เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'จุมพล กุลจิราพงศ์' อดีตผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตาก เบียดบังเงินค่าจำหน่ายสินค้าเรือนจำไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน พวก 2 ราย โดน 3 ปี 9 เดือน- ได้รอลงอาญา 1 คน-ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายจุมพล กุลจิราพงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตาก กับพวก คือ นายอาทิตย์ ฟักทอง และนายดำรงค์เดช ยารังสี เบียดบังเงินค่าจำหน่ายสินค้าของเรือนจำจังหวัดตากไปเป็นประโยชน์ส่วนตน
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 157 ประกอบมาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2562
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาว่า นายจุมพล กุลจิราพงศ์ จำเลยที่ 1 นายอาทิตย์ ฟักทอง จำเลยที่ 2 และนายดำรงค์เดช ยารังสี จำเลยที่ 3 มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 147 ประกอบมาตรา 83
ลงโทษจำคุกละคน 5 ปี ปรับนายดำรงค์เดช ยารังสี จำเลยที่ 3 เป็นเงิน 12,000 บาท อีกสถานหนึ่ง
นายจุมพล กุลจิราพงศ์ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ.มาตรา 78 คงจำคุกจำเลขที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 6 เดือน
นายอาทิตย์ ฟักทอง จำเลยที่ 2 ยอมรับผิดชำระค่าเสียหายมีเหตุบรรเทาโทษให้กึ่งหนึ่งตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 3 ปี 9 เดือน
นายดำรงค์เดช ยารังสี จำเลยที่ 3 ให้การและสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ.มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 3 ปี 4 เดือน และปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงิน 8,000 บาท อีกสถานหนึ่ง
รอการลงโทษจำเลยที่ 3 ไว้กำหนด 2 ปี ตาม ป.อ.มาตรา 56 (ที่แก้ไขใหม่) หากจำเลยที่ 3 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ.มาตรา 29, 30
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ลงมติไม่เห็นพ้องกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์ เห็นควรอุทธรณ์ให้ไม่รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 3
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน