"...การกู้ยืมระหว่างบริษัทกับกรรมการของบริษัท หากไม่มีการคิดอัตราดอกเบี้ย กรมสรรพากรไม่ยินยอมอย่างแน่นอน และบังคับให้คิดอัตราดอกเบี้ยเป็นรายได้ของบริษัท การออกตั๋ว P/N ประเภทครบกำหนดเมื่อทวงถามและไม่มีอัตราดอกเบี้ย แสดงให้เห็นเจตนาของคู่สัญญาอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้มีการบังคับชำระหนี้ อาจทำขึ้น โดยวัตถุประสงค์แอบแฝงอย่างอื่น หรือที่เรียกกันว่า ‘เจตนาลวง’..."
แม้ศึกการอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้จบลงแล้ว
แต่ประเด็นการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N-Promissory Note) มูลค่ากว่า 4,400 ล้านบาท ของ น.ส.แพทองธาร เพื่อชำระค่าหุ้น 9 บริษัท ให้แก่ มารดา พี่น้อง และลุงบุญธรรม อาจกลายเป็นชนักปักหลังของ น.ส.แพทองธารต่อไป เพราะพรรคประชาชนประกาศจะยื่นให้องค์กรต่าง ๆ ตรวจสอบในเรื่องนี้
ข้อกล่าวหาของพรรคประชาชน คือ การออกตั๋ว P/N ดังกล่าว เป็นนิติกรรมอำพรางการโอนหุ้นจำนวน 9 บริษัท เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีการรับหรือภาษีการให้ตามประมวลรัษฎากร ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ไปกว่า 200 ล้านบาท
นอกจากคำชี้แจงของ น.ส.แพทองธาร แล้ว คนที่ออกตัวแรงแทน คือ นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร ที่ระบุว่า การออกตั๋ว P/N โดยไม่ระบุกำหนดวันชำระหนี้ (แบบครบกำหนดเมื่อทวงถาม) และไม่มีดอกเบี้ย สามารถทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
กรณีการซื้อหุ้นของนายกรัฐมนตรี เป็นการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์และวางแผนจะเรียกชำระหนี้ตามตั๋ว P/N เต็มจำนวนในปี 2569 ดังนั้น เครือญาติของนายกฯในฐานะผู้ขายหุ้น จะรับรู้รายได้และต้องยื่นแบบแสดงเงินได้เสียภาษีในปี 2570 หากได้กำไรจากการขายหุ้น หรือ Capital Gains
@ ปิ่นสาย สุรัสวดี
ขณะที่ น.ส.แพทองธารชี้แจงในสภา ฯ ตอนหนึ่งว่า
“ดิฉันขอยืนยันว่า ที่ถูกตรวจสอบทั้งหมดถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง…การทำธุรกรรมเรื่องของหุ้นเกิดตั้งแต่ปี 2559 ก่อนจะเข้าสู่การเมืองหลายปี ก็คือมีความตั้งใจในการปรับโครงสร้างของการถือหุ้นบริษัทโดยการซื้อขายผ่านตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ P/N เป็นหนังสือให้คำมั่นสัญญาว่า จะใช้เงินจำนวนหนึ่งให้กับอีกบุคคลหนึ่งตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งหนังสือดังกล่าวติดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย ซึ่งการซื้อขายเช่นนี้บางรายการไม่มีการเสียภาษี เนื่องจากยังไม่มีการชำระเงิน จึงไม่ทราบจำนวนและเสียภาษีไม่ได้”
“การซื้อขายเช่นนี้จึงเป็นภาระหนี้สินระหว่างดิฉันผู้เป็นผู้ซื้อและครอบครัวที่เป็นผู้ขาย ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ได้มีพฤติกรรมอำพรางใด ๆ ถ้าจะเกิดการซื้อขายหรืออะไรต่าง ๆ ยอดหนี้ที่เห็นก็ยังต้องแสดงชัดเจนในบัญชีอยู่แล้ว ซึ่งได้ยื่นป.ป.ช.ไปหมดแล้วทุกอย่างตรวจสอบได้ วิธีการเหล่านี้รวมถึงเรื่อง P/Nไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่ทำกันมาเป็นเรื่องปกติ”
“การออกตั๋วสัญญาใช้เงินจะทำกับธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย ดำเนินการเปิดเผย ฝ่ายผู้ซื้อผู้ขายรับภาระหนี้สินระหว่างกัน ไม่มีการกระทำนอกกฎหมายใด ๆ เพราะว่าการกระทำนอกกฎหมายที่ไหนออกหลักฐานเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ระบุที่มาของเงินไม่ได้ก็ไม่สามารถทำได้ การเลือกใช้วิธีออกตั๋วสัญญาใช้เงินแทนการรับให้เพราะเป็นการดำเนินการธุรกิจอย่างเปิดเผย”
จากคำชี้แจงของอธิบดีกรมสรรพากรและ น.ส. แพทองธาร ขอตั้งข้อสังเกตดังนี้
หนึ่ง
การออกตั๋ว P/N ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์สามารถทำได้ไม่มีใครปฏิเสธ ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของกฎหมายที่สอนกันในคณะนิติศาสตร์
แต่การออกตั๋ว P/N แบบครบกำหนดเมื่อทวงถาม หรือไม่มีการกำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ และไม่มีอัตราดอกเบี้ย มีการใช้ในการทำธุรกิจอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมามากน้อยแค่ไหน
เพราะการกู้ยืมระหว่างบริษัทกับกรรมการของบริษัท หากไม่มีการคิดอัตราดอกเบี้ย กรมสรรพากรไม่ยินยอมอย่างแน่นอน และบังคับให้คิดอัตราดอกเบี้ยเป็นรายได้ของบริษัท
การออกตั๋ว P/N แบบครบกำหนดเมื่อทวงถามและไม่มีอัตราดอกเบี้ย แสดงให้เห็นเจตนาของคู่สัญญาอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้มีการบังคับชำระหนี้ อาจทำขึ้น โดยวัตถุประสงค์แอบแฝงอย่างอื่น หรือที่เรียกกันว่า ‘เจตนาลวง’
ดังนั้น หากผู้บริหารกรมสรรพากรยอมรับการทำสัญญาในลักษณะดังกล่าวว่า ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้มีอำนาจหลีกเลี่ยงภาษีแบบไม่ลืมหูลืมตา โดยมิได้ดูพฤติการณ์ของคู่สัญญาว่า เป็นการปกปิดหรืออำพรางธุรกรรมที่แท้จริงหรือไม่ อาจเป็นการทำลายระบบการจัดเก็บภาษีของประเทศให้พังย่อยยับ
พฤติการณ์ในการช่วยเหลือผู้มีอำนาจเพื่อหลบเลี่ยงหรือหนีภาษีโดยเฉพาะการโอนหุ้นของคนในครอบครัวชินวัตรเคยเกิดขึ้นมาแล้ว จนกระทั่งศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุกนางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี-อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลังสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่สรรพากรหลายคนรวมทั้งอดีตคนสนิทของคุณหญิงพจนมาน ชินวัตรด้วย
หรือยังมีผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่สรรพากรรายใดต้องการเดินซ้ำรอยอีก?
@ นางเบญจา หลุยเจริญ
สอง
น.ส.แพทองธารระบุว่า การออกตั๋ว P/N ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่ทำกันเป็นเรื่องปกติ
จะทำกับธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย ไม่มีการกระทำนอกกฎหมาย ไม่ได้มีพฤติกรรมอำพรางใดๆ
“การเลือกใช้วิธีออกตั๋วสัญญาใช้เงินแทนการรับให้ เพราะเป็นการดำเนินธุรกิจอย่างเปิดเผยเปิด”
จากคำชี้แจงดังกล่าว เมื่อพิจารณาการออกตั๋ว P/N ของ น.ส. แพทองธาร มูลค่ากว่า 4,400 ล้านบาทนั้น ประมาณ 2,900 ล้านบาท ออกเมื่อปี 2559 ให้แก่ น.ส.พินทองทา ชินวัตร นายพานทองแท้ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร
นับจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 10 ปีโดยที่ น.ส. แพรทองธาร ไม่เดือดเนื้อร้อนใจที่จะชดใช้หนี้ตามตั๋ว P/N ดังกล่าวเพราะไม่มีกำหนดระยะเวลาและไม่มีอัตราดอกเบี้ย หากไม่ตกเป็นข่าวอื้อฉาว หรือถูกเปิดโปง
อยากจะรู้ว่า น.ส. แพทองธาร จะชดใช้หนี้ ให้กับบุคคลเหล่านี้เมื่อไหร่ ชาตินี้หรือชาติหน้า?
สาม.
การที่ น.ส.แพทองธาร ประกาศกลางสภาฯว่า วางแผน จะชำระหนี้ในปีหน้านั้น เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน?
ประเด็นนี้ต้องดูจากพฤติกรรมในการออกตั๋ว P/N ของครอบครัวชินวัตรที่ใช้วิธีการแบบนี้มาตลอดหลายสิบปี
จึงไม่น่าแปลกใจที่ น.ส. แพทองธาร ที่บอกว่า การออกตั๋ว P/N (แบบครบกำหนดเมื่อทวงถามและไม่มีดอกเบี้ย)ไม่ใช่เรื่องใหม่และทำเป็นปกติ
การใช้ตั๋ว P/N (แบบครบกำหนดเมื่อทวงถามและไม่มีดอกเบี้ย) สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ จนถึงรุ่นลูกและมีแนวโน้มจะใช้ต่อไปจนถึงรุ่นหลานจนกลายเป็นนวัตกรรมในครอบครัว จึงอาจเรียกว่า ‘ตั๋วP/N-สืบสันดาน’ ก็คงไม่ผิดนัก
แต่ที่ น.ส.แพทองธาร บอกว่า การออกตั๋ว P/N จะทำกับธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย ไม่มีการกระทำนอกกฎหมาย ไม่ได้มีพฤติกรรมอำพรางใดๆ นั้น ช่างกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำ
เพราะถ้าดูพฤติการณ์ของคนในครอบครัวชินวัตรที่อ้างว่า ใช้‘ตั๋วP/N-สืบสันดาน’ชำระค่าหุ้นระหว่าง พ่อ แม่ ลูกและเครือญาติมาตลอด เคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน หรือ คดียึดทรัพย์นายทักษิณ ชินวัตร 46,737 ล้านบาท(หมายเลขแดงที่ อม.1/2553) พิพากษา ไม่ยอมรับธุรกรรมการซื้อหุ้นโดย‘ตั๋วP/N-สืบสันดาน’
มีการระบุในคำพิพากษาอย่างชัดเจนว่า ตั๋วสัญญาใช้เงินชำระค่าหุ้นระหว่างคุณหญิงพจมาน กับนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ มีพิรุธ ในลักษณะนิติกรรมอำพรางการให้หุ้นชินคอร์ป
ในตอนหนึ่งในคำพิพากษาระบุว่า นายทักษิณและ ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 5 (คุณหญิงพจมาน นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายบรรณพจน์) ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านที่ 1 ได้โอนหุ้นบริษัทชินคอร์ปให้แก่ผู้คัดค้านที่ 2 ที่ 4 และที่ 5 จนหมดสิ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2543 โดยได้รับชำระเงินค่าหุ้นตามตั๋วสัญญาใช้เงินครบถ้วนแล้ว
@ ทักษิณ ชินวัตร
นายทักษิณ ได้ขายหุ้นบริษัทแอมเพิลริชให้แก่นายพานทองแท้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2543 โดย ได้รับชำระค่าหุ้นเรียบร้อยแล้ว
นายพานทองแท้ ได้ขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปให้แก่ น.ส.พินทองทา โดย น.ส.พินทองทา สั่งจ่ายเช็คชำระค่าหุ้นให้แก่นายพานทองแท้ครบถ้วนแล้ (ในคำพิพากษาไม่ได้ระบุว่า มีการจ่ายเงินตามเช็คหรือไม่ หรือถ้ามีการจ่ายเงินมาจากบัญชีใด)
นายบรรณพจน์ ได้กู้ยืมเงินจากคุณหญิงพจมานไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทชินคอร์ปโดยได้ชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินครบถ้วนแล้ว
คุณหญิงพจมาน เบิกความว่า เมื่อปี 2540 ได้ยกหุ้นบริษัทชินคอร์ป จำนวน 4,500,000 หุ้น ให้แก่นายบรรณพจน์ ในโอกาสที่นายบรรณพจน์ แต่งงานและครบรอบวันเกิด 1 ปีของบุตรนายบรรณพจน์ โดยทำการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์จากหุ้นของคุณหญิงพจนมาน ในบัญชีของนางสาวดวงตา วงศ์ภักดี(คนรับใช้-สำนักข่าวอิศรา) หุ้นจำนวนนี้กับหุ้นที่นายบรรณพจน์มีอยู่เดิม คณะอนุกรรมการไต่สวน(คณะกรรมการตรวจสอบ)เห็นว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ชัดเจนว่า เป็นหุ้นที่ถือไว้แทนนายทักษิณหรือคุณหญิงพจมาน
นายบรรณพจน์ เบิกความรับว่า ในปี 2542 ซึ่งซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทชินคอร์ปหุ้นละ 15 บาท จำนวน 6,809,015 หุ้นนั้น ผู้คัดค้านที่ 5 กับคู่สมรสมีทรัพย์สินมูลค้ามากกว่า 500 ล้านบาท แต่การใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเป็นเงิน 102,135,225 บาทซึ่งเป็นการลงทุนที่นายบรรณพจน์เบิกความว่า จะทำกำไรให้ แต่กลับใช้เงินของคุณหญิงพจนมาน มาชำระค่าซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยคุณหญิงพจมานถอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์เพื่อนำมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของนายบรรณพจน์พร้อมกับการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของนายทักษิณและคุณหญิงพจมาน จำนวน 32,900,000 หุ้น และ 34,650,000 หุ้น ตามลำดับ
ข้ออ้างที่ว่า นายบรรณพจน์ยืมเงินจากคุณหญิงพจนมาน มาซื้อหุ้นเพิ่มทุนโดยออกตั๋วสัญญาใช้เงินลงวันที่ 16 มีนาคม 2542 สัญญาจะจ่ายเงินจำนวน 102,135,225 บาท ให้แก่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เมื่อทวงถามโดยไม่มีดอกเบี้ยกลับทำให้เป็นพิรุธ เพราะคุณหญิงพจมาน เพิ่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่จะใช้คำนำนามว่า "คุณหญิง" เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2542
ที่นายบรรณพจน์ เบิกความว่า เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับใหม่ซึ่งทำขึ้นเมื่อปลายปี 2543 เนื่องจากได้รับแจ้งจากนางกาญจนาภา หงส์เหิน (เลขานุการของคุณหญิงพจมาน) ว่า ตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับเดิมที่ระบุชื่อนางพจมาน ชินวัตร หายไป เป็นข้ออ้างที่ไม่มีเหตุผลให้น่าเชื่อ
เพราะในทางไต่สวนปรากฏว่า นายทักษิณและคุณหญิงพจมาน ยังได้รับตั๋วสัญญาใช้เงินเนื่องจากการโอนหุ้นบริษัทชินคอร์ปและหุ้นบริษัทอื่นอีกหลายฉบับ แต่กลับหายไปจนเกิดข้อพิรุธฉบับเดียว
ที่ยกมานี้เป็นเพียงบางส่วนของคำพิพากษาที่ทำให้เห็นพฤติการณ์ของคนในครอบครัวชินวัตรที่ใช้‘ตั๋วP/N-สืบสันดาน’ในการชำระค่าหุ้นที่โอนกันไปมาระหว่างเครือญาติด้วยวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงอย่างชัดเจน ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ น.ส.แพทองธารชี้แจงกลางสภาว่า
เป็นเรื่องที่ทำกันเป็นเรื่องปกติ?
ทำกับธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย?
ไม่มีการกระทำนอกกฎหมาย?
ไม่ได้มีพฤติกรรมอำพรางใดๆ?
การเลือกใช้วิธีออกตั๋วสัญญาใช้เงินแทนการรับให้เพราะเป็นการดำเนินธุรกิจอย่างเปิดเผยเปิด?
การกล่าวอ้างอย่างลอย ๆ ย้อนแย้งกับพฤติกรรมในอดีตของคนในครอบครัวควรค่ากับความน่าเชื่อถือหรือไม่?
ข่าวเกี่ยวข้องกับธุรกิจและบัญชีทรัพย์สิน แพทองธารและสามี
- ‘แพทองธาร’ ลาออก กก.ธุรกิจเกลี้ยง 21 บริษัท- ‘อัลไพน์’ ด้วย หลัง ‘เศรษฐา’ พ้นวันเดียว
- เปิดพอร์ตหุ้น ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ในวันนั่งนายกฯ 19 บริษัท 9,330.5 ล้าน
- ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’สามีนายกฯ แจ้งลาออก กก./โอนหุ้น บ.ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลให้พวกแล้ว
- เปิดธุรกิจ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’สามีนายกฯ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตั้ง บ.โฮลดิ้งลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
- เช็กสนามกอล์ฟอัลไพน์ ในวัน ‘แพทองธาร’ นายกฯ บ.ยังไม่ได้รับแจ้งปมกรรมสิทธิ์ที่ดิน 444 ไร่
- นายกฯ แพทองธาร โอนหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ 1 ล้าน ให้ ‘คุณหญิงอ้อ’ แล้ว
- บ.ที่สอง! นายกฯแพทองธาร โอนหุ้น ประไหมสุหรีฯ 4 ล. ให้ ‘พินทองทา’ พี่สาว
- ขายหรือโอน! นายกฯ แพทองธาร ยังไม่ตอบ ปม 'แม่-พี่สาว' รับหุ้น ‘อัลไพน์-ประไหมสุหรี’
- อีกแห่ง! นายกฯ แพทองธาร โอนหุ้น บ.ดูแลสวน 20 ล. ก่อนให้แม่ 1 ล.
- จับตา! ‘แพทองธาร’ โอนหุ้น ‘แม่-พี่สาว’ แล้ว 413 ล. อีก 16 บริษัท 8.9 พันล. ให้ใคร
- นายกฯเผย หุ้น 16 บริษัทกำลังเคลียร์อยู่ – ยังไม่ตอบหุ้น ‘อัลไพน์-ประไหมสุหรี’ ขายหรือโอน
- ครม.แพทองธาร เหลือ 5 รมต. ยังไม่ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช. 'นายกฯ-อัครา-ซาบีดา' ขอขยายเวลาเพิ่ม
- นายกฯแจงขอขยายเวลายื่นบัญชีทรัพย์สิน เพราะทำไม่ทัน - หุ้น 16 บ.บริหารจัดการแล้ว
- คงมีเรื่องให้ถามอีกเยอะ! ‘แพทองธาร-ซาบีดา-อัครา’ ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช.แล้ว
- เฉลยแล้ว!‘แพทองธาร’โอนหุ้น 12 บริษัท 5,785 ล. ให้ บลจ.เกียรตินาคินภัทร - แลนด์ฯ ดูแล
- 1.3 หมื่นล้าน! ทรัพย์สิน 'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี เงินลงทุน 1.1 หมื่นล. รายได้ 265 ล./ปี
- สรุปแล้ว! ‘แพทองธาร’โอนหุ้น เอสซี แอสเสท 3,483.6 ล. ให้ 2 บลจ. รวม 16 บริษัท 9,951.7 ล.
- ตามส่อง 2 อะพาร์ตเมนต์ กรุงลอนดอน นายกฯ แพทองธาร ได้สิทธิเช่าที่อยู่นานเฉียด 1 พันปี
- ยลโฉม 'ตุ๊กตาแบร์บริค' นายกฯแพทองธาร ก่อนยื่นบัญชีทรัพย์สิน มี 9 ตัว 1.9 ล้าน
- นายกฯแจงกฎหมายอังกฤษให้เช่าที่ดินพันปี เผยให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช.ไปหมดแล้ว
- ตามส่องสกีรีสอร์ต-ห้องชุดสุดหรู ฮอกไกโด ‘แพทองธาร-คู่สมรส’ แจ้งถือครองโฉนดมูลค่า 30 ล.
- ไขที่มาหนี้ 4,434.5 ล. ‘แพทองธาร’ ที่แท้ตั๋วสัญญาใช้เงินค่าหุ้น 9 บ.ครอบครัว-ไม่มีดอกเบี้ย
- เปิดสัญญา 6 ฉบับ 'ปิฎก' สามีนายก 'แพทองธาร' ให้ บจ.วินน์ฯ กู้ยืม 12.7 ล.
- ‘แพทองธาร’ ยืนยัน หนี้จริง 4 พันล. ระหว่างเครือญาติ ไม่กังวล ซ้ำรอย ‘คดีซุกหุ้น’
- พร้อมตอบ ป.ป.ช. สามีให้กู้ 12 ล. - นายกฯถามสื่อ ‘นักร้อง’ ข่มขู่ให้เงินแลกไม่ฟ้องร้องผิดกม.ไหม
- เจาะ บ.วินน์ฯ ลูกหนี้ 12.7 ล. ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’ ล้วนคนใกล้ชิดนายกฯ พวก ถือหุ้น-กก.
- อิศรา ตามไปถึงตึกชินวัตร 3! ไขปมสามีนายกฯ ให้บจ.วินน์ฯ กู้ยืม12.7 ล. -กก.ไม่ให้สัมภาษณ์
- ตามเจาะลึก ‘แพทองธาร’ รับโอนหุ้น 7 บ.เครือญาติ ที่มา ‘หนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน’ 4,434.5 ล.
- สนามกอล์ฟอัลไพน์ลดทุน 237 ล.! หลัง‘แพทองธาร’โอนหุ้น 224 ล. ให้คุณหญิงพจมาน
- เปิดตัวบริษัทในเอกสารปานามา คู่สัญญานายกฯได้กรรมสิทธิ์เช่าอะพาร์ตเมนต์ลอนดอน เฉียดพันปี
- ‘แพทองธาร’ ปัดตอบเรื่องบัญชีทรัพย์สิน วอน ‘สื่อ’ ช่วยเซฟดิฉันด้วย
- ก่อน‘แพทองธาร’กู้คนใกล้ชิด 4,434.5 ล! ‘ทักษิณ-พจมาน’ทำมาแล้ว ให้‘โอ๊ค’ยืม 5,485.5 ล.
- ขุดทรัพย์สิน เด็กหญิง ‘แพทองธาร’เมื่อ 22 ปีที่แล้วมี 2,571.7 ล. – เติบโตขึ้น 5 เท่าตัว
- ดูชัดๆ! ไม่มีรายได้โอนหุ้น 1.6 ล. ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’ ในบัญชีทรัพย์สินแพทองธาร ?
เรื่องเกี่ยวข้องกับคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์
- เจาะคำพิพากษา-ย้อนตำนาน 21 ปีคดีอัลไพน์! คุกจริง‘ยงยุทธ’-ศาลไม่รับฎีกา?
- ละเอียด! คำพิพากษาคดีอัลไพน์ระบุชัด ‘ยงยุทธ’เอื้อ‘ทักษิณ’ ก่อนศาลสั่งคุกจริง 2 ปี
- ศาลไม่รับฎีกา!‘ยงยุทธ วิชัยดิษฐ’ ติดคุกจริงทันที 2 ปีคดีทุจริตกอล์ฟอัลไพน์
- อุทธรณ์พิพากษายืนคุกจริง2 ปี'ยงยุทธ' คดีอัลไพน์-ศาลให้ประกันตัวด้วยเงินสด 9 แสน
- ‘เสริมศักดิ์’รอด! ป.ป.ช.ตีตกปมไม่ยกเลิกคำสั่ง‘ยงยุทธ’โอนที่ดินสร้างสนามกอล์ฟอัลไพน์
- เลื่อนอ่านอุทธรณ์คดีกอล์ฟอัลไพน์ เหตุ‘ยงยุทธ’ป่วย-ก่อนหน้านี้โดนคุกจริง 2 ปี
- 'ยงยุทธ' ไม่รอด! ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตพิพากษาจำคุก2ปี สนามกอล์ฟอัลไพน์
- เบื้องหลังคดีกอล์ฟอัลไพน์!ก่อนศาลสั่งคุก2ปี‘ยงยุทธ’อ้าง กม.พิเศษ-โยงคำสั่ง‘ป๋าเหนาะ’?
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ‘แค่จ่ายค่าหุ้นหรือนิติกรรมอำพราง? 'แพทองธาร’ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 4,400 ล.ให้ญาติพี่น้อง’
- ‘แพทองธาร' : ตั๋วสัญญาใช้เงิน 4,400 ล.หนี้ปลอม? นิติกรรมอำพราง? เจริญรอยตามผู้พ่อหรือไม่’
- 'แพทองธาร' โอนหุ้นอัลไพน์-ประไหมสุหรีให้ 'แม่-พี่สาว' ซื้อขายเหมือน 9 บ.4.4พันล.หรือไม่?
- ไขคำตอบ เจตนาลวง-นิติกรรมอำพราง?ตั๋วเงิน 4,400 ล. ‘แพทองธาร’เลี่ยงภาษีโอน(ให้)หุ้น?