ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สามารถ ใจสมุทร' อดีตผอ.สนง.ทรัพยากรน้ำภาค 8 เรียกรับเงินผู้ประสงค์ได้งาน 4 โครงการ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี ไม่รอการลงโทษ หลังเจ้าตัวรับสารภาพ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสามารถ ใจสมุทร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 เรียกรับเงินจากผู้ประสงค์จะรับงานตามโครงการของสำนกังานทรัพยากรน้ำภาค 8 จำนวน 4 โครงการ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา 149 และ 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2563
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาว่า นายสามารถ ใจสมุทร จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 149
ลงโทษจำคุก 8 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 4 ปี ไม่รอการลงโทษ
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามที่อัยการสูงสุดหารือไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 เห็นควรไม่อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
เกี่ยวกับคดีนี้ ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 สำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดสงขลา ได้แถลงข่าวมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายสามารถ ใจสมุทร เป็นทางการ ระบุว่ามีการเรียกรับเงินจากผู้ประสงค์รับทำงานตามโครงการของสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 จำนวน 4 โครงการ ดังนี้ 1. โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำตำบลช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส วงเงินงบประมาณ 8,972,900 บาท 2.โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำกะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส วงเงินงบประมาณ 5,567,100 บาท 3.โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำตำอาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา วงเงินงบประมาณ 10,610,200 บาท และ 4. โครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำบ้านเทพา อ.เทพา จ.สงขลา วงเงินงบประมาณ 9,591,800 บาท
จากการตรวจสอบไต่สวนพบพฤติการณ์กระทำความผิด คือ เมื่อเดือนมีนาคม 2554 ผู้ถูกกล่าวหาได้เรียกรับเงินเพื่อให้เป็นผู้มีสิทธิเข้าทำสัญญาเป็นผู้รับจ้างในโครงการของสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 จำนวน 4 โครงการดังที่กล่าวมา โดยเรียกรับเงินจำนวน 30% ของงบประมาณ หากได้เข้าทำสัญญาจะเรียกเก็บอีก 2% แต่ผู้กล่าวหามิได้ตกลงด้วย
โดยจากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงที่เชื่อได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาได้เรียกรับเงินจากผู้กล่าวหาจริง ตามที่ปรากฏหลักฐาน คือ กลุ่มผู้กล่าวหาจำนวน 3 ราย ได้ไปพบผู้ถูกกล่าวหาที่ห้องทำงานผอ.สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 หลายครั้ง เพื่อพูดคุยงานโครงการของสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 ในการพูดคุยนั้นผู้ถูกกล่าวหาจะให้งานแก่กลุ่มผู้กล่าวหาจำนวน 4 โครงการที่กล่าวมา แต่บุคคลทั้ง 3 ต้องจ่ายเงิน 32% ของงบประมาณโครงการให้แก่ผู้ถูกกล่าวหา
การเข้าพบผู้ถูกกล่าวหาแต่ละครั้ง ได้มีการบันทึกเสียงผู้ถูกกล่าวหาไว้ โดยมีการมอบไฟล์บันทึกเสียง จำนวน 10 ไฟล์ จากการตรวจสอบพิสูจน์ไฟล์เสียงไม่พบร่องรอยการตัดต่อแต่อย่างใด และมีข้อมูลจากพยานรายหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้กล่าวหาทั้ง 3 ราย และเป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้ถูกกล่าวหา ได้อยู่ในเหตุการณ์ในขณะสนทนาด้วย ให้ถ้อยคำว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้ร้องขอให้ช่วยพูดคุย และอ้างตัวว่าเป็นฝ่ายการเมืองเพื่อให้มีความสมจริงและมีความน่าเชื่อถือ และยังให้ถ้อยคำยืนยันว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์เรียกรับผลตอบแทนจากกลุ่มผู้กล่าวหาจริง โดยพยานรายดังกล่าวได้มีการตรวจสอบข้อความที่ถอดจากไฟล์บันทึกเสียง และให้ถ้อยคำยืนยันว่าไฟล์เสียงสอดคล้องกับถ้อยคำที่อยู่ขณะสนทนาจริง ถือว่าเป็นหลักฐานสนับสนุนเพียงพอ
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังได้พิจารณาสำนวนคดีกรณีผู้ถูกกล่าวหารายเดียวกันนี้ ระบุว่าผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ มีทรัพย์สินมากผิดปกติ รวมมูลค่า 113 ล้านบาท ประกอบด้วย สลากออมสินพิเศษ ธนาคารออมสิน จำนวน 107 ล้านบาท หุ้นกู้ได้สิทธิ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กว่า 7 แสนบาท ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่า 3.5 ล้านบาท ยานพาหนะ 1.2 ล้านบาท โดยศาลจังหวัดสงขลาได้มีคำพิพากษาตามคดีหมายเลขแดง ที่1715/2559 เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2559 ว่า ผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ สืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ
อ่านประกอบ :