"...หลังการวินิจฉัยสำนวนไต่สวน คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายสาวิตร เจียมจิระพร พ.อ.อ. ชาลี แจ้งรัมย์ นางกิ่งแก้ว วัฒนะไกร นายชาญวิทย์ วงค์สัมพันธ์ชัย นายวิรัช เสถียร ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โนนดินแดงเคหะ และนางสาวอมรรัตน์ ขยันงาน ..."
เป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชน!
กรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดกรณีกล่าวหาข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ คดีทุจริตในการดำเนินงานโครงการต่างๆ จำนวน 4 ราย พร้อมพวก จำนวนกว่าสิบราย
รายแรก
นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก กรณีทุจริตการก่อสร้างถนนลาดยางและท่อลอดเหลี่ยมบริเวณศูนย์การเรียนรู้ ตชด.ทรัพย์ทรายทองและทางเชื่อมหมู่บ้าน หมู่ที่ 21 ตำบลโคกมะม่วง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ในปีงบประมาณ 2560
รายสอง
นายมุ่ง เปรียบสม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองขมาร อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก กรณีทุจริตดำเนินโครงการขุดลอกคลองสาธารณะ หมู่ที่ 5 ตำบลหนองขมาร ถึงหมู่ที่ 7 ตำบลบ้านแพ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมิชอบ
รายสาม
นางสมฤทัย จงประโคน รองนายกเทศมนตรีตำบลหนองไม้งาม อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก กรณีเข้ามีส่วนได้เสียในการดำเนินโครงการปรับปรุงซ่อมแซมศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดศรีมงคล หมู่ที่ 2
รายสี่
นายไพรวัลย์ โลมรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดงอีจาน อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก ทุจริตในการดำเนินการสอบคัดเลือกพนักงานจ้างของ อบต.อีจาน ในปีงบประมาณ 2558
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลรายละเอียดมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารท้องถิ่น ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้ง 4 ราย เป็นทางการ
เบื้องต้น จะขอนำเสนอข้อมูลในส่วนของ นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก ก่อนเป็นอันดับแรก มีรายละเอียดสำคัญดังนี้
หนึ่ง. ข้อกล่าวหา 2 คดี
นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก รวมจำนวน 11 ราย ถูกกล่าวหา จำนวน 2 คดี คือ
1. กรณีทุจริตการก่อสร้างถนนลาดยางและท่อลอดเหลี่ยมบริเวณศูนย์การเรียนรู้ ตชด.ทรัพย์ทรายทองและทางเชื่อมหมู่บ้าน หมู่ที่ 21 ตำบลโคกมะม่วง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ในปีงบประมาณ 2560
2. กรณีทุจริตในการซ่อมแซมความชำรุดบพกร่องในการก่อสร้างถนนลาดยางและท่อลอดเหลี่ยมบริเวณศูนย์การเรียนรู้ ตชด.ทรัพย์ทรายทอง และทางเชื่อมหมู่บ้าน หมู่ที่ 21 ตำบลโคกมะม่วง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ในปีงบประมาณ 2560
สอง. คำวินิจฉัยคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ในชั้นการพิจารณาคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช.นั้น
กรณีแรก ทุจริตการก่อสร้างถนนลาดยางและท่อลอดเหลี่ยมบริเวณศูนย์การเรียนรู้ ตชด.ทรัพย์ทรายทองและทางเชื่อมหมู่บ้าน หมู่ที่ 21 ตำบลโคกมะม่วง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ในปีงบประมาณ 2560
คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 6 เสียง เห็นชอบ ตามความเห็นคณะผู้ไต่สวน ชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 7 ราย ดังนี้
การกระทำของ นายสาวิตร เจียมจิระพร มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 , ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
การกระทำของ พ.อ.อ.ชาลี แจ้งรัมย์ นางกิ่งแก้ว วัฒนะไกร นายชาญวิทย์ วงศ์สัมพันธ์ชัย มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 และ 162 (1) (4) , ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
การกระทำของ นายวิรัช เสถียร มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต ตามมาตรา 151 และ 157 ,และมาตรา 162 (1) (4) ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
การกระทำของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โนนดินแดงเคหะ นางสาวอมรรัตน์ ขยันงาม มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต มาตรา 151 และ 157 ,และมาตรา 162 (1) (4) ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1
ส่วนกรณีทุจริตในการซ่อมแซมความชำรุดบพกร่องในการก่อสร้างถนนลาดยางและท่อลอดเหลี่ยมบริเวณศูนย์การเรียนรู้ ตชด.ทรัพย์ทรายทอง และทางเชื่อมหมู่บ้าน หมู่ที่ 21 ตำบลโคกมะม่วง อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ในปีงบประมาณ 2560 นั้น
จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายสาวิตร เจียมจิระพร นายกฤษณพงศ์ คงนันทะ นายวรชัย เพียรแก้ว นายโรจนินทร์ บวรฐิติชัยรัฐ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โนนดินแดงเคหะ และนางอมรรัตน์ ขยันงาน ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำหรับนายบดินทร์ แก้วรักษา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 จากการไต่สวนเบื้องต้นปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายบดินทร์ แก้วรักษา ได้ถึงแก่ความตายแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(1) และคณะกรรมการ ป.ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจดำเนินการไต่สวน เพื่อดำเนินคดีอาญาหรือดำเนินการทางวินัยต่อไปได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 57 จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ
สาม. ผลการดำเนินการ
หลังการวินิจฉัยสำนวนไต่สวน คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายสาวิตร เจียมจิระพร พ.อ.อ. ชาลี แจ้งรัมย์ นางกิ่งแก้ว วัฒนะไกร นายชาญวิทย์ วงค์สัมพันธ์ชัย นายวิรัช เสถียร ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โนนดินแดงเคหะ และนางสาวอมรรัตน์ ขยันงาน
นอกจากนี้ ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานและคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นายสาวิตร เจียมจิระพร พ.อ.อ. ชาลี แจ้งรัมย์ นางกิ่งแก้ว วัฒนะไกร นายชาญวิทย์ วงค์สัมพันธ์ชัย และนายวิรัช เสถียร ตามฐานความผิดดังกล่าวตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป
พร้อมให้แจ้งอำเภอปะคำ ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 82 วรรคสอง และให้แจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการกระทำของห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โนนดินแดงเคหะ และนางสาวอมรรัตน์ ขยันงาน ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โนนดินแดงเคหะ ไปยังกรมบัญชีกลางเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้เป็นผู้มีลักษณะเป็นผู้ทิ้งงาน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
สำหรับข้อมูล ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โนนดินแดงเคหะ ปัจจุบันยังไม่แจ้งจดทะเบียนเลิกกิจการแต่อย่างใด
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า จดทะเบียนจัดตั้ง 4 ตุลาคม 2545 ทุนปัจจุบัน 5,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 255 หมู่ 2 ตำบลส้มป่อย อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ แจ้งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ปรากฏชื่อ นางสาว รุ่งราวรรณ โพนาโล นางสาว อมรรัตน์ ขยันงาน เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก
ผลการต่อสู้คดีในชั้นศาลจะออกมาเป็นอย่างไร ต้องติดตามดูกันต่อไป
ส่วนข้อมูลในตอนต่อไป จะขอนำเสนอรายละเอียดมติการชี้มูล นายมุ่ง เปรียบสม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองขมาร อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก กรณีทุจริตดำเนินโครงการขุดลอกคลองสาธารณะ หมู่ที่ 5 ตำบลหนองขมาร ถึงหมู่ที่ 7 ตำบลบ้านแพ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมิชอบ
รายละเอียดเป็นอย่างไร โปรดติดตาม!