กทม. แจงปมทำสัญญาเช่ารถเก็บขยะ-ดูดฝุ่นถนน 5 สัญญารวด 5.1 พันล้าน ภายในเดือนครึ่ง เพื่อทดแทนของเดิมที่กำลังจะหมดสัญญา ของใหม่ 1 ต.ค.62 เริ่มวิ่งปฏิบัติการได้ ยันกระบวนการจัดซื้อจ้างโปร่งใสทำตามระเบียบกม.ผ่านกรมบัญชีกลาง เผยเอกชนคู่สัญญา 2 ราย เคยได้งานมาแล้ว ไม่สร้างความเสียหายให้ของที่ใช้มีคุณภาพดี
สืบเนื่องจาก สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ติดตามตรวจสอบข้อมูล กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดซื้อจัดจ้างเช่ารถเก็บขยะและรถดูดฝุ่นถนน รวม 5 สัญญา รวมวงเงิน 5.1 พันล้านบาท จากเอกชน 2 ราย คือ บริษัท อิทธิพร อิมปอร์ต จำกัด 3 สัญญา และ หจก.ที.ไอ.พี. ออโต้พาร์ท 2 สัญญา โดยลงนามสัญญาในระยะเวลาเดือนครึ่ง คือ ช่วงวันที่ 16 ต.ค.-30 พ.ย. 2561 ซึ่งเป็นงบประมาณปี 2562 (อ่านประกอบ : บ.อิทธิพรฯ คว้างานเช่ารถขยะกทม. 2.3 พันล.- ไม่เปิดชื่อซื้อซอง 16 ราย ยื่นแข่งแค่ 2 เจ้า , สัญญาที่ 2 กทม. เช่ารถดูดฝุ่น 50 คัน 1.17 พันล. เฉลี่ยคันละ 23.5 ล.-ยื่นเสนอราคาเจ้าเดียว , เปิดข้อมูล หจก.ที.ไอ.พี.ฯ คว้างานรัฐ14 สัญญา 6.3 พันล.! กทม.คู่ค้าหลัก-เช่ารถขยะด้วย 387 ล. , พบแล้ว! ไส้ใน 2 สัญญาเช่ารถขยะกทม. บ.อิทธิพรฯ ชิงดำ หจก.ที.ไอ.พี ก่อนคว้างาน 1.2 พันล.)
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2562 นางอุษณีย์ อินทรพักตร์ ผู้อำนวยการส่วนบริการจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล สำนักงานจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา ถึงการจัดซื้อจัดจ้างเช่ารถเก็บขยะและรถดูดฝุ่นถนน รวม 5 สัญญา รวมวงเงิน 5.1 พันล้านบาท ดังกล่าวว่า การทำสัญญาเช่ารถเก็บขยะและรถดูดฝุ่นถนน ของ กทม.ทั้ง 5 สัญญา เป็นการเช่าเพื่อทดแทนของเดิมที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาลง
โดยสัญญาเช่ารถที่ทำในปีงบประมาณ 2562 นั้น ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 และจะเริ่มใช้รถออกวิ่งปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2562 ซึ่งเป็นปีงบประมาณ 2563 ซึ่งจะเริ่มนับเวลาเช่าตั้งแต่การออกวิ่งปฏิบัติการวันแรกไปจนครบสัญญาเช่า 5 ปี ไม่รวมระยะเวลาจัดหา โดยในทีโออาจะระบุชัดเจนว่า รถต้องออกวิ่งปฏิบัติการเมื่อไร
“การเช่ารถเก็บขยะและรถกวาดดูดฝุ่นดังกล่าวนั้น ไม่ได้รอให้หมดสัญญาก่อนหน้าก่อน แล้วจึงทำสัญญาใหม่ เนื่องจากรถประเภทดังกล่าวไม่ได้มีขายทั่วไป เมื่อเอกชนรายใดได้สัญญาไป ต้องดำเนินการประกอบรถขึ้นมาตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ ดังนั้น ก่อนจะหมดสัญญาต้องดำเนินการสัญญาใหม่เตรียมไว้ก่อนอย่างน้อยประมาณ 2 ปี คือ ในปีแรกเป็นกระบวนการที่ กทม. จะจัดหาผู้รับจ้าง ซึ่งมีขั้นตอนต่างๆ มากมาย ส่วนปีถัดมา เมื่อลงนามสัญญาแล้ว ผู้รับจ้างต้องไปดำเนินการประกอบรถเตรียมไว้ เพื่อที่จะส่งมอบและดำเนินการต่อเนื่องจากสัญญาเดิมที่สิ้นสุดลงในวันถัดไปทันที อย่างเช่น รถเก็บขยะขนาด 5 ตัน หรือแบบ 8 ลบ.ม. ที่ กทม. ใช้งานอยู่ จะหมดสัญญาลงในวันที่ 22 ธ.ค. 2562 ฉะนั้น ในวันที่ 23 ธ.ค. 2562 รถเช่าในสัญญาใหม่ต้องออกวิ่งปฏิบัติการในทันที เพราะขยะต้องจัดเก็บทุกวัน ไม่สามารถที่จะงดเว้นการเก็บได้” นางอุษณีย์ กล่าว
นางอุษณีย์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่สำนักสิ่งแวดล้อมดำเนินการจัดทำภายใต้ระเบียบและกฎหมายที่กำหนด ซึ่งสัญญาดังกล่าวจัดซื้อจัดจ้างแบบ e-bidding ข้อมูลทุกอย่างเข้าระบบอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ผ่านกรมบัญชีกลาง
“การจัดเช่ามีเอกชนสนใจข้ามาซื้อเอกสารหลายราย แต่ในส่วนที่เอกชนจะยื่นเสนอราคาหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่เอกชน กทม. ได้ทำทุกอย่างตามระเบียบและขั้นตอนถูกต้อง หากทำไม่ถูกต้องจะไม่สามารถทำจัดซื้อจัดจ้างกระบวนการนั้นสำเร็จได้ ต้องทำภายใต้การควบคุมของกรมบัญชีกลางทั้งหมด” นางอุษณีย์ ระบุ
นางอุษณีย์ กล่าวต่อว่า "ปัจจุบันมีการก่อสร้างมากมายในกรุงเทพฯ การทำความสะอาดด้วยรถหรือเครื่องจักรจะดีกว่าใช้คนกวาด กล่าวคือ เมื่อรถดูดฝุ่นขึ้นไป ระบบจะพรมน้ำลงไปด้วย ทำให้ฝุ่นไม่ฟุ้งกระจาย หากใช้คนกวาดฝุ่นจะฟุ้งกระจาย อีกทั้งบางพื้นที่ไม่สามารถใช้คนเข้าไปกวาดได้ เช่น ทางต่างระดับ เกาะกลางถนน สะพานลอย ทางรถยนต์ข้าม จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดจึงต้องใช้รถหรือเครื่องจักรในการทำงาน"
เมื่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราถามว่า รถเช่าที่ออกวิ่งปฏิบัติการนั้น ผู้ขับเป็นเจ้าหน้าที่ของเอกชนคู่สัญญาหรือ กทม. นางอุษณีย์ ตอบว่า “แบ่งเป็น 2 แบบ คือ รถเก็บขยะใช้เจ้าหน้าที่ของสำนักเขตนั้นๆ เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนรถกวาดดูดฝุ่นนั้นในสัญญาเช่าทั้งรถและคนขับด้วย”
เมื่อถามว่า กทม . มีการตรวจสอบข้อมูลรวมถึงความเกี่ยวโยงกันของเอกชนคู่สัญญาทั้ง 2 รายหรือไม่ นางอุษณีย์ ตอบว่า “มีการตรวจสอบในระดับหนึ่ง จะเห็นว่าการจัดซื้อจัดจ้างก็เปิดกว้าง มีเอกชนหลายรายสนใจซื้อเอกสาร แต่การยื่นเสนอราคานั้นเป็นการตัดสินใจเองของเอกชน ไม่ได้บอกว่าจะต้องเฉพาะเอกชน 2 รายนี้เท่านั้น ในการกำหนดคุณสมบัติ ส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมถึงกระบวนการได้ดำเนินถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบ มีกรรมการพิจารณา ตรวจสอบเอกสาร"
เมื่อถามว่า การดำเนินการ 5 สัญญาดังกล่าว มีอุปสรรคปัญหาอะไรหรือไม่ นางอุษณีย์ ตอบว่า “ไม่มีปัญหา เอกชนทั้ง 2 ราย เคยเป็นคู่สัญญามาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่เคยสร้างความเสียหายให้กับทาง กทม. แต่อย่างใด ของที่ใช้มีคุณภาพดี”
เมื่อถามว่า จำนวนรถที่เช่านั้นออกปฏิบัติการพร้อมกันทั้งหมดหรือไม่ นางอุษณีย์ ตอบว่า “ไม่ได้ออกวิ่งปฏิบัติการพร้อมกันทุกคัน แบ่งเป็นงวด เช่น สัญญาเช่า 200 คัน งวดแรกใช้รถ 100 คัน เมื่อครบกำหนด งวดต่อไปเอกชนต้องดำเนินการหา 100 คัน มาทดแทนของเดิม เอกชนต้องดำเนินการตามสัญญาที่กำหนดไว้”
นางอุษณีย์ ยังกล่าวด้วยว่า การจัดซื้อจัดจ้างแบบเช่านั้น มีข้อดีอย่างหนึ่งคือ เมื่อรถเสียหาย เอกชนมีรถสำรองเตรียมไว้ให้ ซึ่งในสัญญาได้ระบุไว้ว่าต้องสำรองรถไว้ให้จำนวนเท่าไร ไม่ทำให้การออกปฏิบัติการเก็บขยะของเจ้าหน้าที่เสียหายหรือมีปัญหา
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
พบแล้ว! ไส้ใน 2 สัญญาเช่ารถขยะกทม. บ.อิทธิพรฯ ชิงดำ หจก.ที.ไอ.พี ก่อนคว้างาน 1.2 พันล.
เจออีก 2 สัญญา! เบ็ดเสร็จกทม.เช่ารถขยะเอกชน เดือนครึ่ง ทำสัญญา 5 โครงการรวด 5.1 พันล.
เปิดข้อมูล หจก.ที.ไอ.พี.ฯ คว้างานรัฐ14 สัญญา 6.3 พันล.! กทม.คู่ค้าหลัก-เช่ารถขยะด้วย 387 ล.
สัญญาที่ 2 กทม. เช่ารถดูดฝุ่น 50 คัน 1.17 พันล. เฉลี่ยคันละ 23.5 ล.-ยื่นเสนอราคาเจ้าเดียว
เจาะข้อมูลจัดซื้อจ้างรัฐ โค้งสุดท้าย 'รบ.บิ๊กตู่' ลงนามเอกชนรับงาน 20 สัญญา 1.3 แสนล.
ก่อนให้เช่ารถกทม.2.3 พันล.! บ.อิทธิพรฯ ขายรถบรรทุกกองทัพ1.4พันล.ด้วย-ห่างกันเดือนเดียว
บ.อิทธิพรฯ คว้างานเช่ารถขยะกทม. 2.3 พันล.- ไม่เปิดชื่อซื้อซอง 16 ราย ยื่นแข่งแค่ 2 เจ้า