
ตร.รวบ 'นานา ไรบีนา'-เตรียมส่งฝากขัง เผยหลักฐานชัด ปลอมเอกสารโอนหุ้น-สลิปโอนเงิน กุเรื่องลงทุนธุรกิจทิพย์ หลอกเงินเหยื่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ปอศ. คุมตัว นางสาวนานา ไรบีนา หรือ ไรบีนา อินทชัย ดารานักแสดงชื่อดัง ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาฉ้อโกง และพรก.การกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประขาชน เดินทางมาถึงยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อทำการสอบปากคำ ภายหลังสามารถจับกุมตัวได้ที่ บ้านพักย่านพระโขนง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่เจ้าหน้าที่คุมตัว นางสาวนานา ลงจากรถ ก่อนพาเดินเข้าไปยังภายในอาคารพิทักษ์สันตินั้น เผยให้เห็นภาพเจ้าตัวที่อยู่ในอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด และเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามต่อสื่อมวลชน ก่อนจะรีบเดินเข้าไปภายในตัวอาคาร โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันแน่นหนา
ต่อมานายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนางสาวนานา เปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังเมื่อช่วงเช้าของวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. เข้าจับกุมตามหมายจับข้อหาฉ้อโกง และพ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประขาชนว่า เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และหลังจากนี้จะควบคุมตัวมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อลงบันทึกจับกุม และสอบปากคำ และฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้ โดยเบื้องต้นตนได้เตรียมหลักทรัพย์ 5 แสนบาท เพื่อไปยื่นต่อศาลใช้ประกันตัวส่วนนานาจากการพูดคุย ยังคงมีความกังวล "เรื่องลูก เรื่องประกันตัว เรื่องงาน ตามประสาคนที่ไม่เคยถูกดำเนินคดี"
ส่วนรายละเอียดว่ามีผู้เสียหายกี่คนเป็นดาราหรือไม่ และมูลค่าความเสียหายเท่าไหร่ ตนเองยังไม่แน่ใจ ต้องรอให้ตำรวจ แจ้งข้อหาและรายละเอียดพฤติการณ์ก่อน อย่างไรก็ตามจากพฤติการณ์เบื้องต้น เป็นลักษณะของการ ขอกู้ยืมเงินจากบุคคลหลายบุคคลโดยสัญญาจะให้ดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่สุดท้ายกลับให้ดอกเบี้ยไม่ได้ตามที่ตกลง โดยลักษณะคดีจากต่างจากคดี The Icon ที่เป็นการร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และต่างจากคดีแชร์ลูกโซ่
อย่างไรก็ตามตนตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ได้พาตัวนานา รอมอบตัวมารอมอบตัวที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อแสดงเจตนา ว่าพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. กลับบ่ายเบี่ยง ไม่รับมอบตัว หรือดำเนินการอะไรทั้งนั้น ก่อนที่วันรุ่งขึ้น 2 ธันวาคม ตำรวจได้ออกหมายจับและมีการบุกเข้าจับกุมในวันนี้ ซึ่ง"ตนเองก็ไม่รู้ว่า เป็นการทำผลงานของตำรวจหรือไม่" เพราะการออกหมายจับ แสดงว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี แต่นานาไปรอมอบตัวตั้งแต่ก่อนหมายจับจะออก ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกหมายจับ มันเสียเวลาราชการ กับการต้องนำกำลังพลกว่า 10 คนไปบุกจับกุม
เตรียมส่งฝากขัง นานา ไรบีนา เผยหลักฐานชัดมัดตัวดิ้นไม่หลุด ปลอมเอกสารโอนหุ้น สลิปโอนเงิน กุเรื่องลงทุนธุรกิจทิพย์หลอกเงินเหยื่อ ธุรกิจจริงมีเพียงร้านตัดผม ตำรวจเตรียมขยายผลต่อเนื่องเชื่อมีผู้ร่วมขบวนการ ขณะที่ เวย์ ไทเทเนียม ล่องหนหายตัวออกจากบ้าน 3 วัน ปล่อยเมียรักถูกจับเพียงลำพัง
ต่อมาเวลา 16.23 น. เจ้าหน้าที่ขุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ปอศ. คุมตัว นางสาวนานา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 7195/2568 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ฐานความผิด “ฉ้อโกงทรัพย์ และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”ลงมาจากอาคารพิทักษ์สันติ ขึ้นรถตู้สีเทา เพื่อนำตัวมาฝากขังที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา บริเวณอาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นอาคารตึกหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาได้นำตัวนานาขึ้นรถตู้ไปอย่างรวดเร็วโดยทันที โดยไม่ได้เปิดเผยอะไรกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด ขณะเดียวเจ้าหน้าที่สิบเวรหน้าห้องขัง ได้นำข้าวกล่องเป็นกะเพราหมู มาให้กับเจ้าตัวรับประทานเป็นมื้อแรกที่รับประทานในห้องขัง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้าตัวจะถูกคุมขังในคืนนี้ ก่อนจะถูกนำตังส่งฝากขังยังศาลอาญาในวันพรุ่งนี้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำ นางสาวนานา จนถึงตอนนี้เจ้าตัวยังคงยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากคำให้การหลายส่วนยังมีความขัดแย้งกับพยานหลักฐานต่างๆที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ โดยเฉพาะ หลักฐานเกี่ยวกับเอกสาร สลิปการโอนเงิน เอกสารการโอนหุ้น รวมไปถึงเอกสารการทำธุรกิจต่างๆมากมายที่ถูกทำปลอมขึ้นมา ซึ่งเป็นหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้ในขณะเข้าตรวจค้นบ้านพักเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันจากแนงทางสืบสวนข้อมูลเชิงพฤติกรรมของเจ้าตัว เจ้าหน้าที่ยังพบว่า ในช่วงระยะหลังตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา นางสาวนานา เริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากติดนิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย รวมถึงทำธุรกิจขาดทุนหลายอย่าง จึงเริ่มออกอุบายชักชวนเพื่อน หรือ คนที่อยู่รอบตัวให้นำเงินมาร่วมลงทุนธุรกิจต่างๆ โดยการอ้างชื่อนักธุรกิจหรือ บุคคลต่างๆ ที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ในความเป็นจริงธุรกิจตามที่กล่าวอ้างขึ้นมานั้นไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงแค่การกุเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกลวงเงินจากกลุ่มผู้เสียหาย เช่นเดียวกับเอกสารการโอนหุ้น หรือ สลิปการโอนเงินลงทุนต่างๆก็เป็นเอกสารที่ถูกทำปลอมขึ้นมาเพื่อไว้แสดงให้เหยื่อหลงเชื่อว่ามีการทำธุรกิจอยู่จริง
สอดคล้องกับผลการตรวจสอบเส้นทางการเงินและการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของ นางสาวนานา ย้อนหลัง ที่พบว่าธุกรกิจเดียวที่มีอยู่จริงของเจ้าตัวและครอบครัว คือ ธุรกิจร้านตัดผมชื่อดัง ที่ทำร่วมกับนายปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ ไทเทเนี่ยม ศิลปินนักร้องชื่อดังผู้เป็นสามี และ เป็นแหล่งรายได้เพียงแหล่งเดียว ส่วนเงินต่างๆส่วนที่เหลือที่เข้ามาในระบบนั้นส่วนใหญ่เป็นเงินที่มาจากการหลอกลวงกลุ่มผู้เสียหาย
อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังพบว่า นางสาวนานา เคยหลอกขายหุ้นทิพย์ธุรกิจร้านตัดผมให้กับคนรู้จักรายหนึ่ง โดยมีการปลอมเอกสารการโอนหุ้นขึ้นมาเพื่อหลอกให้ผู้เสียหายตายใจว่ามีการโอนหุ้นให้จริง ก่อนที่ต่อมาเจ้าตัวจะมาทราบในภายหลังว่าแท้จริงแล้ว นางสาวนานา ไม่ได้โอนหุ้นให้ตามที่ตกลงกันไว้ และ เอกสารที่นำมาแสดงนั้นก็เป็นเอกสารปลอม
อย่างไรก็ตามจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่า นางสาวนานา กระทำการทุกอย่างเพียงคนเดียว เชื่อว่ายังมีบุคคลอื่นที่เป็นคนใกล้ตัว หรือ คนใกล้ชิด รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าวร่วมด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขยายผลดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องคนอื่นๆเพิ่มเติมต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัว นางสาวนานา พร้อมตรวจค้นบ้านพักเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เบื้องต้นไม่พบตัว นายปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ ไทเทเนี่ยม สามี อยู่ในบ้านแต่อย่างใด อีกทั้งจากแนวทางสืบสวนยังพบว่า เวย์ ไทเทเนี่ยม ไม่ได้กลับมาที่บ้านพักก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 3 วัน และในวันนี้ก็ยังไม่มีผู้พบเห็น เวย์ไทเทเนี่ยม เดินทางมาเยี่ยมหรือให้กำลังใจภรรยาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่อย่างใด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา