ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'ลำพอง นามพันธ์' อดีตนายก อบต.พิมลราช นนทบุรี จัดจ้างปรับสถานที่จัดงาน 5 ธันวามหาราช 2550 ด้วยวิธีพิเศษ จงใจไม่ดำเนินการตามระเบียบ ทำเอกสารจัดจ้างเป็นเท็จ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษายกฟ้อง - พวก 2 ราย โดนโทษ 2 ปี 6 เดือน , 3 ปี 4 เดือน ตามลำดับ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายลำพอง นามพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี กับพวก คือ นายวิรัติ ปิดแก้ว นายอร่าม มามีเกตุ จัดจ้างปรับสถานที่จัดงาน 5 ธันวามหาราช 2550 ด้วยวิธีพิเศษ โดยจงใจไม่ดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีสอบราคา ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2538 และจัดทำเอกสารการจัดจ้างเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 151, 157 และ 162 (1) (4) ประกอบ มาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายวิรัติ ปิดแก้ว จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 151 (เดิม) จำคุก 5 ปี ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชนแ์ก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตาม มาตรา 78 ให้กึ่งหนึ่ง
คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 6 เดือน นับโทษต่อจากโทษคดีเดิม
2. นายอร่าม มามีเกตุ จำเลยที่ 3 มีความผิดตามมาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 86 จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 3 ปี 4 เดือน
3. ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับ นายลำพอง นามพันธ์ จำเลยที่ 1
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) หารือไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท