
DSI ร่วมกับกรมอุทยานฯ ยึดไม้ลักลอบตัด คาโรงไม้นายทุนจีน จ.หนองคาย มูลค่ากว่า 300 ล. ตรวจสอบย้อนหลังพบลักลอบขนส่งไม้หวงห้ามส่งออกไปต่างประเทศมาแล้วหลายปี ความเสียหายประมาณ 4,000 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 นายศรัณย์ศักดิ์ ศรีเครือเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายพัฒน์พงษ์ สมิตติพัฒน์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณี DSI ร่วมกับกรมอุทยานฯ ยึดไม้ลักลอบตัดจากเขตอุทยานแห่งชาติในโกดังโรงไม้นายทุนจีน จังหวัดหนองคาย มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการแจ้งเบาะแสว่ามีการลักลอบตัดไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติในเขตภาคเหนือ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้สั่งการให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรมทำการสืบสวนเป็นเลขสืบสวนที่ 114/2568 โดยเจ้าหน้าที่กองกิจการอำนวยความยุติธรรมได้สืบสวนร่วมกับ เจ้าหน้ากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พบว่ามีรถบรรทุกสิบล้อดำเนินการขนไม้เถื่อนผิดกฎหมายจากการลักลอบตัดจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในจังหวัดเชียงใหม่ แพร่ ลำปาง และจังหวัดอื่น ๆ ทางภาคเหนือ ส่งเข้ามายังโกดังของบริษัท เอสซี เจริญทรัพย์ 789 จำกัด และบริษัท ล็อควู้ด จำกัด ตำบลโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ซึ่งทั้งสองบริษัทตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน โดยเมื่อรถบรรทุกขนส่งไม้ดังกล่าวมาถึงจะทำการแปรรูปไม้โดยทันที และออกเอกสารที่เกี่ยวข้องในการเคลื่อนย้ายไม้ และส่งออกไม้ดังกล่าวไปยังต่างประเทศ โดยมีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เข้ามารับไม้ยังภายในโกดังและนำส่งต่อไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และไม้บางส่วนจะถูกขนส่งต่อไปยังโกดังในจังหวัดฉะเชิงเทรา
เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำโดย นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย และเจ้าหน้าตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 นำหมายค้นของศาลจังหวัดหนองคายเลขที่ ค193/2568 และเลขที่ ค194/2568 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2568 เข้าทำการตรวจค้นโกดังของทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว โดยจากการตรวจค้นบริษัท ล็อควู้ด จำกัด พบ นางสาวกัญญาณัฐ และนายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล) ทั้งสองคนเป็นคนบริหารจัดการภายในบริษัท ดำเนินกิจการรับซื้อแปรรูปไม้และส่งออกมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 1 ปี อยู่ระหว่างขออนุญาตโรงงานแปรรูปไม้ด้วยแรงคน และจากการตรวจค้นบริษัท เอสซี เจริญทรัพย์ 789 จำกัด พบนาย WU JIAXIN อายุ 21 ปี สัญชาติจีน ชาวเวียดนาม จำนวน 2 คน และชาวลาว จำนวน 8 คน มีนายอู้ อู่เผิง เป็นเจ้าของโกดังและเป็นคนดำเนินงานภายในโกดังทั้งหมด โดยบริษัท ล็อควู้ด จำกัด เป็นผู้จัดทำเอกสารและดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกให้ นอกจากนี้คณะพนักงานสืบสวนฯ ได้บูรณาการร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ทำการสกัดจับรถยนต์บรรทุกหัวลากพร้อม ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นไม้ที่เคลื่อนย้ายออกจากโกดังของบริษัทฯ ดังกล่าวในคืนวันที่ 12 ธันวาคม 2568 จากการเปิดตู้พบไม้ประดู่แปรรูปจำนวนมาก จึงได้ทำการควบคุมผู้ขับขี่และรถนำกลับมาที่โกดัง
จากการตรวจนับและจัดทำรายละเอียดบัญชีไม้ของกลาง พบว่ามีไม้จำนวนประมาณ 350 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท และจากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่ากลุ่มขบวนการที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีการลักลอบนำไม้หวงห้ามส่งออกไปยังต่างประเทศมาก่อนหน้านี้แล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 4,000 ล้านบาท
รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีนโยบายในการปราบปรามคดีความผิดที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาการลักลอบตัดไม้ บุกรุกทำลายแพ้วถางป่าทั้งในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ หรือที่ดินของรัฐ ดังนั้น หากประชาชนพบเห็นการลักลอบตัดไม้ บุกรุกทำลายป่าสามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าวได้ที่กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th หรือ สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ)

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา