ป.ป.ช.เผยความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ทำนอง ไชยโย' อดีตนายก อบต.ห้วยฝ้ายพัฒนา อุบลราชธานี เรียกรับเงินค่าตอบแทนในการรับเข้าทำงานตำแหน่ง แม่บ้านคนครัว ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาลงโทษ จำคุก 5 ปี ส่วนพวก 1 ราย โดน 2 ปี 16 เดือน แต่ได้รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายทำนอง ไชยโย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยฝ้ายพัฒนา อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี และพวก คือ นางยุพิน ฤทธิธรรม เรียกรับเงินเป็นค่าตอบแทนในการรับเข้าทำงานเป็นพนักงานจ้างทั่วไปในตำแหน่ง แม่บ้านคนครัว ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157 พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2564
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายทำนอง ไชยโย จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 149 (เดิม) พ.ร.ป. ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 172
2. นางยุพิน ฤทธิธรรม จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 149 (เดิม) พ.ร.ป.ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86
3. การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตาม ป.อ. มาตรา 149 (เดิม) ลงโทษจำเลยที่ 2 ตาม ป.อ. มาตรา 149 (เดิม) ประกอบมาตรา 86 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ. มาตรา 90
- จำคุก นายทำนอง ไชยโย จำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี
- จำคุก นางยุพิน ฤทธิธรรม จำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 16 เดือน และปรับ 40,000 บาท
4. ไม่ปรากฎว่า จำเลยที่ 2 เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนเห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็น พลเมืองดีโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยที่ 2 โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 4 เดือนต่อครั้ง กับให้กระทำกิจกรรมบริการสังคม หรือสาธารณประโยชนตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็น เวลา 72 ชั่วโมง จนกว่าจะครบกำหนดคุมความประพฤติ
ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งสอง มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2567 มีมติเห็นพ้องกับความเห็นของอัยการสูงสุด (อสส.) ที่จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านประกอบ :