
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) สว. สรุปรายงานข้อสังเกตและความเห็นเบื้องต้นร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ถึงวุฒิสภา ชี้ ขัดรัฐธรรมนูญ 6 มาตรา ไม่สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สุ่มเสี่ยงเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ-กฎหมาย กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) วุฒิสภา ที่มีนพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย เป็นประธาน ได้สรุปรายงานข้อสังเกตและความเห็นเบื้องต้นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) และถูกบรรจุอยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 ก.ค.นี้ เสนอต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ อาทิ กิจกรรมการพนันไม่ใช่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมบ่อนกาสิโนมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะขาลง การดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงไม่จำเป็นต้องใช้กาสิโน จุดยืนของรัฐบาลจีนต่อธุรกิจการพนัน ประโยชน์ทางเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน ขาดข้อมูลผลการศึกษาความเหมาะสมและความคุ้มค่าในการใช้พื้นที่ของรัฐเพื่อพัฒนาโครงการ
ด้านสังคมและด้านอื่น ๆ อาทิ การพนันเป็นโรคชนิดหนึ่ง เรียกว่า “โรคติดการพนัน” (Gambling Disorder) การติดการพนันมีผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และสังคม กาสิโนเป็นแหล่งบ่มเพาะปัญหาอาชญากรรมที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เกิดการจ้างงานที่ไม่ส่งเสริมทักษะอาชีพ เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของพื้นที่ ประชาชนคนไทยไม่เห็นด้วยให้มีสถานบันเทิงครบวงจรที่รวมกาสิโน ควรทำประชาพิจารณ์และถามประชามติ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจจะอนุญาตให้มีการเปิดกาสิโนในประเทศไทยหรือไม่
ด้านกฎหมาย ซึ่งมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 คือ ขัดกับหลักนิติธรรม (Rule of Law) ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 26 วรรคหนึ่ง ขัดกับหน้าที่ของรัฐ หมวด 5 มาตรา 58 มาตรา 63 ขัดกับแนวนโยบายแห่งรัฐ ว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มาตรา 65 และมาตรา 75
“โดยสรุปแล้ว การกำหนดนโยบายของรัฐบาลและการเสนอร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ของรัฐบาลต่อสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญมีความเห็นว่าเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 3 มาตรา 26 มาตรา 37 วรรคสาม มาตรา 63 มาตรา 58 มาตรา 65 และมาตรา 75 วรรคหนึ่งและวรรคสี่ รวมทั้งไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ซึ่งอาจส่งผลให้บรรดาผู้กระทำต้องตกเป็นผู้กระทำการใช้อำนาจอธิปไตยอันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และอาจต้องรับผลจากการกระทำของตนด้วยบทบัญญัติอันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ”เนื้อหาในรายงานสรุป

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) วุฒิสภา ยังมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในลักษณะฉากทัศน์ เพื่อประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายต่โดยแยกออกเป็น 3 ฉากทัศน์ ได้แก่ 1. ฉากทัศน์เชิงอุดมคติ (Best-case Scenario) 2.ฉากทัศน์ทางเลือก (Base - case Scenario) และ 3.ฉากทัศน์เชิงป้องกันความเสี่ยง (Worst - case Scenario)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องประกอบ :

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา