เปิดแฟ้มข่าวสื่ออังกฤษ 21 ปีก่อน! คดีหลอกขายหุ้นระดับโลก โยง 'เบนจามิน' กุนซือฮุน เซน

เขียนวันที่

วันศุกร์ ที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 12:42 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

3224 views

Benjatttsdddddd

"...สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นิวซีแลนด์เรียกตัวนายเมาเออร์เบอร์เกอร์มาตอบคำถามเกี่ยวกับบริษัทMauer-Swisse และบริษัท THE Bergers Securities นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ได้หลบหนีออกจากนิวซีแลนด์ ส่งผลทำให้เขาถูกปรับคิดเป็นเงินมากกว่า 11,000 NZD เนื่องจากข้อหาว่าไม่ปฏิบัติตามหมายเรียก..."

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือเบน สมิธ ซึ่งถูกระบุชื่อในบทความ นายทอม ไรต์ สื่อมวลชนอิสระ อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นัล (WSJ) และยังเป็นหนึ่งในผู้สื่อข่าวที่เปิดโปงการทุจริต เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาของรัฐ "1 มาเลเซีย ดีเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด" (1MDB) ที่เผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ Whalehunting.projectbrazen.com ว่า บุคคลนี้เป็นนายหน้าขายเครื่องบินส่วนตัวให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองในไทย และนายยิม เลียก ประธานกลุ่มบริษัท B.I.C ของกัมพูชาและพันธมิตรของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และยังมีกระแสข่าวว่าเขาเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจคนสำคัญของนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลในประเทศไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร คอยให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ หลายเรื่องต้องผ่านความเห็นของบุคคลคนนี้

ส่วนข้อมูลในกัมพูชา พบว่า ในช่วงเดือน พ.ค. 2567 นาย เบน สมิธ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ พร้อมกับ นายยิม เลียก ประธานกรรมการธนาคาร B.I.C ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่จัดตั้งและจดทะเบียนกับธนาคารแห่งชาติกัมพูชา มีบุคคลสำคัญในประเทศไทย เข้าไปร่วมนั่งเป็นบอร์ดบริหาร

Benjamintsasasasa9663

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลประวัตินายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ จากเว็บไซต์ www.thisismoney.co.uk ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวการเงินของอังกฤษ พบว่าเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2547 หรือเมื่อประมาณ 21 ปีที่ผ่านมา

ได้มีการรายงานข่าวกรณีหลอกขายหุ้นระดับโลกของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งมีการระบุข้อมูลเชื่อมโยงถึง นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ รวมไปถึงข้อมูลบริษัท Brinton Group ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ชื่อดังในกรุงเทพฯ ช่วงปี 2544 ด้วย

มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

นายโทนี่ แฮร์ริงตัน ผู้สื่อข่าวสืบสวนด้านการเงิน สำนักข่าวไฟแนนเชียลเมลล์ ของอังกฤษได้เขียนบทความตอบกลับผู้ที่เขียนจดหมายสอบถามข้อมูลถึงเขาเกี่ยวกับคำแนะนำการลงทุน

โดยตอนหนึ่งบุคคลชื่อย่อว่า T.S. สอบถามข้อมูลว่าตัวเองถูกบุคคลที่อ้างว่าเป็นโบรกเกอร์จากบริษัท NMG Financial ตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม โทรมาหาแบบไม่ทันตั้งตัว เพื่อเสนอขายหุ้นของบริษัท Atlantic Wine Agencies

โบรกเกอร์รายนี้ชื่อว่านายเจมส์ ลูคัส ได้เสนอขายหุ้นบริษัทต่ำกว่าราคาตลาดไปมาก ซึ่งนาย T.S. กล่าวว่าฟังจากข้อเสนอนั้นดูดีเกินจริง แต่ว่าตัวเขาไม่เคยได้ยินทั้งชื่อโบรกเกอร์หรือว่าหุ้นมาก่อนเลย

ด้านนายแฮร์ริงตันกล่าวถึงเรื่องนี้ว่าแท้จริงแล้วบริษัท NMG Financial Services ในอัมสเตอร์ดัมเป็นธุรกิจที่เน้นการขายแบบกดดันลูกค้าเป็นหลัก (boiler room*) ซึ่งหมายความว่าธุรกิจแบบนี้พนักงานขายจะใช้โทรศัพท์จำนวนมาก หลายเครื่องเพื่อโทรหาลูกค้าใหม่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลการลงทุนของเนเธอร์แลนด์แจ้งกับนายแฮร์ริงตันว่าไม่เคยได้ยินชื่อ NMG และไม่เคยได้ยินว่ามีการขอจัดตั้งบริษัทชื่อนี้แต่อย่างใด และยังมีข้อสงสัยว่าบริษัท NMG ตั้งอยู่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัมหรือไม่ โดยที่ตั้งที่แจ้งไว้ของบริษัทพบว่าอาคารขนาดใหญ่ที่มี 'สำนักงานสำเร็จรูป' และบริการรับสายตอบกลับอยู่แล้ว

นายแฮร์ริงตันกล่าวว่าเขาได้พยายามโทรไปหาพนักงานขายชื่อว่านายเจมส์ ลูคัส หรือใครก็ตามที่บอกว่าอยู่ที่บริษัท NMG Financial หลายครั้ง ก็ปรากฎว่ามีแต่การอ้างว่าบุคคลที่ต้องการติดต่อนั้นไม่อยู่ หรือไม่ก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ซึ่งนี้เป็นข้อบ่งชี้ว่าบุคคลที่ต้องการติดต่อไม่ได้อยู่ที่นั่นจริงๆ และข้อความถูกส่งต่อไปยังสำนักงาน boiler room แห่งอื่น

แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ก็มีการส่งข้อความอ้างว่ามาจากบริษัท NMG โดยระบุเนื้อหาว่า “คุณจะได้รับการติดต่อจากทนายของเรา เขียนสิ่งที่คุณต้องการมา”

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เล่ามาเบื้องต้นเป็นแค่เรื่องเล็กของสิ่งที่ใหญ่กว่ามาก โดยหุ้นของบริษัท Atlantic Wine นั้นพบว่ามีการเสนอขายแก่นักลงทุนชาวอังกฤษเป็นจำนวนมาก

โดยผู้ที่โทรมาเสนอขายก็คือธุรกิจแบบ boiler room หรือธุรกิจประเภทกดดันลูกค้า ซึ่งหนึ่งในบริษัท boiler room ดังกล่าวก็คือบริษัทอีกแห่งชื่อว่า Clifton Financial Services โดยตัวบริษัทอ้างว่ามีที่ทำการในเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมาในวันที่ 10 ก.ค.2547 สำนักงานบริการทางการเงินของอังกฤษหรือ FSA ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการติดต่อกับบริษัท Clifton Financial Services

cliftonnnn

เว็บไซต์โบรกเกอร์ระบุว่าบริษัท Clifton Financial Services นั้นเป็นโบรกเกอร์ที่มีความเสี่ยง

มีข้อมูลอีกว่าเว็บไซต์ของบริษัท Atlantic Wine, Clifton และ NMG จัดทำโดยบุคคลเดียวกัน ซึ่งอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย อีกทั้งบริษัทเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับบริษัท A-Street Capital ซึ่งเป็นบริษัทในชิคาโกที่เชื่อมโยงกับบริษัท Bergers Securities ของนิวซีแลนด์ และบริษัท Pacific Continental ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตในกรุงลอนดอน

ประมาณช่วงปลายเดือน ส.ค.2547 บริษัท Atlantic Wine ยอมรับต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯหรือ SEC ว่า

“ความสามารถในการดำเนินธุรกิจของเราให้ดำเนินต่อไปได้นั้นขึ้นอยู่กับการระดมทุนเพิ่มเติมจำนวนมาก เนื่องจากเราแทบไม่มีเงินทุนและไม่มีภาระผูกพันใดๆ ที่จะระดมทุนได้ เราจึงอาจใช้ทรัพยากรทางการเงินที่มีอยู่อย่างจำกัดจนหมดก่อนที่จะสามารถเริ่มดำเนินงานได้”

สำหรับโครงสร้างของบริษัท Atlantic Wine พบว่ามีนายอดัม เมาเออร์เบอร์เกอร์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท โดยมีพี่น้อง (ไม่ได้ระบุว่าพี่หรือน้องชาย)ชื่อนายเบน เมาเออร์เบอร์เกอร์

โดยนายเบน เมาเออร์เบอร์เกอร์เป็นผู้เล่นหลักในคดีอื้อฉาวหุ้น Bergers ในนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย

ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังนายอดัม เมาเออร์เบอร์เกอร์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนประธานบริษัท Atlantic ชื่อว่านายแฮร์รี่ ชอฮาน ก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกันว่าทำไมเว็บไซต์บริษัทเขาถึงถูกจัดตั้งโดยบุคคลเดียวกับที่ได้จัดตั้งธุรกิจ boiler room อีกอย่างน้อยสองแห่ง และเขาไม่สามารถบอกได้ว่า บริษัท boiler room เข้าซื้อหุ้นของ Atlantic Wine ได้อย่างไร

“ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย ผมสาบานได้และบอกคุณได้ว่าผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย” นายชอฮานกล่าว

มีรายงานว่าหุ้นของบริษัท Atlantic Wine ถูกระบุบนกระดานซื้อขายหลักทรัพย์ที่สหรัฐอเมริกาว่ามีความเสี่ยงสูง แต่นายชอฮานกล่าวปฏิเสธว่าหุ้นของ Atlantic Wine อาจตกไปอยู่ในภาวะวิกฤตผ่านบริษัทที่เกี่ยวกับ ที่อยู่ A-Street Capital

"เราไม่มีบันทึกใดๆ เกี่ยวกับบริษัทเหล่านี้ (Clifton และ NMG) เลย" นายชอฮานกล่าวและกล่าวต่อว่า"ผมไม่รู้ว่าพวกเขาได้หุ้นของเรามาได้อย่างไร ซึ่งเชื่อว่าหุ้นนั้นต้องมาจากผู้ถือหุ้นเดิมแน่นอน ผมคงต้องต้องตรวจสอบเรื่องนี้หน่อย มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นลับหลังผม”

นายชอฮานกล่าวต่อไปว่าบริษัท NMG Financial และ Clifton นั้นมีความอันตรายอย่างเห็นได้ชัด แต่ขอเสริมว่าธุรกิจเหล่านี้เป็นธุรกิจนอกชายฝั่ง ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทการเงินในสหราชอาณาจักรที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งมีชื่อคล้ายกัน

ส่วนสำนักงานบริการทางการเงินอังกฤษปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวของ Financial Mail

@ความเชื่อมโยงไปถึงนิวซีแลนด์และที่เกาะเจอร์ซี

เรื่องอื้อฉาวของบริษัทหลักทรัพย์ Bergers Securities เป็นที่พูดถึงกันในแวดวงนักลงทุนของเมืองโอ๊คแลนด์เมื่อปี 2546

โดยมีภาพพนักงานขายทางโทรศัพท์ในที่ทำงานในออฟฟิศหรูหรากำลังโทรหานักลงทุนที่มีศักยภาพ และโฆษณาหุ้นอเมริกันที่ไม่มีใครรู้จัก

บริษัทนี้บริหารงานโดยนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ และนายคลินตัน บรอด ชาวแอฟริกาใต้ ร่วมกับนายอลัน โกลด์แมน ญาติของเมาเออร์เบอร์เกอร์ ภายในไม่กี่สัปดาห์ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นิวซีแลนด์ ก็ได้เข้ามาจับตาบริษัทนี้

ก่อนหน้านี้ นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ และนายโกลด์แมน เคยดำเนินกิจการบริษัท boiler room ชื่อว่า Mauer-Swisse มาก่อน แต่บริษัทดังกล่าวระบุว่าล่มสลายลงในปี 2545 และนายโกลด์แมนถูกตัดสินว่ามีความผิดในออสเตรเลียฐานดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต

มีรายงานด้วยว่านายเมาเออร์เบอร์เกอร์นั้นเคยทำงานให้บริษัทอีกแห่งชื่อว่าบริษัท Brinton Group ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ชื่อดังในกรุงเทพฯ ที่ถูกตำรวจไทยปิดตัวลงในปี 2544

นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ยังเคยทำงานที่ Brinton Group ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ชื่อดังในกรุงเทพฯ ที่ถูกตำรวจไทยปิดตัวลงในปี 2544

เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นิวซีแลนด์เรียกตัวนายเมาเออร์เบอร์เกอร์มาตอบคำถามเกี่ยวกับบริษัทMauer-Swisse และบริษัท THE Bergers Securities นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ได้หลบหนีออกจากนิวซีแลนด์ ส่งผลทำให้เขาถูกปรับคิดเป็นเงินมากกว่า 11,000 ปอนด์ เนื่องจากข้อหาว่าไม่ปฏิบัติตามหมายเรียก

Berrgg

ข้อมูลจากนิวซีแลนด์ระบุว่าบริษัท THE Bergers Securities อยู่ในภาวะชำระบัญชี

ด้านนายบรอด หนีไปแอฟริกาใต้หลังจากถอนเงินจากบัญชีธนาคารของบริษัทไปกว่า 150,000 ปอนด์

ต่อมาเขาอ้างว่ากำลังหลบหนีจากแฟนหนุ่มนักเพาะกาย หลังจากถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ทั้งการใช้น้ำมันมะพร้าว การมัด และการทุบตี

เจ้าหน้าที่สืบสวนในเมืองโอ๊คแลนด์ยังพบกล้องไลฟ์สด ซึ่งเชื่อว่านายเมาเออร์เบอร์เกอร์ใช้ติดตามธุรกิจจากกรุงลอนดอน เจ้าหน้าที่สืบสวนเชื่อว่าบริษัทเบอร์เกอร์ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการชำระบัญชี (ข้อมูลปี 2547)ได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทเอ-สตรีท แคปิตอล แห่งชิคาโก ซึ่งแบ่งหุ้นระหว่างนายหน้า

เจ้าหน้าที่อ้างว่าผู้ให้เงินทุนแก่ Bergers คือนายเจฟฟรีย์ รีด ชาวออสเตรเลีย ซึ่งดำเนินกิจการผ่านบริษัทลึกลับและบัญชีธนาคารในเจอร์ซีย์

สำนักข่าวไฟแนนเชียลเมลล์ได้ติดต่อถามนายแฮร์รี ชอฮาน ผู้บริหารของ Atlantic Wine ว่ารู้จักรีดหรือไม่ เขาตอบว่า "ผมเคยได้ยินชื่อนี้ครับ"

เมื่ถามต่อว่านายรีดมีส่วนได้ส่วนเสียใน Atlantic Wine หรือไม่? นายชอฮานกล่าวแค่เพียงว่า "ผมให้ความเห็นไม่ได้ ลองปรึกษาทนายความของผมดู"

เรียบเรียงจาก:https://www.thisismoney.co.uk/money/news/article-1584615/Global-scam-in-Atlantic-Wine-shares.html

*หมายเหตุ:ชื่อ Boiler Rooms มักถูกใช้กับบริษัทที่ใช้บริการพื้นที่เช่าสำนักงานชั่วคราว โดยเน้นชักชวนการลงทุน ไปจนถึงบริษัทที่เป้นสแกมเมอร์ เน้นการหลอกลวงให้โอนเงินด้วยกลวิธีต่างๆ

ทั้งหมดนี่ เป็นข้อมูลสำคัญอีกส่วนหนึ่งของ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือเบน สมิธ ในช่วงปี 2544-2547 ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่นายเบนจามิน จะเข้าไปมีบทบาทในกัมพูชาตั้งแต่ปี 2557 ก่อนที่จะเดินทางมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยและยื่นเรื่องขอสละสัญชาติกัมพูชา ในช่วงต้นปี 67 แต่ไม่ได้รับอนุญาต ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

Benjamintsasasasa9663

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage