
"...ในการให้ปากคำดังกล่าว พยานจากแพทยสภา มีการระบุถึงข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการส่งตัวนายทักษิณ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจในภาพรวม ว่า อาการที่เรือนจำของนายทักษิณมีข้อบ่งชี้ว่าอาจเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ จึงสมควรส่งตัวมาตรวจที่ รพ.ตร. แต่เมื่อมาถึง รพ.ตร.กลับไม่ได้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจทันที และไม่ได้พบหมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจภายในคืนวันที่ 23 ส.ค. 2566 แต่ได้พบกับหมอโรคหัวใจในช่วงเช้าวันที่ 24 ส.ค. 2566 ซึ่งตามปกติผู้ป่วยอาการโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเมื่อถูกส่งตัวมารักษาต่อต้องได้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจภายในสิบนาที และต้องได้พบหมอโรคหัวใจโดยเร็ว..."
กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังผลการไต่สวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด 1 ปี จากโทษจำคุกจริง 8 ปี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ คดีติดคุกทิพย์ ในวันที่ 9 ก.ย.2568 นี้
ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว ในช่วงบ่ายวันที่ 8 ก.ย.2568 หลังจากนั่งเครื่องบินส่วนตัว เดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ช่วงค่ำวันที่ 4 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา
พร้อมประกาศว่า จะเข้ารับฟังผลการไต่สวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด ในวันที่ 9 ก.ย.2568 นี้ ด้วยตนเอง

เพื่อให้สาธารณชน รับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการไต่สวนตดีนี้ ของ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา สรุปข้อมูลการไต่สวนคดีนี้ ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.-31 ก.ค. 2568 จำนวน 7 นัด พยาน 31 ปาก มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบ ณ ที่นี้
โดยการไต่สวนแต่ละนัดเป็นการไต่สวนผู้เกี่ยวข้องกับการควบคุมตัวและดูแลอาการป่วยของนายทักษิณ ได้แก่ กลุ่มแพทย์และพยาบาลที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กลุ่มเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมตัวนายทักษิณจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไปโรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.) กลุ่มข้าราชการในราชทัณฑ์และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กลุ่มแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ตัวแทนจากแพทยสภา และพยานของนายทักษิณ
ภาพรวมในแต่ละนัดไต่สวน พบว่า ศาลฯมักจะถามเกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณทั้งในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯและในรพ.ตร. และรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการส่งตัวนายทักษิณและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ปรากฏรายละเอียด นับจากบรรทัดต่อไปนี้
@ นัดแรกไต่สวน ผบช.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และมีคำสั่งให้หมายเรียกพยานจำนวน 20 ปาก มาไต่สวนในวันที่ 4, 8, 15, 25 ก.ค. 2568 เวลา 9 นาฬิกา ทุกนัด
โดยประเด็นที่ศาลให้ความสนใจ คือ ประเด็นการส่งตัวนายทักษิณ (ขณะยังเป็นผู้ต้องขัง) ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ผ่านการส่งตัวไปยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ (รพ.ราชทัณฑ์) และให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครส่งเอกสารเพิ่มเติมภายใน 15 วัน ได้แก่ ประวัติการรักษาของนายทักษิณในต่างประเทศ และรายการเบิกจ่ายเงินค่าเวรเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมตัวนายทักษิณขณะอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ

@ นัดที่ 2 ไต่สวนแพทย์-พยาบาลเวรวันที่ 22 ส.ค. 2566
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยาน 5 ปาก ได้แก่
1.แพทย์หญิงรวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ตรวจร่างกายนายทักษิณตอนทำประวัติเข้าเรือนจำ (เป็น 1 ใน 3 แพทย์ที่คณะกรรมการแพทยสภา มีมติสั่งให้ลงโทษ โดยแพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ เป็นผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ รพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งโดนลงโทษตักเตือนเนื่องจากเขียนใบส่งตัวล่วงหน้า) ศาลไต่สวนประเด็นการเขียนใบส่งตัวล่วงหน้า พยาบาลเวรที่โทรศัพท์มาขออนุญาตใช้ใบส่งตัวที่แพทย์หญิงรวมทิพย์เขียน การอ้างอิงประวัติการรักษาตัวของนายทักษิณในต่างประเทศ อาการป่วยของนายทักษิณที่ตรวจตอนทำประวัติ และการให้คำแนะนำให้ส่งตัวนายทักษิณไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ
2.นายแพทย์นทพร ปิยะสิน แพทย์เวรกลางคืนวันที่ 22 ส.ค. 2566 ศาลไต่สวนในประเด็นการวินิจฉัยอาการป่วยของนายทักษิณในช่วงกลางคืนวันที่ 22 ส.ค. 2566 โดยที่ไม่ได้ตรวจนายทักษิณโดยตรง และการให้คำแนะนำส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
3.นายธัญพิสิษฐ์ ขบวน พยาบาลเวรกลางคืนวันที่ 22 ส.ค. 2566 ศาลไต่สวนในประเด็นที่นายธัญพิสิษฐ์เป็นผู้เสนอให้นายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยมุ่งเน้นในประเด็นที่นายธัญพิสิษฐ์ แจ้งว่าอาการป่วยของนายทักษิณเข้าขั้นวิกฤต แต่มีระยะเวลาที่ต้องรอดำเนินการในการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยายาลตำรวจถึง 2 ชั่วโมง แต่ไม่ให้แพทย์เวรกลางคืนมารักษานายทักษิณ และประเด็นรายละเอียดในการส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
4.นางสาวจิราพร มีนวลชื่น พยาบาลผู้ช่วยตรวจร่างกายนายทักษิณตอนทำประวัติเข้าเรือนจำ
5.นางสาวณิชามล มากจันทร์ พยาบาลผู้ช่วยตรวจร่างกายนายทักษิณตอนทำประวัติเข้าเรือนจำ
ในการนางสาวจิราพรและนางสาวณิชามล ศาลไม่ได้ซักถามมากเนื่องจากพยานทั้ง 2 ปาก ไม่ทราบอาการป่วยของนายทักษิณ
ทั้งนี้ในวันนี้ศาลขอความร่วมมือให้คู่ความและผู้เข้าฟังการพิจารณาคดีงดเว้นการเผยแพร่โฆษณาคำเบิกความพยานบุคคลและพยานเอกสารที่ศาลไต่สวน

@ นัดที่ 3 ไต่สวนพัสดี-จนท.ควบคุมตัว ‘ทักษิณ’
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยาน 9 ปาก ได้แก่
1.นายสัญญา วงค์หินกอง พัสดีเวรในวันที่ 22 ส.ค. 2568 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ศาลไต่สวนในประเด็นเหตุการณ์ในคืนวันที่ 22 ส.ค. 2568 ที่มีการส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวนอกเรือนจำ การไปดูอาการป่วยของนายทักษิณ และไต่สวนในประเด็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ
2.นายสมศักดิ์ บุดดีคำ ผู้ช่วยพัสดีและหัวหน้าเวรคนที่ 1 ในวันที่ 22 ส.ค. 2568 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ศาลไต่สวนในประเด็นการไปตรวจสอบอาการป่วยของนายทักษิณหลังได้รับแจ้งจากพยาบาลเวร การส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และระเบียบในการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ
ทั้งนี้ในการไต่สวนนายสมศักดิ์ ศาลต้องถามคำถามนายสมศักดิ์หลายครั้งและกล่าวย้ำให้นายสมศักดิ์ตอบให้ตรงคำถาม
3.นายจารวัฒน์ เมืองไทย นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ (เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณในคืนวันที่ 22 ส.ค. 2568 ไปส่งโรงพยาบาลตำรวจ)
4.นายธีระศักดิ์ คงหอม หัวหน้างานตรวจคน เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ (เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณในคืนวันที่ 22 ส.ค. 2568 ไปส่งโรงพยาบาลตำรวจ)
ศาลไต่สวนนายจารวัฒน์ และนายธีระศักดิ์ ในประเด็นเดียวกัน คือ รายละเอียดเหตุการณ์ในการพาตัวนายทักษิณตั้งแต่ลงจากชั้น 2 ห้องกักโรคในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จนกระทั่งขึ้นรถพยาบาลจากเรือนจำฯ ไปถึงโรงพยายาลตำรวจ รายละเอียดห้องพักชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ รายละเอียดของบุคคลที่มาเข้าเยี่ยมและรายละเอียดเกี่ยวกับถ่ายภาพนายทักษิณช่วงที่อยู่โรงพยาบาลตำรวจ
ทั้งนี้ในการไต่สวนนายจารวัฒน์ ศาลต้องกล่าวย้ำกับนายจารวัฒน์หลายครั้ง ให้นายจารวัฒน์ตอบให้ตรงคำถามเบิกความให้ชัดเจน โดยศาลใช้เวลาไต่สวนนายจารวัฒน์นานที่สุดซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ต่างจากพยานรายอื่นที่ไม่ได้ใช่เวลานานมาก
5.นายเทวรุทธ สุนทร นักอบรมฝึกวิชาชีพพิเศษ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ (เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณในคืนวันที่ 22 ส.ค. 2568 ไปส่งโรงพยาบาลตำรวจ) ศาลไต่สวนในประเด็นอาการของนายทักษิณที่นายเทวรุทธพบในช่วงที่รับตัวจากศาลฎีกาไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และรายละเอียดเหตุการณ์คืนวันที่ 22 ก.ค. 2568 ที่มีการส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่ที่เรือนจำฯไปจนถึงโรงพยาบาลตำรวจ
6.นายนพรัตน์ ไกรแสวง นักทัณฑวิทยาปฏิบัติการ (เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณช่วงอยู่โรงพยาบาลตำรวจ)
7.นายเจนวิทย์ เรือนคำ เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ (เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณช่วงอยู่โรงพยาบาลตำรวจ)
8.นายศิวพันธุ์ มูลกัน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณช่วงอยู่โรงพยาบาลตำรวจ
9.นายนิภัทร์ชล หินสุข เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณช่วงอยู่โรงพยาบาลตำรวจ
ศาลไต่สวนนายนพรัตน์ นายเจนวิทย์ นายศิวพันธุ์ นายนิภัทร์ชล ในประเด็นเดียวกัน คือ รายละเอียดของห้องพักชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ การทำหน้าที่ผู้ควบคุมนายทักษิณขณะรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ บุคคลที่มาเยี่ยมนายทักษิณ รายละเอียดการรับประทานอาหารและการอาบน้ำของนายทักษิณ การสังเกตอาการป่วยของนายทักษิณ รวมถึงความถี่และรายละเอียดในการเข้าตรวจรักษาอาการของนายทักษิณ

@ นัดที่ 4 ไต่สวนขรก.ราชทัณฑ์-แพทย์รพ.ราชทัณฑ์
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวน พยาน 6 ปาก ได้แก่
1.นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์
2.นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตัวแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์
3.นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์
4.นายนัสดี ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
5.นายแพทย์พงศ์ภัค อารียาภินันท์ แพทย์ชำนาญการพิเศษรักษาราชการผู้อำนวยการทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์
6.นายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
โดยการไต่สวนพยานครั้งนี้ ศาลฯ ห้ามไม่ให้ผู้เข้าร่วมรับฟังการไต่สวนจดบันทึกข้อมูล ซึ่งจากการรับฟังข้อมูลสามารถสรุปประเด็นที่ศาลฯ ซักถามพยาน ได้ดังนี้
- รายละเอียดเอกสารการขยายเวลารักษาตัวนอกเรือนจำของนายทักษิณจาก 30 วัน เป็น 60 วัน และเป็น 120 วัน
- นายทักษิณได้รับการพักโทษวันที่ 18 ก.พ. 2567 เป็นวันเดียวกับที่นายทักษิณออกจากโรงพยาบาลตำรวจ(รพ.ตร.)
- การเซ็นอนุญาตและขยายเวลาให้นายทักษิณรักษาตัวนอกเรือนจำ โดยที่ไม่ตรวจสอบอาการป่วยแต่เชื่อในเอกสารที่รพ.ตร.ส่งมา
- รพ.ตร.เสนอจัดห้องพักรักษาตัวให้นายทักษิณ
- การไม่บันทึกประวัตินายทักษิณที่หลบหนีคดีที่มีการตัดสินไปแล้วในช่วงปี 2551
- อาการป่วยวิกฤตของนายทักษิณในวันที่ 22 ส.ค. 2566
- การส่งตัวผู้ป่วยวิกฤตที่ต้องไปส่งที่ห้องฉุกเฉิน
- ขอความเห็นจากนายแพทย์พงศ์ภัคเกี่ยวกับบันทึกอาการป่วยนายทักษิณของพยาบาลเวร บันทึกของหมอรพ.ตร. บันทึกการใช้ยาประจำตัวของนายทักษิณที่แพทย์หญิงรวมทิพย์ สุภานันท์ บันทึกไว้ และสาเหตุเกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณในคืนวันที่ 22 ส.ค. 2566 อาจมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความเครียด การเดินทางไกล และการไม่ได้รับประทานยารักษาโรคประจำตัว
- การวินิจฉัยอาการป่วยของนายทักษิณในคืนวันที่ 22 ส.ค. 2566 ผ่านทางโทรศัพท์
ทั้งนี้ในการไต่สวนนายชาญ นายนัสดี และนายแพทย์วัฒน์ชัย ศาลกล่าวย้ำให้ตอบให้ตรงคำถาม
ส่วนนายสิทธิ ขอยื่นเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายเวลารักษาตัวนอกเรือนจำนายทักษิณของคณะกรรมการพิจารณาการรักษาตัวนอกเรือนจำแก่ศาล

@ นัดที่ 5 ไต่สวนแพทย์รพ.ตร.
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยาน 6 ปาก ได้แก่
1. พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ อดีตแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ (ในช่วงที่มีการรับตัวนายทักษิณจากราชทัณฑ์มารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ) ปัจจุบันเลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ศาลฯ ไต่สวนในประเด็น
- การจ่ายค่าใช้จ่ายในการพักรักษาตัวที่ รพ.ตร. โดยพล.ต.ท.โสภณรัชต์ระบุว่า นายทักษิณเป็นผู้รับผิดชอบ
- ระเบียบของราชทัณฑ์ที่ต้องให้โรงพยาบาลจัดห้องสำหรับผู้ต้องขัง แต่ รพ.ตร.ไม่ได้จัดห้องสำหรับผู้ต้องขังให้นายทักษิณ
- ศาลฯ เรียกเอกสาร 3 รายการ ได้แก่ รายชื่อผู้ป่วยที่เคยพักชั้น 14 รายชื่อผู้ต้องขังที่เคยพักชั้น 14 และ Doctor Order Sheet
นอกจากนี้ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ยังยอมรับต่อศาลฯ ว่าศูนย์รับส่งตัวผู้ป่วยเป็นคนตัดสินให้นายทักษิณไปรักษาตัวที่ชั้น 14
2. พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.) คนปัจจุบัน ศาลฯ ไต่สวนในประเด็น รายละเอียดการรักษาอาการป่วย การผ่าตัดเพื่อรักษาอาการป่วย และการใช้ยาเพื่อรักษาอาการป่วยของนายทักษิณในช่วงที่รักษาตัวที่รพ.ตร.
โดยพล.ต.ท.ทวีศิลป์ระบุว่านายทักษิณปฏิเสธการผ่าตัดรักษาอาการป่วยบริเวณหลัง (ไม่สามารถเปิดเผยอาการป่วยของนายทักษิณแบบละเอียดได้)
3. พันตำรวจเอกชนะ จงโชคดี แพทย์เวร รพ.ตร. ในคืนวันที่ 22 ส.ค. 2566
ศาลฯ ไต่สวนในประเด็น รายละเอียดอาการป่วยของนายทักษิณในช่วงที่มีการส่งตัวจากราชทัณฑ์มารพ.ตร. ช่วงที่มีการรักษาและหลังการรักษาในคืนวันที่ 23 ส.ค. 2566 และรายละเอียดอาการป่วยของนายทักษิณในช่วงที่รักษาตัวที่รพ.ตร.
นอกจากนี้พันตำรวจเอกชนะกล่าวกับศาลว่าเคยเห็นนายทักษิณไปนั่งที่โซฟาภายในห้องพัก ส่วนที่ได้เป็นแพทย์เจ้าของไข้นายทักษิณเพราะว่าเป็นแพทย์ที่รับไข้คนแรก
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ และพันตำรวจเอกชนะ ยอมรับต่อศาลว่าห้องพักชั้น 14 ที่นายทักษิณใช้รักษาตัวเป็นห้องพิเศษของรพ.ตร. ส่วนการไต่สวนบุคคลทั้ง 2 ข้างต้น ศาลฯ มุ่งเน้นในประเด็นอาการป่วยของนายทักษิณในช่วงที่อยู่รพ.ตร. มีอาการวิกฤตหรือฉุกเฉินหรือไม่ สามารถรักษาอาการป่วยแบบผู้ป่วยนอก (ไป-กลับ) ได้หรือไม่ ใครเป็นคนส่งตัวนายทักษิณไปที่ชั้น 14
4.พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ หนึ่งในคณะแพทย์รพ.ตร.ที่ทำการรักษาอาการป่วยนายทักษิณ (ผู้ช่วยผ่าตัดอาการป่วยบริเวณหัวไหล่)
5.พล.ต.ต.ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล หนึ่งในคณะแพทย์รพ.ตร.ที่ทำการรักษาอาการป่วยนายทักษิณ (แพทย์รักษาโรคบริเวณทรวงอก)
6.พล.ต.ต.สุรพล เกษประยูร หนึ่งในคณะแพทย์รพ.ตร.ที่ทำการรักษาอาการป่วยนายทักษิณ (ผู้ผ่าตัดอาการป่วยบริเวณมือและหัวไหล่)
โดยศาลไต่สวนพล.ต.ต.สามารถ พล.ต.ต.ศุภฤกษ์ และพล.ต.ต.สุรพล ในประเด็น
- รายละเอียดการผ่าตัดและอาการหลังผ่าตัดบริเวณหัวไหล่ของนายทักษิณ และการลงนามในใบความเห็นแพทย์ของพล.ต.ต.สามารถ ที่ถูกนำไปใช้ในการขอขยายเวลาในการรักษาตัวนอกเรือนจำ 120 วัน โดยพล.ต.ต.สามารถ ยืนยันว่าใบความเห็นแพทย์เป็นการใส่รายละเอียดการป่วยโดยทั่วไปของนายทักษิณตามจริงเท่านั้น และไม่ทราบว่าใบความเห็นแพทย์ดังกล่าวที่มีลายเซ็นตนเองนำไปใช้เพื่อการใด
- รายละเอียดการรักษาโรคบริเวณทรวงอกของนายทักษิณ และความจำเป็นในการพักรักษาตัวต่อที่รพ.ตร.
- รายละเอียดการผ่าตัด อาการหลังผ่าตัดบริเวณมือและหัวไหล่ของนายทักษิณ และระยะเวลาการรักษาแผลหลังผ่าตัด
อนึ่งสำหรับ พลตำรวจโท นายแพทย์โสภณรัชต์ สิงหจารุ (นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ) และ พลตำรวจโท นายแพทย์ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ เป็นแพทย์ 2 ราย ที่ถูกคณะกรรมการแพทยสภาสั่งลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม จากกรณีการรักษา นายทักษิณ ชินวัตร เป็นเวลา 3 เดือน / 6 เดือน ตามลำดับ
นอกจากนี้ศาลฯ อนุญาตให้จำเลยนำศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. วิษณุ เครืองาม เข้าไต่สวนในวันที่ 30 ก.ค. 2568

@ นัดที่ 6 ไต่สวนแพทยสภา
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยาน 3 ปาก ได้แก่
1.ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่หนึ่ง
2.ศ.นพ.ไชยรัตน์ เพิ่มพิกุล กรรมการแพทยสภา และประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
3.ศ.นพ. กีรติ เจริญชลวานิช กรรมการแพทยสภาและประธานราชวิทยาลัยแพทย์ออโธปิดิกส์แห่งประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการไต่สวนพยานทั้ง 3 ปาก สามารถสรุปประเด็นภาพรวมสำคัญได้ดังนี้
-ศาลฯ ซักถามรายละเอียดอาการป่วยและการรักษาอาการป่วยของนายทักษิณในต่างประเทศ
-พยานเห็นตรงกันว่า นายทักษิณ ไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
-ศาลฯ ซักถาม มาตรฐานการตรวจผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับหัวใจที่ถูกส่งตัวมาด้วยอาการวิกฤต มาตรฐานการออกใบรับรองแพทย์
-ศาลฯ ซักถาม รายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจร่างกายนายทักษิณในคืนวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ที่ไม่ได้มีการดำเนินการตรวจพิสูจน์อาการของโรคที่ต้องส่งนายทักษิณมารักษาตัวที่ รพ.ตร.
-ศาลฯ ซักถาม รายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าตัดอาการป่วยบริเวณมือของนายทักษิณ (นิ้วล็อก)
ทั้งนี้ ในการให้ปากคำดังกล่าว พยานจากแพทยสภา มีการระบุถึงข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการส่งตัวนายทักษิณ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจในภาพรวม ว่า อาการที่เรือนจำของนายทักษิณมีข้อบ่งชี้ว่าอาจเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ จึงสมควรส่งตัวมาตรวจที่ รพ.ตร. แต่เมื่อมาถึง รพ.ตร.กลับไม่ได้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจทันที และไม่ได้พบหมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจภายในคืนวันที่ 23 ส.ค. 2566 แต่ได้พบกับหมอโรคหัวใจในช่วงเช้าวันที่ 24 ส.ค. 2566 ซึ่งตามปกติผู้ป่วยอาการโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเมื่อถูกส่งตัวมารักษาต่อต้องได้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจภายในสิบนาที และต้องได้พบหมอโรคหัวใจโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่าในวันที่ 24 ส.ค. 2566 หลังจากที่หมอผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจตรวจอาการของนายทักษิณแล้วพบว่า อาการของนายทักษิณไม่ได้วิกฤต จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องพักรักษาตัวที่รพ.ตร.ต่อ

@ นัดที่ 7 ไต่สวน ‘วิษณุ เครืองาม’
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยาน 1 ปาก ได้แก่ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ช่วงที่นายทักษิณ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. วิษณุ ส่งเอกสารประกอบการเบิกความล่วงหน้าต่อศาล 1 ฉบับ ทำให้วันนี้เป็นการที่ศาลซักถามเพิ่มเติมตามแต่ละข้อสงสัย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
สำหรับการไต่สวนศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. วิษณุ ศาลฯ ได้ซักถามในประเด็นรายละเอียดการเข้าไปเยี่ยมนายทักษิณ ในวันที่ 22 ส.ค. 2566 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทั้งการแต่งกายของนายทักษิณ รวมถึงรายละเอียดการพูดคุยกับนายทักษิณ
สรุปใจความสำคัญในการเบิกความของศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. วิษณุ ได้ว่า ในการประชุมทั้ง 2 ครั้งกับ ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือการรับตัวนายทักษิณจากสนามบินไปศาล และการสำรวจสถานที่คุมขังนายทักษิณที่ต้องมีความพิเศษเหมือนนักโทษทางการเมืองคนอื่น
สาเหตุที่นายทักษิณควรได้คุมขังในสถานที่พิเศษ มี 3 ประการ คือ 1.นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี 2.นายทักษิณอาจถูกประทุษร้าย 3.ต้องดูแลอาการป่วยของนายทักษิณ
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. วิษณุ ยังกล่าวถึงขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งไม่ทราบว่านายทักษิณไปดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษอย่างไร แต่ตนเองเป็นผู้รับคำสั่งพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ และยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดถึงการพักโทษหรือการย้ายตัวคุมขัง
ทั้งนี้เมื่อคดีเสร็จการไต่สวน ศาลฯ นัดฟังคำสั่งวันที่ 9 ก.ย. 2568 เวลา 10 นาฬิกา และมีคำสั่งให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายทักษิณ ชินวัตร จำเลยเข้าฟังด้วย

ทั้งหมดนี้ คือรายละเอียดการไต่สวนคดีติดคุกทิพย์ในแต่ละนัด ที่ผ่านมาส่วนศาลฯ จะมีคำสั่งแบบใด ต้องรอติดตามกันต่อไป
วันที่ 9 ก.ย.นี้ ทุกอย่างจะมีคำตอบที่ชัดเจน
อ่านประกอบ :
- ไต่สวนคดีติดคุกทิพย์นัดแรก! ผบ.เรือนจำ ยอมรับส่งตัว 'ทักษิณ' ไป รพ.ตร.ไม่ผ่านรพ.ราชทัณฑ์
- เปิดครบชื่อ 20 พยานใหม่ ไต่สวนคดี 'ทักษิณ' ติดคุกทิพย์ - เรียก 'อธิบดีราชทัณฑ์' ด้วย
- ไต่สวนคดีชั้น 14 นัดสอง! ศาลฯ เน้นประเด็นส่งตัว'ทักษิณ' ไป รพ.ตร.-ห้ามแพร่คำเบิกความ
- สรุป! ประเด็นไต่สวนคดีติดคุกทิพย์นัดสอง ใครเสนอส่งตัว 'ทักษิณ' ไปรักษา ร.พ.ตำรวจ
- ไต่สวนคดีติดคุกทิพย์นัด 3! 9 ปากศาลฯ ถามถึงคนเยี่ยม-ภาพ 'ทักษิณ' อยู่ รพ.ตร.
- ไต่สวนคดีติดคุกทิพย์นัดสี่!ศาลฯ จี้ถามขยายเวลารักษา 'ทักษิณ' นอกเรือนจำ -ไม่ตรวจอาการป่วย
- ไต่สวนคดีติดคุกทิพย์นัดห้า! ศาลฯ ซักละเอียดอาการ 'ทักษิณ' ขอรายชื่อผู้ป่วยชั้น 14
- ไต่สวนคดีติดคุกทิพย์นัด6! แพทยสภาชี้พิรุธอ้างหลอดเลือดหัวใจตีบ ถึง รพ.ตร.ไม่มีหมอตรวจ
- ให้ 'ทักษิณ' มาด้วย! ไต่สวนคดีติดคุกทิพย์จบแล้ว ศาลฯ นัดฟังคำสั่ง 9 ก.ย.นี้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา