บช.ก. เปิดปฏิบัติการ “CYBER GUARDIAN” หลอกเทรดหุ้นออนไลน์ รวบผู้ต้องหา 8 ราย ยึดทรัพย์กว่า 80 ล. พบเงินหมุนเวียนในกระเป๋าเงินดิจิทัลกว่า 2 พันล้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2567 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. แถลงผลจับกุม นายสายันต์ฯ อายุ 36 ปี ,นายสุธีฯ อายุ 21 ปี ,นายปภาวินฯ อายุ 24 ปี , นายพงษ์เพชรฯ อายุ 28 ปี ,น.ส.งามศิริฯ อายุ 20 ปี ,น.ส.สุวรรณีฯ อายุ 47 ปี ,น.ส.จู๋เหมยฯ อายุ 37 ปี และ นายอรรถพรฯ อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดวามเสียหายแก่ประชาชน ,สมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน”
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า ถูกคนร้ายเปิดเพจเฟซบุ๊กปลอมชักชวนให้ลงทุนเทรดหุ้นออนไลน์อ้างได้กำไรดี ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้คนร้ายหลายครั้ง รวมความเสียหายจำนวน 3,800,000 บาท ล
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้ตรวจสอบทราบว่า มีการเปลี่ยนสกุลเงินที่หลอกลวงมาได้เป็นคริปโตเคอร์เรนซี่ (USDT) ผ่านแพลตฟอร์ม Binance แล้วโอนต่อไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลต่าง ๆ จากนั้นได้แปลงเป็นทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น บ้านหรู, คอนโดมีเนียม, โฉนดที่ดิน และรถยนต์ จึงได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 12 ราย ประกอบด้วยเจ้าของบัญชีธนาคารและบัญชีคริปโตฯ (บัญชีม้า) จำนวน 4 ราย, นายหน้าจัดหาบัญชีม้าและพาข้ามแดน 3 ราย, พนักงานออฟฟิศทำหน้าที่สแกนใบหน้าและดูแลบ้านพัก ฝั่งปอยเปต 2 ราย ,กลุ่มฟอกเงินและรับผลประโยชน์ อีก 3 ราย
พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่า ต่อมา ได้มีการเปิดปฏิบัติการ CyberGuardian เข้าตรวจค้น รวม 7 จุด ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา, ตาก, สงขลา และ กรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาได้ 8 ราย โดยเป็นผู้ต้องหาในกลุ่มบัญชีม้าได้จำนวน 3 ราย, กลุ่มนายหน้าหาบัญชีม้า จำนวน 2 ราย และกลุ่มฟอกเงินและรับผลประโยชน์อีก 3 ราย ตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ บ้านหรูราคา 27 ล้านบาท 1 หลัง, รถยนต์ 2 คัน, คอนโดมีเนียมหรู 4 ห้อง, โฉนดที่ดิน ใน จ.ภูเก็ต,ตาก, เชียงใหม่ และ เชียงราย จำนวนหลายแปลง ,เงินสดกว่า 6 แสนบาท, ทองคำแท่ง และ กระเป๋าแบรนด์เนมอีกหลายรายการ รวมมูลค่า 80 ล้านบาท
พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่ากระเป๋าเงินดิจิทัล ที่ใช้รับผลประโยชน์จากการรับโอนเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายในคดีนี้ และคดีอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้พบว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ติดกับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป