ตร.สอบสวนกลางค้น 11 จุด บ้านพนง.-คนใกล้ชิดบอส 'ดิไอคอนกรุ๊ป' ยึดรถได้อีก 4 คัน

ตำรวจสอบสวนกลางค้น 11 จุด บ้านพนักงาน-คนใกล้ชิดบอส 'ดิไอคอนกรุ๊ป' ยึดรถได้อีก 4 คัน-'พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว' จ่อเอาผิดคนให้ข้อมูลมั่ว

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2567 ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และนายตำรวจระดับสูงร่วมประชุมคดีดิไอคอน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า ยอดรวมผู้เสียหายทั่วประเทศ ที่เข้าแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. และสถานีตำรวจท้องที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10-21 ต.ค.ที่ผ่านมา พบมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความทั้งสิ้น 6,979 คน รวมความเสียหายกว่า 2,046 ล้านบาท ส่วนการขยายผลอยู่ระหว่างการสอบสวนทั้งเรื่องเส้นทางการเงิน และวิเคราะห์บัญชีการเงิน โดยวันนี้ยังมีการเข้าตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มทั้งหมด 11 จุด ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในฐานะพนักงานบริษัทและคนใกล้ชิดกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ขณะนี้อยู่ระหว่าสรุปผลปฏิบัติการ เนื่องจากต้องการข้อมูลหรือหลักฐานต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคดี สำหรับหมายจับกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 อยู่ระหว่างการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน และจะเกี่ยวข้องกับทั้ง 11 จุดที่เข้าตรวจค้นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน หากพบความชัดเจนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ตนยืนยันว่าถ้าผลการสอบสวนและหลักฐานพาดพิงไปถึงใครระดับใดก็ตาม ทุกคนก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ส่วนภรรยาของ นายกันต์ กันตถาวร มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มที่สองด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่พบในรายชื่อ และยังไม่พบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนการแยกระหว่างผู้เสียหายหรือผู้ต้องหานั้น ต้องเรียนว่าผู้เสียหายบางคน เมื่อสอบปากคำแล้วอาจจะพบว่าเป็นผู้ต้องหาในภายหลังก็จะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งหมดอยู่ระหว่างวิเคราะห์คำให้การอย่างละเอียด ผู้ที่มาแสดงตัวก็ให้สิทธิ์เป็นผู้เสียหายก่อน แต่คำให้การทั้งหมดก็จะต้องมาผ่านการวิเคราะห์เรื่องของพยานหลักฐานก่อน ส่วนกรณีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คนนั้น ขณะอยู่ระหว่างการสอบสวน หากพบความผิดอื่นเพิ่ม ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมทันที

สำหรับกรณีคลิปเสียงขบวนการรีดเงินบอสพอลนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า มอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เป็นผู้รับผิดชอบ ร่วมกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและปะพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและขยายหลักฐานทั้งหมดว่าเกี่ยวพันกับผู้ใดบ้าง แต่ขอยังไม่เปิดเผย แต่บอกได้ว่ามีการสอบปากคำบอสพอล และได้รับคำยืนยันว่าเสียงนั้นเป็นเสียงบอสพอลจริง หากตำรวจมีหลักฐานชัดเจนจะไม่ละเว้นในการดำเนินคดีอย่างแน่นอน ส่วนบุคคลใดที่จะแสดงตัว หรือแสดงความบริสุทธิ์ ก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้

ส่วนเรื่องที่บอสพอลโอนเงินเข้าบัญชีพระผู้ใหญ่หนึ่งล้านบาทจะต้องอายัดมาตรวจสอบด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ต้องดูว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ โดยต้องตรวจสอบและใช้ดุลพินิจอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง แต่หากเป็นเงินต้องสงสัยก็สามารถอายัดได้ เพราะเป็นไปตามกระบวนการสอบสวนอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาตำรวจตามอายัดทั้งอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์หรู และทรัพย์สินอื่นๆของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดกว่า 400 ล้านบาทแล้ว

“ส่วนกระแสข่าวผู้ต้องหามีการแปลงของกลางเป็นสกุลเงินดิจิตอลนั้น เรื่องนี้มีการสอบปากคำแล้ว ขอบอกว่าบุคคลที่มีชื่อเสียง หรืออินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ ควรจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะ จนทำให้เกิดความไขว้เขวต่อข้อเท็จจริงว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงปล่อยปละให้มีการถ่ายโอนทรัพย์สินในรูปแบบคริปโตฯได้ ขณะนี้กำลังตรวจสอบ ซึ่งข้อเท็จจริงก็จะปรากฏเร็วๆนี้ด้วย หากใครที่มาให้ข้อมูลเท็จต่อสื่อสาธารณะชน ก็จะต้องรับผิดชอบและถูกดำเนินคดีด้วยแน่นอน” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผบช.ก. กล่าวว่า จากที่มีข่าวปรากฏว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา ขณะนี้ทางตำรวจเองได้มีการเข้าไปตรวจสอบหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งการกระทำลักษณะนี้อาจจะเข้าข่ายการฟอกเงินด้วย โดยในส่วนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการด้วย

ส่วน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สำหรับเรื่องข้อมูลเลขบัตรประชาชนของบอสพอลที่มีขึ้นต้นด้วยเลข 5 นั้น เบื้องต้นมีการตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ พบว่าเป็นการแจ้งตกหล่นในการสำรวจ และมีการเพิ่มชื่อภายหลัง แต่ยืนยันว่าเป็นคนไทย ยังไม่พบว่าเป็นต่างด้าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตรวจค้น 11 จุด พบว่าตำรวจยึด รถ 4 คันมาจากบ้านนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เป็นชื่อบริษัท ดิ ไอคอน 1 คัน และเป็นชื่อบอสพอล 3 คัน

@ นักร้อง ยื่นเรื่องสอบว.วชิรเมธี-สคบ.

ในวันเดียวกัน นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ขอให้ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับพระคุณท่าน ว.วชิรเมธี และขอให้ตรวจสอบการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของ สคบ. กรณีการร้องเรียนบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 ปี ที่แล้ว รวมทั้งให้ตรวจสอบที่บอสพอลที่อ้างว่า มีผู้เข้าไปพูดคุยเจรจา เพื่อช่วยเหลือหรือรับเงิน เช่น ข้าราชการ นักการเมือง นักร้อง และทนายความ ว่าเป็นไปตามที่เคยมีผู้ให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีดัง เพื่อระบุตัวบุคคลทั้งหมดออกมาด้วย

และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง ตำรวจ ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ อดีตเลขาคณะกรรมการ สคบ.และพวก ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามมาตรา 157 และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องในการรับจดทะเบียนตลาดแบบตรงของ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ด้วย

@ ทนายบอสพอล ส่งคลิปนักร้องให้ตร.

ในวันเดียวกัน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เดินทางเข้าพบทีมงานของพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ตนนำคลิปวิดีโอหลักฐานวันที่บอสพอลจ่ายเงินให้แก่นักร้องเรียนผู้หญิงรายหนึ่ง มายื่นต่อทีมงานของพล.ต.ต.จรูญ เพื่อดำเนินคดี ส่วนจะเป็นข้อหาใดบ้างก็ต้องมีการพูดคุยกับตำรวจอีกครั้ง

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า สำหรับคลิปวิดีโอหลักฐานที่นำมามีความจุประมาณ 512 เมกะไบต์ ซึ่งได้จากการที่เลขาหนึ่งในบอสแอบติดกล้องเอาไว้ที่หมวก โดยคลิปดังกล่าวมีเส้นเงินที่เชื่อมโยงไปถึงบุคคลที่จะดำเนินคดีด้วย โดยมีบุคคลที่บอสพอลต้องจ่ายเงินให้กว่า 10 คน ทั้งนี้ตนได้พูดคุยกับบอสพอลแล้วทราบว่า มีผู้เรียกรับเงินจากบอสพอลกว่า 80 คน โดยเพิ่งจ่ายให้ไปเมื่อช่วงกลางปี 2567 นี้

สำหรับกรณีที่ผู้เสียหายมาร้องเรียนบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปกับนักร้องเรียนหญิงนั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า หากผู้เสียหายมองว่าบริษัททำธุรกิจขายตรงจริง นักร้องเรียนหญิงก็ควรที่จะดำเนินคดีกับบริษัทอย่างตรงไปตรงมา เช่น การแจ้งร้องเรียนต่อ สคบ. หรือ ปคบ. แต่กลับเรียกมาเจรจาเพื่อจ่ายเงินให้จบเรื่อง ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้อง

นายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ตนจะต้องขอเข้าเยี่ยมบอสผู้หญิง เพื่อนำคลิปมายื่นให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอีก ซึ่งที่ผ่านมามีการเรียกรับเงินอยู่ตลอด แต่ที่มีหลักฐานชัดเจนก็คือปีนี้ โดยวันจ่ายเงินบอสพอลไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ มีบอส 3 คนดำเนินการแทน แต่ไม่ทราบว่าจะมีคลิปอื่นที่บอสพอลอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหรือไม่ สำหรับเหตุผลที่บอสพอลยอมจ่ายเงินนั้นเพราะไม่อยากให้กระทบกับชื่อเสียง และธุรกิจ ที่ต้องแอบติดกล้องอัดคลิปนั้นก็เผื่อเกิดกรณีถูกหักหลังก็จะได่นำมาใช้เป็นหลักฐาน

"บอสทั้ง 14 คนที่ผมดูแลอยู่นั้นจะยังไม่ยื่นขอประกันตัว แต่บอสดารานั้นผมไม่ทราบว่าจะยื่นประกันตัวหรือไม่ หลังจากนี้ผมอาจจะทำคลิปหลุด โดยเป็นคลิปเสียงบุคคลหนึ่งเรียกเงิน 20 ล้านบาทแลกกับการไม่ไปออกรายการดังในช่วงไม่นานมานี้อีกด้วย เหตุที่ผมต้องออกมาเปิดเผยหลักฐานนั้นเป็นเพราะมีการโจมตีผมและลูกความ ร่วมทั้งข่มขู่ผมให้ระวังตัวไว้ เพื่อให้ผมเงียบไป ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ส่งผลต่อรูปคดี เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ” นายวิฑูรย์ กล่าว

นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า ส่วนการถูกยึดทรัพย์นั้นตนมองว่าเหมือนฝากธนาคาร หากชนะคดีแล้วก็สามารถมาขอคืนได้ แต่คงไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะชนะคดีได้ แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด สำหรับยอดเงินที่บอสพอลจ่ายไปนั้นทราบว่าเป็นจำนวน 10 ล้านบาท แต่มีในส่วนของผู้เสียหายที่มาร้องเรียนด้วย

@ 'บิ๊กเต่า' จ่อดำเนินคดีคนหิวแสง ให้ข้อมูลมั่ว

ต่อมาเวลา 17.20 น. ภายหลังจากนายวิฑูรย์ เก่งงาม ทนายความของบอสพอล เข้าพบพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อให้ข้อมูลหลักฐานวิดีโอขณะบอสพอลจ่ายเงินกับนักร้องเรียน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเหล่านักร้องเรียน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ตนเองมีการประสานข้อมูลจากบอสพอลตั้งแต่วันที่ถูกจับกุมแล้ว ซึ่งทางบอสพอลก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการให้ข้อมูลต่างๆ ที่มีกลุ่มบุคคลเข้ามาบีบบังคับขูดรีดหรือหาช่องว่างโอกาสต่างๆ มาทำให้บริษัทเดือดร้อน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการทยอยนำข้อมูลต่างๆเข้ามาให้พนักงานสืบสวนสอบสวนดำเนินการต่อไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากการที่ดูคลิปมีความเชื่อถือหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เรียกได้ว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดีในเรื่องของการสืบสวน หลักฐานในวันนี้มีทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง โดยจะขยายผลไปถึงทุกคนที่มาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักร้องหรือเจ้าหน้าที่ โดยจะบังคับใช้กฎหมาย ส่วนคลิปที่ได้มา มาจากความร่วมมือในหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์หลายช่วงหลายระยะเวลา ซึ่งตอนนี้คลิปมีจำนวนมาก จะต้องมีการไล่ดูแต่ละคลิป โดยกลุ่มรีดทรัพย์ไม่รู้ตัวว่าบอสพอลมีการบันทึกวิดีโอและเสียงไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ตนเองได้รับรายงานว่าโทรศัพท์อีกเครื่องของบอสพอลเปิดได้แล้ว แต่ไม่พบข้อมูลอะไร และในส่วนที่มีนักร้องเรียนหญิงรวบรวมผู้เสียหายทำการขอเงินคืนจาก ดิไคอน เนื่องจากขายของไม่ได้ ตรงนี้ไม่ขอไปยุ่งเกี่ยว เพราะเป็นในส่วนการทำงานของบก.ปคบ.

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เชื่อว่าผู้เสียหายที่ออกมาร้องเรียนร่วมกับนักร้อง มีแกนนำแน่นอน แต่ขอให้เป็นเรื่องของการสืบสวน ตำรวจจะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อมดำเนินคดีกับทุกคน ส่วนข้อหาว่าเข้าข่ายอะไรบ้าง หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็จะโดนเรื่องของเรียกรับผลประโยชน์ แต่ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาก็จะโดนเรื่องของกรรโชกทรัพย์ อย่างไรก็ตามจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

สำหรับที่มีบุคคลหนึ่งกล่าวอ้างว่าหนึ่งใน 18 บอส มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปเป็นเงินดิจิตอลหรือคริปโต นั้น บุคคลดังกล่าวที่มากับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้มีการสอบสวนไปแล้ว บุคคลดังกล่าวสารภาพแล้วว่าข้อมูลมั่ว ไม่มีที่มา เป็นการอุปโหลกขึ้นมา โดยอ้างว่าเป็นการถามจากเพื่อนและเสิร์ชหาทางเว็บไซต์ โดยที่ไม่มีข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเสียหายต่อหลายองค์กรที่มีการพาดพิงถึง ทั้งนี้จะต้องพิจารณาและประชุมหารือว่าจะต้องดำเนินการทางกฎหมายถึงขั้นไหนอย่างไร และส่วนนายเอกภพจะโดนด้วยหรือไม่ ก็ต้องพิจารณากันอีกครั้ง และคาดว่าที่บุคคลดังกล่าวออกมากระทำการเช่นนี้ เพราะอยากเรียกร้องความสนใจ

“ขอบคุณผู้ที่มีจิตอาสาทุกคนในการที่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ไม่อยากให้เข้ามาเพื่อหาแสง เพราะตอนนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแสงมันจ้าไปหมด คนถึงเข้ามากัน จึงขอเตือนบางคน ข้อมูลต่างๆถ้าคิดว่าจะช่วยเหลือสังคมจะต้องแม่นกฎหมาย ต้องรู้ว่าการกระทำจะไม่หมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย หากเข้ามาแล้วสร้างความวุ่นวายสร้างความไขว้เขวอันนี้ต้องว่ากัน นอกจากนี้ในเรื่องคริปโต บก.ปอศ. มีการตรวจสอบแล้วทราบว่า มีเงินไหลเวียนแบบนี้แทบทุกวันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ตรงกับช่วงเวลาดังกล่าวพอดี อย่างไรก็ต้องสืบสวนกันต่อไปอย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าเทวดามีอยู่จริง โดยเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจ แต่จะเป็นใครนั้นก็อยู่ระหว่างการสืบสวนต่อไปและสำหรับจะมีการออกหมายจับใครหรือไม่ จะเป็นพระเอกหรือนางเอก ต้องรอลุ้นเอา” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตำรวจปคบ.อายัดรถหรู LAMBORGHINI มูลค่า 22 ล. เครือข่ายดิไอคอน เพิ่มอีก 1 คัน

'บิ๊กเต่า' เผยมี 'นักร้อง' รีดเงิน 'บอสพอล' จริง ยันทำทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้

อัปเดตข้อมูลผู้เสียหาย 'ดิไอคอน' แจ้งความ 5,648 ราย ยอดเสียหายรวม 1,611 ล้านบาท

พลิกปูมชีวิตผกผัน ‘แซม ยุรนันท์’ จากนักแสดงดัง - สส. รอดคดีซุกหุ้น ก่อนปิดฉากคดีดิไอคอน? 

ตำรวจสรุปรายการยึดทรัพย์สินดิไอคอน 217.9 ล. -ศาลไม่ให้ประกันตัว 17 ผู้ต้องหา

พลังประชารัฐ ชง ‘บิ๊กป้อม’ ปลด ‘สามารถ’ พ้น รองโฆษกพรรค เซ่น คลิป ‘ดิไอคอน’

ปปง.สั่งอายัดเพิ่มอีก 1.5 ล้านบาท 'ดิไอคอน' หลังพบโอนยักย้ายหลักทรัพย์

ปปง.อายัดอีก 48 ล้าน ทรัพย์สิน ‘ดิไอคอนฯ’ - ปมคริปโทฯ 8 พันล. รอตรวจสอบ

สภาผู้บริโภค ขอให้มีคนนอกร่วมในคณะกรรมการสอบ สคบ.เอี่ยว ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’

คดีดิไอคอนฯ ผู้เสียหายพุ่ง 2,170 คน เสียหายแล้ว 841 ล้านบาท

‘DSI’ บุก รัง โปรแกรมเมอร์ เว็บไซต์ ‘ดิไอคอน’ คาดซุกข้อมูลสมาชิก 3 แสนราย

DSI อายัดที่ดิน ‘ดิไอคอน’ 3 แปลง 68 ไร่ จนกว่าจะตรวจสอบเสร็จ-แจงที่มาได้

‘เวิร์คพอยท์ ประกาศ ยุติสัญญา ‘กันต์’ เซ่น ‘ดิไอคอน’

รักษาการอธิบดี DSI เรียกประชุมด่วน ถกแนวทางรับ 'ดิไอคอน' เป็นคดีพิเศษ

'บอสพอล-กันต์' โดนแล้ว! ปปง.ประเดิมออกคำสั่งอายัดทรัพย์ คดี 'ดิไอคอน' 125 ล.