อัพเดทธุรกิจ ‘อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร’ หลังนั่งนายกฯ 18 ส.ค. ตอนนี้โอนหุ้น บ.อัลไพน์ กอล์ฟฯ คุณหญิงพจมาน - ประไหมสุหรี‘พินทองทา’ - อัลไพน์ การ์เด้น ให้กิจการในเครือ รวม 3 บริษัท 413.5 ล. จับตาอีก 16 แห่ง 8,917 ล. เกิน 5% 10 แห่ง ใช้ blind trust หรือ ใคร ?
การบริหารจัดการหุ้นธุรกิจเกือบ 20 บริษัทมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาทของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ ‘อุ๊งอิ๊ง’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลังได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 (นายกฯคนที่ 31 เป็นนายกฯสุภาพสตรีคนที่ 2 ของทำเนียบนายกฯ) อย่างน้อย 3 ใน 19 บริษัท คือ การโอนหุ้นให้แก่บริษัทในเครือและคนในครอบครัว
1.บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด จำนวน 22,410,000 หุ้น มูลค่าตามทุนจดทะเบียน 224.1 ล้านบาท คิดเป็น 30% จดทะเบียนโอนให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นมารดาเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2567
2.บริษัท ประไหมสุหรี พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอฟ ซี (ไทยแลนด์) จำกัด) จำนวน 16,949,990 หุ้น มูลค่าประมาณ 169.4 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 45.10 % ของทุนจดทะเบียน จดทะเบียโอนให้ นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ (เอม) พี่สาว เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567
3.บริษัท อัลไพน์ การ์เด้น ดีไซน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด จำนวน 1,999,800 หุ้น (99.99%) มูลค่าหุ้นละ 10 บาท หรือประมาณ 19.99 ล้านบาท โอนไปให้ บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567
ภาพ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร จาก www.innnews.co.th
เท่ากับยังไม่มีความชัดเจนว่า การถือหุ้นอีก 16 บริษัทมูลค่า จะโอนให้ใคร?
มาย้อนดูข้อมูลธุรกิจที่นางสาวแพทองธารถือครองหุ้นอีกครั้ง
นางสาวแพทองธารมีชื่อเป็นกรรมการทั้งสิ้น 23 บริษัท ในจำนวนนี้เลิกดำเนินการ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เดอะ ซิสเตอร์ส เนลส์ จำกัด สปาเล็บ (เลิก 30 ก.ย. 2565 ) บริษัท โอคานิท จำกัด (เลิกหลายปี) เท่ากับยังเปิดดำเนินการ 21 บริษัท ในจำนวนนี้ ถือหุ้น 19 บริษัท มูลค่า 9,330,535,485 บาท จำแนกเป็น
บริษัทจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า(นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ) จำนวน 17 บริษัท รวมมูลค่าหุ้นตามทุนจดทะเบียน 6,199,660,810 บาท ได้แก่
1. บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ณ วันที่ 24 เม.ย.2567 จำนวน 138,000,000 หุ้น (มูลค่าหุ้นละ 10 บาท รวมมูลค่า 1,224,999,750 บาท (คิดเป็น 30% ของหุ้นทั้งหมด)
2.บริษัท ทุนนวัตกรรม จำกัด ณ วันที่ 26 เม.ย.2567 จำนวน 21,812,500 หุ้น ๆละ 10บาท รวมมูลค่า 218,125,000 บาท (คิดเป็น 45.55%)
3.บริษัท บี.บี.ดี. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ณ วันที่ 25 เม.ย.2567 จำนวน 120,000,000 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 1,020,000,000 บาท (คิดเป็น 30% ของหุ้นทั้งหมด)
4.บริษัท บี.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ณ วันที่ 26 เม.ย.2567 จำนวน 331,347 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 3,313,470 บาท (คิดเป็น 7.61%)
5.บริษัท พี.ที.คอร์ปอเรชั่น จำกัด ณ วันที่ 25 เม.ย.2567 จำนวน 111,000,000 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 1,110,000,000 บาท (คิดเป็น 30% ของหุ้นทั้งหมด)
6.บริษัท เอส ซี ออฟฟิซ ปาร์ค จำกัด ณ วันที่ 25 เม.ย.2567 จำนวน 4,800,000 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 48,000,000 บาท (คิดเป็น 30% ของหุ้นทั้งหมด)
7.บริษัท เอส ซี เค เอสเทต จำกัด ณ วันที่ 25 เม.ย.2567 จำนวน 54,900,000 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 549,000,000 บาท (คิดเป็น 30% ของหุ้นทั้งหมด)
8. เอสซี ออฟฟิซ พลาซ่า จำกัด ณ วันที่ 25 เม.ย.2567 จำนวน 41,400,000 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 414,000,000 บาท (คิดเป็น 30% ของหุ้นทั้งหมด)
9.บริษัท โอเอไอ คอนซัลแต้นท์แอนด์แมนเนจเม้นท์ จำกัด ณ วันที่ 30 เม.ย.2567 จำนวน 18,300,000 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 183,000,000 บาท (คิดเป็น 26.14% ของหุ้นทั้งหมด)
10.บริษัท โอเอไอ ลีสซิ่ง จำกัด ณ วันที่ 26 เม.ย.2567 จำนวน 562,450 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 5,624,500 บาท (คิดเป็น 2.49% )
11.บริษัท โอเอไอ แมนเนจเม้นท์ จำกัด ณ วันที่ 26 เม.ย.2567 จำนวน 81,000,000 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 810,000,000 บาท (คิดเป็น 30% ของหุ้นทั้งหมด)
12.บริษัท พีดี เขาใหญ่ จำกัด ณ วันที่ 24 เม.ย.2567 จำนวน 1 หุ้น ๆ ละ 100 บาท รวมมูลค่า 100 บาท
13.บริษัท พีดี โคราช จำกัด ณ วันที่ 24 เม.ย.2567 จำนวน 1 หุ้น ๆ ละ 100 บาท รวมมูลค่า 100 บาท
14.บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ณ วันที่ 30 เม.ย.2567 จำนวน 22,410,000 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 224,100,000 บาท (คิดเป็น 30% ของหุ้นทั้งหมด)
15.บริษัท อัลไพน์ การ์เด้น ดีไซน์ จำกัด ณ วันที่ 25 เม.ย.2567 จำนวน 1,999,800 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 19,998,000 บาท (คิดเป็น 99.99% ของหุ้นทั้งหมด)
16.บริษัท เทมส์ วัลลี่ย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด ณ วันที่ 24 เม.ย.2567 จำนวน 19,999,999 หุ้น ๆ ละ 10 บาท รวมมูลค่า 199,999,990 บาท (คิดเป็น 50% ของหุ้นทั้งหมด)
17.บริษัท ประไหมสุหรี พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด ณ วันที่ 26 เม.ย.2567 จำนวน 16,949,990 หุ้น ๆละ 10 รวมมูลค่า 169,499,900 บาท (คิดเป็น 45.10% ของหุ้นทั้งหมด)
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2 บริษัท ได้แก่
1. บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ณ วันที่ 3 พ.ค.2567 จำนวน 1,216,149,870 หุ้น ราคาหุ้น ละ 1 บาท รวม 1,216,149,87 บาท *มูลค่าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคา ณ วันที่ 16 ส.ค.2567 ราคา 2.50 THB /หุ้น = 3,040,374,675 บาท
2. บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ณ วันที่ : 3 พฤษภาคม 2567 จำนวน 5,000,000 หุ้น ๆละ 1 บาท มูลค่า 5,000,000 บาท (คุณหญิงพจมานถือหุ้นใหญ่ 292,062,500 หุ้น ) *มูลค่าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันที่ 16 ส.ค. 2567 หุ้นละ 18.10 บาท = 90,500,000 บาท
รวมมูลค่าหุ้น (ตามทุนจดะเบียน) 2 บริษัท 1,221,149,870 บาท ( ราคาปิด ณ วันที่ 16 ส.ค.2567) 3,130,874,675 บาท
ในจำนวนนี้ 13 บริษัทถือหุ้นเกิน 5% หากตัดบริษัทที่โอนหุ้นแล้ว 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด บริษัท อัลไพน์ การ์เด้น ดีไซน์ จำกัด และ บริษัท ประไหมสุหรี พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด มูลค่าหุ้นรวมประมาณ 413.5 ล้านบาท เท่ากับยังมีบริษัทที่ นางสาวแพทองธารถือหุ้นเกิน 5% จำนวน 10 บริษัท (ตามข้อมูลข้างต้น)
เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ปี 2560 หมวด 9 ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ มาตรา 187 บัญญัติ รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อไปตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติ และต้องไม่เป็นลูกจ้างของบุคคลใด
ขณะที่ พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 บัญญัติ ห้ามรัฐมนตรีและคู่สมรส บุตรไม่บรรลุนิติภาะถือหุ้นเกิน 5% ของทุนจดทะเบียน หากประสงค์จะได้ประโยชน์จากหุ้นในส่วนที่เกินดังกล่าวต้องดำเนินการแจ้งให้ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทราบภายใน 30 วันนับจากวันรับตำแหน่ง และต้องโอนหุ้นให้นิติบุคคลบริหารจัดการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันที่แจ้ง
นางสาวแพทองธารรับตำแหน่งนายกฯวันที่ 18 สิงหาคม 2567 กรณีให้นิติบุคคลบริหารจัดการจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จประมาณไม่เกินกลางเดือนธันวาคม 2567 เท่ากับยังมีเวลาจัดการหุ้นอีกประมาณ 2 เดือนเศษ
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า หุ้นธุรกิจ เหลือ 16 บริษัท มูลค่า 8,917 ล้านบาท (จากทั้งหมด 19 บริษัท รวม 2 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์) โอนออกไปแล้ว 3 บริษัท ในจำนวนนี้ยังคงถือหุ้นเกิน 5% จำนวน 10 บริษัท นายกฯแพทองธารประสงค์ถือไว้ทั้งหมดและดำเนินการให้นิติบุคคลบริหารจัดการ (blind trust หรือ บลายด์ ทรัสต์) หรือใช้แนวทางจัดการโอนให้คนใกล้ชิดเช่นเดียวกับ กรณี บริษัทอัลไพน์ฯ และ บริษัท ประไหมสุหรี่ฯ อย่างหนึ่งอย่างใด ?
รอดูต่อไป
เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจแพทองธารและสามี
- ‘แพทองธาร’ ลาออก กก.ธุรกิจเกลี้ยง 21 บริษัท- ‘อัลไพน์’ ด้วย หลัง ‘เศรษฐา’ พ้นวันเดียว
- เปิดพอร์ตหุ้น ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ในวันนั่งนายกฯ 19 บริษัท 9,330.5 ล้าน
- ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’สามีนายกฯ แจ้งลาออก กก./โอนหุ้น บ.ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลให้พวกแล้ว
- เปิดธุรกิจ‘ปิฎก สุขสวัสดิ์’สามีนายกฯ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตั้ง บ.โฮลดิ้งลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
- เช็กสนามกอล์ฟอัลไพน์ ในวัน ‘แพทองธาร’ นายกฯ บ.ยังไม่ได้รับแจ้งปมกรรมสิทธิ์ที่ดิน 444 ไร่
- นายกฯ แพทองธาร โอนหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ 1 ล้าน ให้ ‘คุณหญิงอ้อ’ แล้ว
- บ.ที่สอง! นายกฯแพทองธาร โอนหุ้น ประไหมสุหรีฯ 4 ล. ให้ ‘พินทองทา’ พี่สาว
- ขายหรือโอน! นายกฯ แพทองธาร ยังไม่ตอบ ปม 'แม่-พี่สาว' รับหุ้น ‘อัลไพน์-ประไหมสุหรี’
- อีกแห่ง! นายกฯ แพทองธาร โอนหุ้น บ.ดูแลสวน 20 ล. ก่อนให้แม่ 1 ล.
เรื่องเกี่ยวข้องกับคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์
- เจาะคำพิพากษา-ย้อนตำนาน 21 ปีคดีอัลไพน์! คุกจริง‘ยงยุทธ’-ศาลไม่รับฎีกา?
- ละเอียด! คำพิพากษาคดีอัลไพน์ระบุชัด ‘ยงยุทธ’เอื้อ‘ทักษิณ’ ก่อนศาลสั่งคุกจริง 2 ปี
- ศาลไม่รับฎีกา!‘ยงยุทธ วิชัยดิษฐ’ ติดคุกจริงทันที 2 ปีคดีทุจริตกอล์ฟอัลไพน์
- อุทธรณ์พิพากษายืนคุกจริง2 ปี'ยงยุทธ' คดีอัลไพน์-ศาลให้ประกันตัวด้วยเงินสด 9 แสน
- ‘เสริมศักดิ์’รอด! ป.ป.ช.ตีตกปมไม่ยกเลิกคำสั่ง‘ยงยุทธ’โอนที่ดินสร้างสนามกอล์ฟอัลไพน์
- เลื่อนอ่านอุทธรณ์คดีกอล์ฟอัลไพน์ เหตุ‘ยงยุทธ’ป่วย-ก่อนหน้านี้โดนคุกจริง 2 ปี
- 'ยงยุทธ' ไม่รอด! ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตพิพากษาจำคุก2ปี สนามกอล์ฟอัลไพน์
- เบื้องหลังคดีกอล์ฟอัลไพน์!ก่อนศาลสั่งคุก2ปี‘ยงยุทธ’อ้าง กม.พิเศษ-โยงคำสั่ง‘ป๋าเหนาะ’?