"...การเบิกค่าใช้จ่ายดังกล่าว ธพว. อาศัยอำนาจตามคำสั่ง ธพว. ที่ 238/2553 ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2553 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศและต่างประเทศ นั้น ตามคำสั่งดังกล่าวให้สิทธิเฉพาะพนักงาน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการ และกรรมการผู้จัดการเท่านั้น ที่มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่าย อีกทั้งจะต้องเป็นการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามภาระหน้าที่การปฏิบัติงานของ ธพว. แต่การไปร่วมงานศพเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นประเพณีปฏิบัติ ไม่ใช่การปฏิบัติงานตามหน้าที่หรือภารกิจของ ธพว...."
กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลเรื่องกล่าวหา นายมงคล ลีลาธรรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ (ซีอีโอ)ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) กับพวก ร่วมกันอนุมัติให้ใช้งบประมาณของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เป็นค่าใช้จ่ายในการร่วมงานศพมารดาประธานกรรมการ ธพว. โดยมิชอบหรือโดยทุจริตนั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า ในช่วงเดือนตุลาคม 2560 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือแจ้งถึงประธานกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เพื่อแจ้งให้ทราบถึงปัญหาการไม่ปฏิบัติตามระเบียบในการเบิกค่าใช้จ่ายการเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพมารดาของประธานกรรมการ ธพว. ดังกล่าว ของผู้บริหาร ธพว. พร้อมขอให้เรียกเงินจากผู้ที่เบิกเงินไปโดยไม่มีสิทธิ์คืน ธพว. รวมเป็นเงิน 184,377 บาท
โดยสาเหตุที่ สตง. มีหนังสือแจ้งประธานกรรมการ ธพว. เรียกคืนเงินค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพมารดาของประธานกรรมการ ธพว. ดังกล่าว เนื่องจากการเบิกค่าใช้จ่ายการเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพฯ ระบุว่า เป็นไปตามคำสั่งเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติการดำเนินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศและต่างประเทศ แต่คำสั่งดังกล่าวให้สิทธิเฉพาะ พนักงาน ผู้ช่วยกรรมการ รองกรรมการ ผู้จัดการ และกรรมการผู้จัดการเท่านั้น อีกทั้งจะต้องเป็นการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามภาระหน้าที่การปฏิบัติงานของ ธพว. แต่การไปร่วมงานศพเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นประเพณีปฏิบัติ ไม่ใช่การปฏิบัติงานตามหน้าที่หรือภารกิจของ ธพว.
ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสอบสวนคดีนี้
ต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดฉบับเต็มในหนังสือ สตง. ที่ทำถึงประธานกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เพื่อแจ้งให้ทราบถึงปัญหาการไม่ปฏิบัติตามระเบียบในการเบิกค่าใช้จ่ายการเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพมารดาของประธานกรรมการ ธพว. ดังกล่าว ของผู้บริหาร ธพว. พร้อมขอให้เรียกเงินจากผู้ที่เบิกเงินไปโดยไม่มีสิทธิ์คืน ธพว. รวมเป็นเงิน 184,377 บาท ดังกล่าว
*****************
หนังสือ สตง. ที่ ตผ 0023/4299 ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2560
เรื่อง การเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปร่วมงานศพมารดาของประธานกรรมการ ธพว. ในระหว่าง วันที่ 23-26 มกราคม 2560
เรียน ประธานกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศโทย
ด้วยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยสำนักตรวจสอบการเงินที่ 1 ได้ตรวจสอบกรณีการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปร่วมงานศพมารดาของประธานกรรมการ ธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ระหว่างวันที่ 23-26 มกราคม 2560 ณ วัดแสนหลวง ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่
จากการตรวจสอบพบว่า ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ได้เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพมารดาของประธานกรรมการ ธพว. ในวันที่ 23 มกราคม 2560 และได้ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 26 มกราคม 2560
โดยกรรมการผู้จัดการได้มีหนังสือเชิญประธานกรรมการบริหาร ธพว. กรรมการ ธพว. ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญของ ธพว. และอนุมัติให้ผู้บริหารและพนักงานของ ธพว. เดินทางไปร่วมงานศพโดยเบิกค่าใช้จ่ายจากเงินงบประมาณของ ธพว. เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าพาหนะ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าอาหารและเครื่องดื่ม
ซึ่ง ธพว. ชี้แจงโดยส่งเอกสารใบเบิกค่าใช้จ่ายประกอบการตรวจสอบ รวม 143,197 บาท ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม ค่าทำบุญ ค่าพิธีสงฆ์ ค่าถวายปัจจัยพระสงฆ์ รวมเป็นเงิน 25,000 บาท
แต่จากการตรวจสอบพบว่า ธพว. มีการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าพาหนะ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าอาหารและเครื่องดื่ม เป็นเงิน 159,377 บาท เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมฯ จำนวน 25,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 184,377 บาท
ซึ่งการเบิกค่าใช้จ่ายดังกล่าว ธพว. อาศัยอำนาจตามคำสั่ง ธพว. ที่ 238/2553 ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2553 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศและต่างประเทศ นั้น ตามคำสั่งดังกล่าวให้สิทธิเฉพาะพนักงาน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการ และกรรมการผู้จัดการเท่านั้น ที่มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่าย อีกทั้งจะต้องเป็นการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามภาระหน้าที่การปฏิบัติงานของ ธพว.
แต่การไปร่วมงานศพเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นประเพณีปฏิบัติ ไม่ใช่การปฏิบัติงานตามหน้าที่หรือภารกิจของ ธพว.
ดังนั้น ผู้ที่ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานและผู้บริหารและพนักงาน ธพว. ที่ได้รับอนุมัติให้เดินทางไปร่วมงานศพมารดาของประธานกรรมการ ธพว. จึงไม่มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปร่วมงานตามคำสั่งที่ 238/2553 และไม่มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม ค่าทำบุญ ค่าพิธีสงฆ์ ค่าถวายปัจจัยพระสงฆ์ จากเงินงบประมาณของ ธพว.
การที่ นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ อนุมัติให้เดินทางไปร่วมงานศพ รามทั้งเบิกค่าใช้จ่ายดังกล่าว จึงไม่เป็นไปตามระเบียบและคำสั่งของ ธพว.
จึงขอให้ดำเนินการดังนี้
1. เรียกเงินคืนจากผู้ที่เบิกเงินไปโดยไม่มีสิทธิ รวมเป็นเงิน 184,377 บาท นำส่งคืน ธพว.
2. แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามควรแก่กรณีกับผู้เกี่ยวข้อง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการ และแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทราบภายใน 30 วัน เพื่อประกอบการตรวจสอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐรรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 (ดูหนังสือฉบับเต็มประกอบ)
หลังจากนั้น เรื่องก็เงียบหายไป
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 65 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แถลงผลมติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลเรื่องกล่าวหา นายมงคล ลีลาธรรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ (ซีอีโอ)ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) กับพวก ร่วมกันอนุมัติให้ใช้งบประมาณของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เป็นค่าใช้จ่ายในการร่วมงานศพมารดาประธานกรรมการ ธพว. โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เป็นทางการ
@ มงคล ลีลาธรรม
ขณะที่ นายมงคล ลีลาธรรม อดีตกรรมการผู้จัดการ ธพว.ชี้แจงข้อมูลอีกด้านต่อสำนักข่าวอิศรา ยืนยันว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด เข้าใจว่าเรื่องนี้มันต้องมีหนังสือแจ้งมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่ได้รับ
เมื่อถามย้ำเกี่ยวกับข้อกล่าวหาร่วมกันใช้งบประมาณ จัดงานศพแม่ ประธาน ธพว. นายมงคล กล่าวสั้น ๆ ว่า "ขอดูรายละเอียดก่อน เพราะว่าเรื่องมันตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว ก็คงต้อง ยืนยันความสุจริตของตัวเองไป เพราะไม่เคยไปทำอะไรในเรื่องของการเอื้อผลประโยชน์แต่อย่างใด"
"ส่วนตัวก็ต้องขอบอกว่าคงต้องขอดูหนังสือก่อน ไม่อยากพูดอะไรมาก" นายมงคลระบุ
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ผลการต่อสู้คดีนี้ ในชั้นศาลจะออกมาเป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป
อ่านประกอบ :
- สตง.สั่งเรียกเงินคืน1.8 แสน! เบื้องลึกคดีจัดงานศพแม่ ปธ.ธพว.ก่อน ป.ป.ช.ชี้มูล
- ไม่เคยเอื้อปย.! 'มงคล ลีลาธรรม' แจงถูกป.ป.ช.ชี้มูลคดีจัดงานศพแม่ ปธ.ธพว.ขอดูเอกสารก่อน
- ป.ป.ช.แถลงชี้มูลเพียบ-ฟันอดีต กก.ผจก.ธพว. 2 คดี-อนุมัติงบ จัดงานศพแม่ ปธ.ธนาคาร