"...เหล่านี้เป็นรายชื่อข้าราชการระดับสูง 57 ราย ตั้งแต่ 'ผู้บัญชาการเหล่าทัพ' ไปจนถึงข้าราชการระดับ 'ปลัดกระทรวง' และ 'อธิบดี' ที่จะเกษียณอายุฯในวันที่ 30 ก.ย.2566 ก่อนที่ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย 'ภูมิธรรม เวชยชัย' จะออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการยุติการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงทุกตำแหน่ง..."
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ในนามพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการยุติการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงทุกตำแหน่ง เนื่องจากเป็นช่วงระยะเปลี่ยนผ่านที่จะมีรัฐบาลใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง จะเข้ามาบริหารประเทศนั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รวบรวมรายชื่อข้าราชการระดับสูงที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.2566 พบว่ามีข้าราชการระดับสูงจำนวน 57 ราย ทั้งในหน่วยงานด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
@ หน่วยงานด้านความมั่นคง มีผู้บัญชาการทหารเหล่าทัพที่จะเกษียญอายุฯ 4 ราย ได้แก่
พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการกองทัพไทย (ผบ.ทสส.) , พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการกองทัพบก (ผบ.ทบ.) , พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือ (ผบ.ทร.) และ พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ (ผบ.ทอ.)
ส่วนกรอบระยะเวลาในการแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารทั้ง 4 เหล่าทัพคนใหม่นั้น ตามขั้นตอนแล้วจะมีการส่งบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ ให้กระทรวงกลาโหมไม่เกินวันที่ 15 ส.ค.นี้ ก่อนนำเข้าการพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม หรือที่เรียกว่า 'บอร์ด 7 เสือกลาโหม' ต่อไป
ขณะที่ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนปัจจุบัน จะครบกำหนดเกษียณอายุฯในวันที่ 30 ก.ย.2566 เช่นกัน
4 ผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่จะเกษียณปี 2566 นี้
ภาพจาก : สยามรัฐ
@กระทรวงเศรษฐกิจเกษียณอื้อ 31 ตำแหน่ง
ขณะเดัยวกัน เมื่อพิจารณารายชื่อข้าราชการระดับสูงในกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า มีข้าราชการระดับ 'ปลัดกระทรวง' ที่จะเกษียณอายุในวันที่ 30 ก.ย.2566 ได้แก่ ปลัดกระทรวงการคลัง และปลัดกระทรวงพลังงาน รวมทั้งมีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเศรษฐกกิจที่จะเกษียณอายุฯ รวม 31 ราย ดังนี้
กระทรวงการคลัง มีข้าราชการะดับสูงที่จะเกษียณอายุจำนวน 7 ราย ประกอบด้วย
1.นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวง(นักบริหารสูง)
2.นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข รองปลัดกระทรวง(นักบริหารสูง)
3.นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวง(นักบริหารสูง)
4.นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวง(ผู้ตรวจราชการกระทรวงสูง)
5.นางชลิดา พันธ์กระวี ผู้ตรวจราชการกระทรวง(ผู้ตรวจราชการกระทรวงสูง)
6.นายเอด วิบูลย์เจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง(ผู้ตรวจราชการกระทรวงสูง)
7.นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)
กระทรวงพลังงาน มีข้าราชการระดับสูงที่จะเกษียณอายุราชการ 3 ราย ประกอบด้วย
1.นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน
2.นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน
3.นายสุรีย์ จรูญศักดิ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง (ซ้าย) และกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน (ขวา) 2 ปลัดกระทรวงด้านเศรษฐกิจที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2566 นี้
กระทรวงพาณิชย์ มีข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุราชการ 4 ราย ดังนี้
1.นายวันชัย วราวิทย์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์
2.นายทศพร ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
3.นายกำแหง กล้าสุคนธ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
4.นางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กระทรวงอุตสาหกรรม มีรายชื่อข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุ 6 ตำแหน่ง ดังนี้
1.นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
2.นายทาวัน ทวีถาวรสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม
3.นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
4.นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
5.นางสุชาดา โพธิ์เจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
6.นายสหวัฒน์ โสภา รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
กระทรวงคมนาคม มีรายชื่อข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุ 1 ราย คือ
นายปริญญา แสงสุวรรณ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.)
อย่างไรก็ตาม มีข้าราชการะดับสูงในกระทรวงคมนาคม ที่จะดำรงตำแหน่งครบ 4 ปี จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) และนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน 2551 มาตรา 58 ระบุว่า ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารผู้ใด ปฏิบัติหน้าที่เดียวติดต่อกันเป็นเวลาครบ 4 ปี ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ดำเนินการให้มีการสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอนไปปฏิบัติหน้าที่อื่น เว้นแต่มีความจำเป็น เพื่อประโยชน์ของทางราชการจะขออนุมัติคณะรัฐมนตรีให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่เดิมต่อไป เป็นเวลาไม่เกินสองปีก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. กำหนด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุราชการ 8 ราย ดังนี้
1.นายสุรเดช สมิเปรม รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2.นายขจร เราประเสริฐ ผู้ตรวจราชการ
3.นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน
4.นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง
5.นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
6.นายประกอบ เผ่าพงศ์ อธิบดีกรมหม่อนไหม
7.นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
8.นายเอกพงศ์ น้อยสร้าง รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีข้าราชการะดับสูงเกษียณ 2 ราย คือ นางสาวดารณี ลิขิตวรศักดิ์ รองปลัดกระทรวง และนางสาววันทนา แจ้งประจักษ์ รองปลัดกระทรวง
@กระทรวงสังคมเกษียณอย่างน้อย 22 คน ปลัดแรงงานรวมด้วย
ขณะที่กระทรวงในด้านสังคม พบว่ามีข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุในวันที่ 30 ก.ย.2566 อย่างน้อย 22 ราย ดังนี้
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มี 6 ราย ประกอบด้วย นายสุทิน แก้วพนา รองปลัดกระทรวง, นายทวีศักดิ์ เที่ยงธรรม ผู้ตรวจราชการ, นางสาวเจริญวรรณ หนูนาค ผู้ตรวจราชการ, นางสุปราณี นฤนาทนโรดม ผู้ตรวจราชการ, นายพีระศักดิ์ รัตนะ ผู้ตรวจราชการ และนายอัมพร พินะสา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มี 5 ราย ประกอบด้วย นางสาวอังคณา ใจกิจสุวรรณ รองปลัดกระทรวง, นางสาวอุไร เล้กน้อย ผู้ตรวจราชการ, นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ, นางจินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และนางสาวรุ่งทิวา สุดแดน รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
กระทรวงแรงงาน (รง.) มี 5 ราย ประกอบด้วย นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวง, นายประทีป ทรงลำยอง รองปลัดกระทรวง, นางต้องใจ สุทัศน์ ณ อยุธยา ผู้ตรวจราชการ, นางดรุณี นิธิทวีกุล ผู้ตรวจราชการ และนายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มี 1 คน ได้แก่ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
กระทรวงยุติธรรม มี 5 ราย ประกอบด้วย นางอรัญญา ทองน้ำตะโก รองปลัดกระทรวง, นายนิมิต ทัพวนานต์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ, นางสาวพัชรศรี ศรีเมือง ผู้ตรวจราชการ, นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี และนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์
@ครม.รักษาการตั้งปลัดกระทรวงได้
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยกับสื่อว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2566 รับทราบเกี่ยวกับแนวทางการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงในช่วงที่ยังเป็นรัฐบาลรักษาการและยังไม่มี ครม.ชุดใหม่ โดยนายวิษณุ ระบุว่า รัฐบาลรักษาสามารถแต่งตั้งข้าราชการระดับปลัดกระทรวงทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการได้
"นายวิษณุรายงาน ครม. ว่า เนื่องจากในเดือน ก.ย.2566 จะมีข้าราชการระดับปลัดกระทรวงเกษียณอายุราชการ จึงมีแนวทางให้รัฐมนตรีว่าการในกระทรวงที่มีปลัดกระทรวงเกษียณอายุราชการ สามารถเสนอแต่งตั้งปลัดกระทรวงคนใหม่เพื่อมาทำหน้าที่แทนปลัดกระทรวงที่เกษียณอายุเพื่อให้ ครม.พิจารณาได้
เมื่อ ครม. พิจารณาแล้วเสร็จก็จะส่งต่อไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยจะสามารถแต่งตั้งได้เฉพาะปลัดกระทรวงที่จะเกษียณเท่านั้น ไม่สามารถแต่งตั้งอธิบดีในกรมต่างๆที่จะเกษียณอายุราชการได้ ส่วนตำแหน่งนักบริหารระดับสูงที่เป็นระดับซี 11 อื่นๆ เช่น เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สามารถเสนอแต่งตั้งรองเลขาธิการได้ เนื่องจากเลขาธิการเป็นตำแหน่งเทียบเท่าปลัดกระทรวง" นางณัฐฏ์จารี ระบุ
นางณัฐฏ์จารี ยังระบุด้วยว่า ในส่วนการเสนอตั้งอธิบดีแทนตำแหน่งที่จะว่างลงนั้น ให้ปลัดกระทรวงที่อยู่ในตำแหน่งสามารถแต่งตั้งอธิบดีได้ แต่หากเป็นกระทรวงฯที่ปลัดจะเกษียณอายุราชการ จะไม่สามารถแต่งตั้งอธิบดีได้ จนกว่าจะมีปลัดกระทรวงฯคนใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่งก่อน และคงไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง หากจะให้ปลัดกระทรวงฯที่จะเกษียณอายุเป็นคนที่แต่งตั้งอธิบดีไว้ในลักษณะทิ้งทวน
ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ภาพจาก: สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเดือน มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา นายวิษณุ ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบถึงกรอบเวลาการได้มาซึ่ง ครม.ใหม่ โดยในครั้งนั้นมีการประเมินว่า ครม.ชุดรักษาการที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งในวันที่ 11 ส.ค.2566 นี้ และคาดหมายว่าหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้งแล้ว จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 25 ก.ค.2566
จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกประธานรัฐสภา และกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต่อไป โดยคาดการณ์ว่าจะเลือกนายกฯได้ในวันที่ 3 ส.ค. 2566 และตามกระบวนการน่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ในการตั้ง ครม. และเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ซึ่งเป็นการทำงานวันสุดท้ายของ ครม.ชุดรักษาการปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม จนปัจจุบัน (14 ส.ค.) ปรากฎว่าที่ประชุมสภาฯก็ยังไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ ทำให้ยังไม่มี ครม.ชุดใหม่ เข้ามาบริหารประเทศ ในขณะที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ที่มีเนื้อหาว่า
“คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 167 (2) และต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามมาตรา 168 ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(2) ไม่แต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำหรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือพ้นจากตำแหน่ง หรือให้ผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน”
เหล่านี้เป็นรายชื่อข้าราชการระดับสูง 57 ราย ตั้งแต่ 'ผู้บัญชาการเหล่าทัพ' ไปจนถึงข้าราชการระดับ 'ปลัดกระทรวง' และ 'อธิบดี' ที่จะเกษียณอายุฯในวันที่ 30 ก.ย.2566 ก่อนที่ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย 'ภูมิธรรม เวชยชัย' จะออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการยุติการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงทุกตำแหน่ง
ส่วนการเรียกร้องของ 'พรรคเพื่อไทย' จะมีผลเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ ต้องจับตาดูกันต่อไป