นใหม่ของไทยมีมาตรฐานสูงกว่าที่ ICAO กำหนด และปลอมแปลงได้ยากกว่าเดิม
-มีการจัดเก็บม่านตาลงบนฐานข้อมูลก็จริง ในความเป็นจริงไม่มีการใช้พิสูจน์ตัวตนของผู้ถือหนังสือเดินทาง ณ จุดตรวจเข้าเมืองแต่อย่างใดด้วยเหตุผลทางด้านความคุ้มค่าและความเหมาะสมในการนำมาใช้งานกับผู้ถือหนังสือเดินทางทั่วไป
เพราะข้อมูลม่านตาไม่ได้ถูกบันทึกลงในชิป ในหนังสือเดินทาง “จึงไม่สามารถจะนับเป็นเครื่องมือที่จะใช้พิสูจน์ในการป้องกันการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง”
กรณีที่กระทรวงฯชี้แจงว่า “3. สำหรับข้อกล่าวอ้างว่าได้มีการลดสเปกความปลอดภัยของหนังสือเดินทาง นั้น ขอเรียนว่า ตาม TOR ของโครงการหนังสือเดินทางฯ ในระยะที่ 3 กระทรวงฯ ได้กำหนดคุณลักษณะให้เปิดกว้างรับเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้อยู่เดิม หรือเทคโนโลยีใหม่ แต่ที่สำคัญรูปแบบด้านความปลอดภัยต้องเทียบเท่าหรือดีกว่าของเดิม โดยข้อกำหนดขั้นต่ำเรื่องการ “สร้างภาพเสมือนจริงด้วยเลเซอร์เป็นรูปใบหน้าของผู้ถือหนังสือเดินทางบนหน้าข้อมูล” เป็นข้อกำหนดที่สูงกว่าที่ ICAO กำหนด และเปิดกว้างรับเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงยอมรับเทคโนโลยีเดิม
-แม้คุณสมบัติของหนังสือเดินทางรุ่นใหม่จะมีมาตรฐานสูงกว่า ICAO แต่ก็ยังต่ำกว่าคุณสมบัติของหนังสือเดินทางปัจจุบันที่มีมาตรฐานสูงกว่า ICAO กำหนดไว้มาก ทั้งด้านต้นทุนการผลิตและระดับความปลอดภัยในการป้องกันการปลอมแปลง
-กระทรวงฯ มีการแก้ไข TOR จริงแล้วไม่ได้ระบุเทคโนโลยีใหม่ที่มีคุณสมบัติใกล้กัน แต่กลับเสนอให้มีการสลักรูปด้วยเลเซอร์ซึ่งเป็นคุณสมบัติปกติทั่วไปที่มีอยู่แล้ว ไม่สามารถเทียบเท่าคุณสมสบัติ Image Perf ได้เลย การเปิดกว้างรับเทคโนโลยีใหม่เป็นพื้นฐานทั่วไปในการเสนอราคาโครงการโดยปกติไม่เกี่ยวกับการแก้ไข TOR ให้ต่ำลง ทั้งนี้คุณสมบัติการป้องกันการปลอมแปลงของไทยสูงกว่าใน ICAO อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ต่ำกว่าครั้งแรกจากการลดคุณสมบัติ Image Perf ที่เคยมีอยู่อย่างเห็นได้ชัด
การเปรียบเทียบคุณสมบัติที่ลดลง
จากการที่กระทรวงการต่างประเทศได้มีข้อชี้แจงเกี่ยวกับหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ มีข้อสงสัยในข้อชี้แจง ดังนี้
3. กระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความสำคัญกับคุณลักษณะความปลอดภัยของหนังสือเดินทางมาโดยตลอด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ที่ได้เพิ่มการจัดเก็บข้อมูลชีวมาตรเพิ่มขึ้นจากเดิมโดยจะมีการจัดเก็บม่านตา (iris) เพิ่มขึ้นจากการจัดเก็บเพียงใบหน้าและลายนิ้วมือ ซึ่งข้อมูลชีวมาตรดังกล่าวเป็นคุณลักษณะความปลอดภัยสำคัญสูงสุดในการป้องกันการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง จึงเห็นได้ว่า หนังสือเดินทางรุ่นใหม่ของไทยมีมาตรฐานสูงกว่าที่ ICAO กำหนด และปลอมแปลงได้ยากกว่าเดิม ข้อกล่าวอ้างว่าได้มีการลดสเป๊กความปลอดภัยของหนังสือเดินทางจึงคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง
ทั้งนี้ ขอเรียนว่า TOR ของโครงการนี้ได้กำหนดคุณลักษณะให้เปิดกว้างรับเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้อยู่เดิม หรือเทคโนโลยีใหม่ แต่ที่สำคัญรูปแบบด้านความปลอดภัยต้องเทียบเท่าหรือดีกว่าของเดิม
จากที่กระทรวงได้ตอบมาข้างต้น มีข้อสงสัยว่า “...เทคโนโลยีที่ใช้อยู่เดิม หรือเทคโนโลยีใหม่ แต่ที่สำคัญรูปแบบด้านความปลอดภัยต้องเทียบเท่าหรือดีกว่าของเดิม...” ซึ่งในปัจจุบัน เทคโนโลยีดังกล่าวมีเพียงเทคโนโลยีเดียวคือ เทคโนโลยี Window Lock ซึ่งเป็นเทคโนโลยีถูกจดทรัพย์สินทางปัญญาด้วยบริษัทที่เป็นบริษัทลูกของผู้ชนะการประมูล ที่น่าสนใจคือการที่ผู้ชนะการเสนอราคาเป็นเพียงผู้ยื่นข้อเสนอรายเดียวที่ไม่เสนอเทคโนโลยี Image Perforation ดังนั้น จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าการตัดคุณสมบัติเทคโนโลยี Image Perforation ออก เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ยื่นข้อเสนอราคาเพียงรายใดรายหนึ่งให้สามารถใช้เทคโนโลยีซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของตัวเองได้ และก่อให้เกิดความได้เปรียบในด้านต้นทุนที่ต่ำกว่าผู้ประมูลรายอื่นมาก
4. ในส่วนการ “สร้างภาพเสมือนจริงด้วยเลเซอร์เป็นรูปใบหน้าของผู้ถือหนังสือเดินทางบนหน้าข้อมูล” นั้น เป็นข้อกำหนดที่สูงกว่าที่ ICAO กำหนด โดย ICAO ได้กำหนดมาตรฐานคุณลักษณะความปลอดภัยในส่วนของคุณลักษณะของเทคโนโลยีการป้องกันการปลอมแปลงภาพถ่ายให้เป็นเพียง “additional portrait image(s)” ในเอกสาร Doc 9303 ข้อ A.5.4.4 ซึ่งเป็นการกำหนดคำนิยามไว้อย่างกว้าง เพื่อไม่เป็นการชี้นำหรือสนับสนุนเทคโนโลยีของผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ ดังนั้น TOR จึงเปิดกว้างรับทั้งเทคโนโลยีเดิม (Image Perforation) และเทคโนโลยีใหม่ที่ได้มีการพัฒนาขึ้น และมิได้ปรับลดคุณสมบัติหนังสือเดินทางลง จึงขึ้นอยู่กับผู้ยื่นข้อเสนอว่าจะใช้เทคโนโลยีใด การกล่าวอ้างที่ว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ปรับลดคุณสมบัติหนังสือเดินทางลงจากปัจจุบันทำให้ปลอมแปลงได้ง่ายจึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
อนึ่ง หนังสือเดินทางไทยในปัจจุบันใช้เทคโนโลยี Image Perforation มาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้มานานกว่า 20 ปีแล้ว และในช่วงระยะเวลาดังกล่าวได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมาที่สมควรได้รับการพิจารณาด้วย โดยปัจจุบันมีหลายประเทศหันมาใช้เทคโนโลยีที่ผู้ยืนข้อเสนอที่ชนะการประมูลครั้งนี้จะนำมาใช้ในการสร้างภาพเสมือนจริงด้วยเลเซอร์แล้ว รวมทั้งฟินแลนด์ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น
ประเด็นที่น่าสนใจคือ การที่กระทรวงการต่างประเทศเลือกที่จะกำหนดคำนิยามไว้อย่างกว้าง เพื่อไม่เป็นการชี้นำหรือสนับสนุนเทคโนโลยีของผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะจนเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบอย่างมีนัยยะสำคัญ
--------------
อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2562 กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่ข่าว ชี้แจงเกี่ยวกับหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ ระบุว่า
ด้วยวันนี้ (1 กรกฎาคม 2562 ) นายธานี ทองภักดี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวโดยกล่าวอ้างว่า กระทรวงฯ ได้ลดคุณลักษณะการรักษาความปลอดภัยของเล่มหนังสือเดินทางเพื่อให้ราคาต่ำลงและอาจถูกปฏิเสธเข้าเมืองได้ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ในการดำเนินโครงการจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 กระทรวงการต่างประเทศมุ่งเน้นการปรับปรุงการให้บริการและคุณลักษณะของหนังสือเดินทางให้ดียิ่งขึ้นเพื่อความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยของประชาชน อาทิ การเปิดสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวในต่างจังหวัดมากขึ้น การปรับปรุงกระบวนการในการรับคำร้องจะใช้เวลาไม่เกิน 12 นาทีจากไม่เกิน 20 นาทีในปัจจุบัน และผู้ที่ต้องการทำหนังสือเดินทางที่บรรลุนิติภาวะแล้วสามารถเลือกได้ว่าจะทำหนังสือเดินทางอายุใช้งาน 5 ปีหรือ 10 ปี เป็นต้น
2. ในส่วนของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญกับการดำเนินการที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน โดยโครงการจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 เป็นโครงการที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (Superboard) อีกทั้งเป็นโครงการที่เข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรม ซึ่งมีผู้สังเกตการณ์อิสระจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นประเทศไทย เข้าร่วมด้วยในทุกขั้นตอน ตลอดจนมีการแต่งตั้งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภายนอกเป็นกรรมการในคณะกรรมการทุกชุดด้วยเช่นกัน
3. การพิจารณาข้อเสนอสำหรับโครงการจ้างผลิตหนังสือเดินทางครั้งนี้ใช้เกณฑ์การประเมิน price performance ซึ่งได้กำหนดสัดส่วนคะแนนด้านราคาไว้ที่ร้อยละ 40 และคะแนนด้านประสิทธิภาพไว้ที่ร้อยละ 60 ผู้ชนะจึงอาจไม่ใช่ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด แต่ต้องเป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้คะแนนราคา-ประสิทธิภาพรวมสูงสุด ดังนั้น การที่กล่าวอ้างว่าโครงการนี้ขาดความโปร่งใสและมุ่งลดราคาหาผู้ชนะประมูล จึงคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง
4. กระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความสำคัญกับคุณลักษณะความปลอดภัยของหนังสือเดินทางมาโดยตลอด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือเดินทางรุ่นใหม่ที่ได้เพิ่มการจัดเก็บข้อมูลชีวมาตรเพิ่มขึ้นจากเดิมโดยจะมีการจัดเก็บม่านตา (iris) เพิ่มขึ้นจากการจัดเก็บเพียงใบหน้าและลายนิ้วมือ ซึ่งข้อมูลชีวมาตรดังกล่าวเป็นคุณลักษณะความปลอดภัยสำคัญสูงสุดในการป้องกันการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง ทั้งนี้ ผู้ชนะประกวดราคาได้คะแนนในส่วนของเกณฑ์ประสิทธิภาพด้านคุณลักษณะความปลอดภัยสูงเป็นลำดับแรก
5. หนังสือเดินทางรุ่นใหม่ของไทยมีมาตรฐานสูงกว่าที่ ICAO กำหนด และมีคุณลักษณะความปลอดภัยมากกว่าที่กำหนดไว้ใน TOR โครงการระยะที่ ๒ ข้อกล่าวอ้างว่าได้มีการลดสเป๊กความปลอดภัยของหนังสือเดินทางจึงไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ ขอเรียนว่า TOR ของโครงการนี้ได้กำหนดคุณลักษณะให้เปิดกว้างรับเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้อยู่เดิม หรือเทคโนโลยีใหม่ แต่ที่สำคัญรูปแบบด้านความปลอดภัยต้องเทียบเท่าหรือดีกว่าที่กำหนดไว้ในระยะที่ 2
6. ในส่วนการ “สร้างภาพเสมือนจริงด้วยเลเซอร์เป็นรูปใบหน้าของผู้ถือหนังสือเดินทางบนหน้าข้อมูล” นั้น เป็นข้อกำหนดที่สูงกว่าที่ ICAO กำหนด โดย ICAO ได้กำหนดมาตรฐานคุณลักษณะความปลอดภัยในส่วนของคุณลักษณะของเทคโนโลยีการป้องกันการปลอมแปลงภาพถ่ายให้เป็นเพียง “additional portrait image(s)” ในเอกสาร Doc 9303 ข้อ A.5.4.4 ซึ่งเป็นการกำหนดคำนิยามไว้อย่างกว้าง เพื่อไม่เป็นการชี้นำหรือสนับสนุนเทคโนโลยีของผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับผู้ยื่นข้อเสนอว่าจะใช้เทคโนโลยีใด การกล่าวอ้างที่ว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ปรับลดคุณสมบัติหนังสือเดินทางลงจากปัจจุบันทำให้ปลอมแปลงได้ง่ายจึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
อนึ่ง หนังสือเดินทางไทยในปัจจุบันใช้เทคโนโลยี Image Perforation มาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้มานานกว่า 20 ปีแล้ว และในช่วงระยะเวลาดังกล่าวได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมาที่สมควรได้รับการพิจารณาด้วย โดยปัจจุบันมีหลายประเทศหันมาใช้เทคโนโลยี Window Lock ที่ผู้ยื่นข้อเสนอที่ชนะการประมูลครั้งนี้จะนำมาใช้ในการสร้างภาพเสมือนจริงด้วยเลเซอร์แล้ว เช่น ฟินแลนด์ และสิงคโปร์ เป็นต้น
7. โดยสรุป หนังสือเดินทางรุ่นใหม่ของไทยจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ จะมีมาตรฐานสูงกว่าที่ ICAO กำหนด และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล จึงมั่นใจได้ว่าเมื่อนำไปใช้ในต่างประเทศจะไม่ประสบปัญหาตามที่ได้มีการกล่าวอ้าง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ประกาศแล้ว! กลุ่ม DGM Consortium ชนะประกวด อี-พาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม 7.4 พันล.
ทางการ!ประกาศประกวดราคารอบ 2 ‘พาสปอร์ต’15 ล.เล่ม 28 มี.ค.-กลุ่ม WIN ลุยอีกยก
เปิดไทม์ไลน์ประกวดราคารอบ 2 ‘พาสปอร์ต’ 15 ล.เล่ม 28 มี.ค.62 -เสนอได้ครั้งเดียว
เปิดใจ ‘สุทัด’ ฉายทิศธุรกิจ บ.ศิริวัฒนาฯ -พร้อมแข่งอีพาสปอร์ตเฟส 3 ครั้งใหม่
ลางานยาว-ติดต่อไม่ได้! ซี 8 ลาออกหลังถูกตั้งเป็นกก.ตรวจรับพาสปอร์ต1.2หมื่นล.จริงหรือ?
บันทึกว่อนขรก.กต.! ซี8 ยื่นลาออกประท้วงถูกตั้งเป็นกก.ตรวจรับจ้างผลิตพาสปอร์ต1.2หมื่นล.
ขอหารือคกก.ก่อน! 'ดอน'ยังตอบไม่ได้ประกวดราคาพาสปอร์ต1.2 หมื่นล.ครั้งใหม่
เริ่มเมื่อไรขอหารือคกก.ก่อน! 'ดอน'ยังตอบไม่ได้ประกวดราคาพาสปอร์ต1.2 หมื่นล.ครั้งใหม่
ที่แท้กลุ่ม WIN ยื่นข้อเสนอถูกต้องรายเดียว ก่อนล้มประกวดราคาพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม
ข้องใจล้มประกวดราคาพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม! เอกชนยื่นให้เปิดเผยผลคะแนน
ล้มกระดานประกวดราคาพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม ใครได้ประโยชน์?
ไม่เปิดชื่อบ.ยื่นข้อเสนอถูกต้อง!อธิบดีกงสุล ยันยกเลิกประกวดราคาพาสปอร์ต15ล้านเล่ม ตามกม.
ยกเลิกประกวดราคาทำพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม อ้างเอกชนเสนอถูกต้องเพียงรายเดียว
'อิศรา' ถาม 'อธิบดีกรมการกงสุล' ตอบ! ประเด็นร้อนจ้างผลิตพาสปอร์ต2ช่วง 1.47 หมื่นล.
เมินข้อตกลงคุณธรรม? ไม่เปิดเผยรายชื่อเอกชนยื่นประกวดราคาพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม
คำนึงความโปร่งใส-ปย.สูงสุดราชการ! กรมการกงสุล แจงจ้างผลิตพาสปอร์ต2ช่วง 1.47 หมื่นล.
2 ปม‘ให้คะแนน’ ประกวดราคาพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม ไฉน'เจ้าเดิม' โอกาสสูง?
ดูชัดๆ เกณฑ์ให้คะแนนประกวดพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม เจ้าเดิม-หน้าใหม่ ใครเข้าวิน?
เปิดตัว 4 บิ๊กบริษัท ชิงพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม - เผยเกณฑ์ให้คะแนน 60 : 40
ผ่าเล่มพาสปอร์ต ‘เครื่องบันทึกข้อมูล’ จุดชี้ขาด ใครกวาด 15 ล้านเล่ม?
ห้ามผู้ยื่นเข้าดูพื้นที่จริง-เปิดข้อมูลทางเทคนิคไม่ได้! คำชี้แจงกรณีพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม
ชื่อบ.จันวาณิชย์เข้าร่วมด้วย! 'ดอน' ยันจัดซื้อพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม 1.2 หมื่นล.โปร่งใส
ยุคทักษิณ-บิ๊กตู่ ใครคือรายใหญ่ กวาด PASSPORT- Visa Sticker 1.6 หมื่นล.?
เผย 4 รายประกวดทำพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม 1.2 หมื่นล.-กรมบัญชีกลางปิดชื่อเอกชน