
"...การดำเนินการตามระบบที่ว่ามานี้ รวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินสดจำนวนมหาศาลผ่านเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวระหว่างกัมพูชาและกรุงเทพฯ โดยไม่มีการตรวจสอบ จะทำให้เครือข่ายนี้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะได้รับประโยชน์จากแผนการนักการเมืองใหญ่ในไทย ..."
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ ‘เบน สมิธ’ ซึ่งถูกระบุชื่อในบทความของ นายทอม ไรต์ สื่อมวลชนอิสระ อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นัล (WSJ) และหนึ่งในผู้สื่อข่าวที่เปิดโปงการทุจริต เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาของรัฐ “1 มาเลเซีย ดีเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด" (1MDB) ที่เผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ Whalehunting.projectbrazen.com
โดยพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ 5 ประการที่สำคัญด้วยกัน ได้แก่
1.นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ ถูกกล่าวอ้างว่า เป็นนายหน้าขายเครื่องบินส่วนตัวให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองในประเทศไทย และนายยิม เลียก ประธานกลุ่มบริษัท B.I.C. ของกัมพูชา ซึ่งพันธมิตรของ นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่า นายเบนจามิน เป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจคนสำคัญให้กับนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลในประเทศไทย คือ นายทักษิณ ชินวัตร โดยนายเบนจามิน จะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ และการตัดสินใจในหลายเรื่องต้องผ่านความเห็นของ นายเบนจามิน อีกด้วย
2. ในช่วงปลายปี 2567-ต้นปี 2568 นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือในชื่อ นายสมิธ เบน ถือสัญชาติกัมพูชา ตามเอกสารหนังสือเดินทางกัมพูชา เลขที่ AAoooXXXX ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ได้ยื่นเรื่องขอสละสัญชาติกัมพูชา เพื่อแปลงสัญชาติเป็นไทย แต่ไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ในช่วงวันที่ 22-27 ต.ค.2567 นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ และภรรยา คือ นางสาวแคทรียา บีเวอร์ ถูกระบุชื่อเป็นประธานเจ้าภาพงานทอดกฐินสามัคคี วัดดงช้างดี ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ โดยในงานทอดกฐินสามัคคีของวัดดงช้างดีนั้น ปรากฏชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานพรรคกล้าธรรม เป็น ‘ประธานอุปถัมภ์’
3. ในช่วงเดือน พ.ค. 2567 นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ พร้อมกับ นายยิม เลียก ประธานกรรมการธนาคาร B.I.C ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่จัดตั้งและจดทะเบียนกับธนาคารแห่งชาติกัมพูชา มีบุคคลสำคัญในประเทศไทย เข้าไปร่วมนั่งเป็นบอร์ดบริหาร
4.ในช่วงปี 2547 สื่อของประเทศอังกฤษได้รายงานข่าวกรณีหลอกขายหุ้นระดับโลกของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งรายงานข่าวชิ้นดังกล่าว มีการระบุข้อมูลเชื่อมโยงไปถึง นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ รวมไปถึงข้อมูลบริษัท Brinton Group ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ชื่อดังในกรุงเทพฯ ช่วงปี 2544 ก่อนที่นายเบนจามิน จะเข้าไปมีบทบาทในกัมพูชาตั้งแต่ปี 2557 และเดินทางมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยและยื่นเรื่องขอสละสัญชาติกัมพูชา ในช่วงต้นปี 2567 แต่ไม่ได้รับอนุญาต
และ5. นางสาวแคทรียา ภรรยา นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 2 แห่ง ประกอบด้วย 1.บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 10 ของ BCP จำนวน16,843,300 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.22% มีมูลค่าหุ้นล่าสุด (30 ส.ค.2568) 543.19 ล้านบาท และ2. ถือบริษัท กรีนเทค เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ GTV จำนวน 535,936,733 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.88% มีมูลค่าหุ้นล่าสุด (30 ส.ค.2568) 42.87 ล้านบาท

ล่าสุดนายทอมไรต์ ได้เผยแพร่บทความชิ้นใหม่ เกี่ยวกับข้อมูลการทำธุรกิจของนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงบริษัทสกุลเงินดิจิทัล ที่มีการย้ายฐานมาเปิดตลาดซื้อขายที่ประเทศไทย
มีรายละเอียดดังนี้
เว็บไซต์ Brazen รายงานข่าวการสืบสวนบริษัทสกุลเงินดิจิทัล ที่ชื่อว่าบริษัท KuCoin ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงตระกูลนักการเมืองประเทศไทย ที่กำลังเคลื่อนย้ายเงินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกาต้องการที่จะหยุดยั้งเรื่องเหล่านี้
การสืบสวนของเว็บ Brazen เผยให้เห็นว่าเครือข่ายนี้ได้รับการคุ้มครองโดยนักการเมืองใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเครือข่ายนี้เชื่อมโยงกับบริษัทสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโทเคอเรนซีอย่าง KuCoin ที่ถูกฟ้องร้องในข้อหาละเลยการบังคับใช้กฎหมายป้องกันการฟอกเงินที่สหรัฐอเมริกา
โดยเครือข่ายนี้ใช้การขุดบิตคอยน์ในลาว และแอบลงทุนหุ้นจำนวนมากในบริษัทหลักทรัพย์ของไทย เพื่อโอนเงินผิดกฎหมายจำนวนมหาศาลจากกัมพูชา ซึ่งมีเหยื่อชาวอเมริกันสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เว็บ Brazen รายงานโดยอ้างว่าเครือข่ายเงินสกปรกของกัมพูชาที่ได้รับการปกป้องโดยนักการเมืองใหญ่ในประเทศไทย ได้สร้างเครือข่ายคริปโทฯที่ลึกซึ้งเพื่อเคลื่อนย้ายเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงการเป็นเจ้าของธุรกิจขุดบิตคอยน์ในลาวและยังเชื่อมโยงกับบริษัทคริปโทฯที่มีประวัติเสื่อมเสียอย่าง KuCoin
สำหรับบริษัท KuCoin ถูกก่อตั้งขึ้นโดยชาวจีนสองคน อย่างไรก็ตามบริษัทนี้ถูกศาลแขวงนิวยอร์กทางตอนใต้มีคำพิพากษาเมื่อปี 2567 ว่าล้มเหลวในการบังคับใช้มาตรการป้องกันการฟอกเงิน และได้รับเงินที่น่าสงสัยและผิดกฎหมายคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (158,705,000,000 บาท)
นิติบุคคลดังกล่าวให้การรับสารภาพและยินยอมจ่ายเงินค่าปรับและถูกริบทรัพย์สินเป็นมูลค่ากว่า 297 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (8,157,178,997 บาท)
สำหรับ KuCoin มีผู้ก่อตั้งได้แก่นาย ชุนกันและเคอถัง (Chun Gan และ Ke Tang) ทั้งสองได้ทำข้อตกลงเลื่อนการดำเนินคดีออกไปเป็นเวลา 2 ปี และตกลงที่จะให้ริบเงินเป็นรายบุคคล รายละประมาณ 2.7 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ (85,684,500 บาท) และถูกห้ามไม่ให้มีบทบาทใดๆ ในการบริหารหรือการดำเนินงานของ KuCoin

KuCoin จึงย้ายไปดำเนินกิจการที่ประเทศไทยแทน ซึ่งในเดือน มิ.ย. บริษัทได้ประกาศเปิดตัวตลาดแลกเปลี่ยนคริปโทฯในไทย
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ แห่งนี้ ถูกระบุว่า มีความเชื่อมโยงกับ เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ บุคคลสำคัญชาวแอฟริกาใต้ ซึ่ง Brazen กล่าวอ้างว่า เป็นผู้ซื้อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวยี่ห้อ Bombardier Global G7500 มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1,904,220,000 บาท) ให้กับนายทักษิณ และดูแลเครือข่ายการโอนเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากกัมพูชา
KuCoin ได้เข้าควบคุม 45% ของบริษัท Finansia X PCL ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ของไทยอย่างลับ ๆ ผ่านบริษัทหน้าฉากในฮ่องกง สิงคโปร์ และเซเชลส์ ทำให้บริษัทคริปโทฯแห่งนี้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ตามเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยข้อมูลที่ว่านี้มาจากเอกสารของบริษัท และจากแหล่งข่าวอีก 2 รายที่ทราบเกี่ยวกับการจัดการดังกล่าว
บริษัท KuCoin ได้เข้าไปถือครองสัดส่วนการบริหารในบริษัท Finansia X PCL ผ่านการซื้อหุ้นจากภรยาของนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ ผ่านการซื้อจาก BIC Bank (หุ้นส่วนลับในกัมพูชาของนายเมาเออร์เบอร์เกอร์) และผ่านกองทุนที่บริหารโดย Capital Asia Investments ซึ่งเป็นองค์กรบังหน้าในสิงคโปร์ที่มีการกล่าวหาว่านายเมาเออร์เบอร์เกอร์ควบคุมองค์กรนี้อยู่
ยกตัวอย่างเช่นนายหลี่ ฮาน (Li Hang) ผู้บริหารของ KuCoin ยังเป็นซีอีโอของบริษัท Beteverse Ltd. ในเซเชลส์ เขาเพิ่งซื้อหุ้น 10% ในบริษัท Finansia จากน.ส.แคทรียา บีเวอร์ ภรรยาของนายเมาเออร์เบอร์เกอร์
ด้วยการสร้างหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์ของไทยอย่างลับๆ ผู้สนับสนุนของ KuCoin และนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ในกัมพูชาสามารถโอนเงินจำนวนมหาศาลระหว่างภาคธนาคารแบบดั้งเดิมและสกุลเงินดิจิทัลได้โดยไม่ต้องมีการกำกับดูแล โดยข้อมูลนี้มาจากแหล่งข่าวที่ทราบเรื่องการทำธุรกรรมดังกล่าว
“พวกเขากำลังสร้างอาณาจักรบางอย่าง” แหล่งข่าวกล่าว

นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์
นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ ถูกเฝ้าจับตาจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ มานานแล้ว แต่เขาระมัดระวังที่จะไม่เข้าไปในประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐฯ โดยมักจะเดินทางไปแค่ประเทศไทย กัมพูชา และดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โดยสหรัฐอเมริกามีความต้องการอย่างยิ่ง ที่จะเห็นเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตามคำกล่าวของผู้ที่เกี่ยวข้องกับความพยายามบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่ต้องการให้ไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรในภูมิภาค กลายเป็นบริวารของจีนเช่นเดียวกับกัมพูชา
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การหลอกลวงในกัมพูชาทำให้ชาวอเมริกันสูญเสียเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (317,280,022,000 บาท)ในปีที่แล้ว ขณะสหรัฐฯ ประกาศมาตรการลงโทษเครือข่ายศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา
ในขณะเดียวกัน นายเมาเออร์เบอร์เกอร์และยิม เลียก ผู้อุปถัมภ์หลักของเขา ซึ่งน้องสาวของนายยิมแต่งงานกับบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ปรากฎข้อมูลว่านายยิมเป็นเจ้าของธุรกิจขุดคริปโทฯในลาว ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางให้สามารถเคลื่อนย้ายเงินทุนได้
บริษัทขุดบิตคอยน์ในลาวแห่งนี้เป็นกิจการร่วมค้าระหว่างบริษัทกรีนเทคเวนเจอร์ส บริษัทไทยที่เชื่อมโยงกับนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ผ่านการถือหุ้นของภรรยาเขา และบริษัทเอไอเอฟ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติลาวที่เป็นผู้ถือหุ้น ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง BIC Bank ของนายยิม เลียกในกัมพูชา
บริษัทร่วมทุนขุดบิตคอยน์ทีว่านี้ อนุญาตให้นำคริปโทฯที่มาจากการแหล่งหนึ่ง มาทำให้ดูเหมือนว่าเพิ่งถูก "ขุด" ขึ้นมาใหม่ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องบล็อกเชนที่เปิดให้สาธารณชนเข้าถึงได้ จากนั้นเงินจะถูกโอนไปยังระบบแลกเปลี่ยนของ KuCoin ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่ระบบธนาคาร
การดำเนินการตามระบบที่ว่ามานี้ รวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินสดจำนวนมหาศาลผ่านเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวระหว่างกัมพูชาและกรุงเทพฯ โดยไม่มีการตรวจสอบ จะทำให้เครือข่ายนี้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะได้รับประโยชน์จากแผนการนักการเมืองใหญ่ในไทย
นับตั้งแต่ Whale Hunting เริ่มรายงานข่าวเกี่ยวกับเครือข่ายนี้ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และไทย ได้เพิ่มการตรวจสอบหน่วยงานต่างๆ ของเครือข่ายนี้มากขึ้น ในสหรัฐอเมริกา ทางการกำลังสืบสวนอพาร์ตเมนต์มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (634,500,000 บาท) ในนิวยอร์กที่ น.ส.แคทรียา บีเวอร์ได้ซื้อไป และตรวจสอบทรัพย์สินอื่นๆ ที่ น.ส.แคทรียาและนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ได้ควบคุมอยู่ รวมถึงเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว Gulfstream G650

อพาร์ทเม้นที่นิวยอร์กของ น.ส.แคทรียา เมาเออร์เบอร์เกอร์
ขณะที่ธนาคารกลางสิงคโปร์กำลังตรวจสอบกระแสเงินที่ไหลผ่านประเทศสิงคโปร์ โดยสำนักข่าว Business Times สื่อท้องถิ่น รายงานในสัปดาห์นี้ว่า บริษัท Capital Asia Investments ผู้จัดการกองทุนในสิงคโปร์ที่นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ควบคุมอยู่ ได้ซื้อขายหุ้นไทยมูลค่า 658 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (20,876,366,000 บาท)ซึ่งบางส่วนเชื่อมโยงกับนายยิม เลียก

เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Gulfstream G650 ถูกควบคุมโดยนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ และถูกใช้งานโดยนายยิม เลียก
ที่ประเทศไทย นักการเมืองใหญ่ ได้อาศัยนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ซื้อทรัพย์สินต่างๆ ให้ เช่น เครื่องบินเจ็ทบอมบาร์ดิเอร์ โกลบอล จี7500 และรถโรลส์-รอยซ์ และในทางกลับกันก็ให้ความคุ้มครองระดับสูงแก่เครือข่ายในกัมพูชา (รายชื่อรถยนต์ของเมาเออร์เบอร์เกอร์บางส่วนมาจากแหล่งเดียวได้แก่ รถโรลส์-รอยซ์ 4 คัน, ลัมโบร์กินี 1 คัน, เรนจ์โรเวอร์ 1 คัน, ปอร์เช 2 คัน, เล็กซัส 3 คัน, โตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์ และอัลพาร์ดหลายคัน)
รวมถึงมีรายงานว่าเครือข่ายกัมพูชาได้ซื้อหุ้นบางจาก บริษัทพลังงานของไทยอย่างลับๆ ที่จะได้รับประโยชน์จากการผลักดันของนักการเมืองใหญ่ในไทย ในการเปิดการสำรวจน้ำมันร่วมกับกัมพูชาในอ่าวไทย
อ่านประกอบ :
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉฮุน เซน เซ็น ทิ้งทวนนายกฯยกอุทยานเฉียดพันเฮกตาร์ให้ลูกคนใกล้ชิดบริหาร
- นักข่าวดังสหรัฐฯ อ้างข้อมูล 'ทักษิณ' ใช้นายหน้าแอฟริกาใต้เครือข่ายฮุนเซน ซื้อเจ็ทส่วนตัว
- แกะรอย 'เบนจามิน' นายหน้าปริศนาขายเครื่องบินส่วนตัว ให้ 'ทักษิณ-เครือข่ายฮุนเซน' ?
- 'เบนจามิน' ยื่นสละสัญชาติกัมพูชา แปลงเป็นไทย ยุค 'อนุทิน' นั่งมท.1 แต่ไม่ได้เซ็นให้
- เปิดรายงานลับ สน.บท.กรณี 'เบนจามิน'ยื่นสละสัญชาติกัมพูชา-ปริศนาที่ปรึกษาธุรกิจ ทักษิณ?
- เจาะลึก! เส้นทาง 'เบนจามิน' ยื่นสละสัญชาติกัมพูชาแปลงเป็นไทย 'บิ๊กตลท.' ให้ถ้อยคำรับรอง
- 'อนุทิน' ยันไม่ได้เซ็นอนุมัติแปลงสัญชาติ 'เบนจามิน' ตีตกชั้นปค.-อย่าโยงขัดแย้ง 'ทักษิณ'
- เปิดข้อมูล บ.ที่ทำงาน 'เบนจามิน' ไฮโซแฟนลูกนักการเมืองกัมพูชาถือหุ้น ก่อนขอแปลงสัญชาติ
- ขุดประวัติ 'เบนจามิน' กุนซือฮุนเซน โยง 'ยิม เลียก'-ที่ปรึกษารมว.คลังไทยนั่งบอร์ด ธ.กัมพูชา
- เปิดแฟ้มข่าวสื่ออังกฤษ 21 ปีก่อน! คดีหลอกขายหุ้นระดับโลก โยง 'เบนจามิน' กุนซือฮุน เซน
- โลกกลม! ข้อมูลใหม่ 'เบนจามิน' ปธ.เจ้าภาพกฐินฯ ร่วม 'ธรรมนัส' เปลี่ยนชื่อ-สกุลไทยแล้ว
- เปิดตัว‘แคทรียา บีเวอร์‘ ภรรยา 'เบนจามิน'กุนซือฮุน เซน 1 ในผู้ถือหุ้นใหญ่ บ.น้ำมันบางจาก
- บทวิเคราะห์สื่อสหรัฐ: 'เบนจามิน' โยง 'ทักษิณ' ทุนการเมืองฮุบหุ้นบางจาก ต้นตอขัดแย้งเขมร?
- ส่องความมั่งคั่ง 6 พันล.! 'ยิม เลียก'บิ๊กนักธุรกิจกัมพูชา-กุนซือฮุน เซน คู่ 'เบนจามิน'
- อดีตผู้สื่อข่าว WSJ ฉายภาพชัด 'ทักษิณ-เบนจามิน' โยงกลุ่มทุนกัมพูชา - ฮุบบางจาก?
- เปิดโปงความมั่งคั่ง4หมื่นล.เบนจามิน! โยงอีลิตเขมรฮุบบางจาก?'ทักษิณ-สารัชถ์' มิตรสู่ศัตรู
- สื่อสิงคโปร์ เปิดตัวบ.CAI ช่องทาง 'เบนจามิน-ยิม เลียก' เข้าฮุบหุ้นบางจาก-โยง 'วรภัค'?
- เปิดภาพลับ! ยืนยันสัมพันธ์ลึก 'เบนจามิน-ธรรมนัส' รู้จักกัน-'นฤมล' ร่วมวงสนทนาด้วย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา