สืบ ป.ป.ช.- ตร. ตามรวบผู้ต้องหาคดีขุดลอกสระห้วยหอย หนีหมายจับซุกตัว อ.เถิน ลำปาง

จนท.สืบสวน ป.ป.ช. ภาค 5-ลำปาง สนธิกำลัง ตร. รวบตัว 'อริยวรรต วิเศษพานิช' ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีขุดลอกสระห้วยหอย ขณะหลบหนีเข้าพื้นที่อำเภอเถิน เผยพฤติการณ์ไม่ตรวจควบคุมงานตามหน้าที่ แต่ลงนามเอกสารตรวจสอบผลงาน-นำตัวส่งอัยการ ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกม.แล้ว 

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข่าวจับกุมตัวนายอริยวรรต วิเศษพานิช ผู้ต้องหา คดีขุดลอกสระห้วยหอย ขณะหลบหนีหมายจับเข้ามาอยู่ในพื้นที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง

สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2567 ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 5 และนายเปรมจิต แจ่มใสดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำปาง มอบหมายให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 5 และนักสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำปาง สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเถิน จังหวัดลำปาง ปฏิบัติการสืบสวนจับกุมนายอริยวรรต วิเศษพานิช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ 9/2567 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ณ พื้นที่ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4)

โดยนายอริยวรรต วิเศษพานิช ในฐานะผู้ควบคุมงานโครงการขุดลอกสระห้วยหอย ตำบลต้าผามอก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ มิได้ตรวจและควบคุมงานตามหน้าที่ของตน แต่กลับลงนามในเอกสารรายงานประจำสัปดาห์ และเอกสารรายงานประจำวันโครงการฯ และรายงานต่อประธานกรรมการตรวจการจ้างว่าตนเองได้ทำการตรวจสอบผลงานโครงการดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ ภายหลังการจับ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 มาตรา 22 และมาตรา 23 และได้ควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับไปลงบันการทึกจับกุม และส่งมอบตัวผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับให้แก่พนักงานอัยการเพื่อฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ต่อไป 

อย่างไรก็ดี ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด