“...ผมยอมรับผิด และยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร จะจำคุกผมตลอดชีวิต แต่ผมขอให้การว่า ผมไม่ได้มีเจตนาฆ่าน้อง แต่เจตนาตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประชาชนไม่ให้ลูกหลานคนนคสวรรค์ติดยา ต้องกราบขอโทษประชาชนทุกคน ผมตั้งใจทำงานจริงๆ แต่พลาดไป กราบขอโทษพ่อแม่ผู้ตายเพราะตนไม่มีเจตนา และใจจริงก็ทราบว่าไม่ได้ตายเพราะการที่เราไปคลุมหัวเพื่อต้องการเอาข้อมูลยาเสพติด และกราบขอโทษผบ.ตร. และตำรวจทุกคน องค์กรตำรวจยังมีคนดีๆ เยอะ ผมผิดเอง..."
..................................
ในการเปิดแถลงข่าวการจับกุมตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ พร้อมกับทีมตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชา เนื่องจากทั้งหมดมีส่วนพัวพันกับคดีคลุมถุงฆ่าผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ช่วงค่ำวันที่ 26 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา
โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) และพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ทำหน้าที่เป็นผู้นำการเปิดแถลงข่าว นั้น
สามารถประมวลสรุปข้อมูลสำคัญได้ดังต่อไปนี้
@ การเข้ามอบตัว
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ถึงเบื้องหลังการติดต่อเข้ามอบตัวของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ว่า เวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 25 สิงหาคม ผกก.โจ้ โทรมาหาตน พูดว่า
“พี่เอกครับผมโจ้ ผมไม่ไหวแล้ว ผมจะฆ่าตัวตาย"
"ผมจึงบอกว่ามึงตายแล้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเหลืออะไร ถ้าเป็นลูกผู้ชายจริง กลับมารับผิดชอบสิ่งที่ทำ กลับมาชี้แจ้งสังคม"
"ถ้าคุณเป็นตำรวจต้องมีเกียรติ ผิดต้องยอมรับผิด หนีไปไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา มีแต่เลวร้าย"
"เขาก็บอกผมว่า พรุ่งนี้พี่มารับผมที่ชลบุรี ตนออกจากจ.พิษณุโลก ประมาณ 09.00 น. ต่อมา 12.00 น. มีโทรศัพท์เข้า ถามว่าพี่มารับผมหรือเปล่า ผมก็บอกว่ากำลังไป อีกประมาณ 2-3 ชั่วโมงถึง เขาก็บอกว่า 16.00 น. ไปพี่ไปรอที่หน้าสภ.แสนสุข พี่มายืนคนเดียว อย่ามีอาวุธนะ"
"ผมก็มายืนอยู่หน้าโรงพักประมาณ 15 นาที ก็มีรถเก๋งสีขาวมาจอด มีคนลงมาจากรถบอกว่าพี่ครับผมโจ้ ผมจึงเข้าไปทำบันทึกลง ปจว. ในสภ.แสนสุข จากนั้นนำตัว ผกก.โจ้ มาส่งที่กองปราบ แต่จำไม่ได้ว่าทะเบียนรถยนต์หมายเลขอะไร”
@ การโฟนอินตอบคำถามสื่อมวลชน ของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้
สำหรับการโฟนอินตอบคำถามสื่อมวลชน ของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ นั้น สามารถถอดคำชี้แจงแบ่งออกเป็นประเด็นสำคัญ ๆ ได้ดังต่อไปนี้
@ การต่อสู้คดี
"ขอให้การในชั้นศาล" (ตอนชี้แจง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ระบุว่า นั่งอยู่กับทนายความส่วนตัว)
@ ข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"วันเกิดเหตุลูกน้องมาแจ้งตนว่าจับผู้ต้องหายาเสพติดมาได้ และเจอโทรศัพท์เพิ่งถ่ายรูปก่อนหน้านี้ 2 ชั่วโมง มีไอซ์ 1 กิโลกรัมและยาบ้า เกือบ 2 หมื่นเม็ด ผมเห็นว่าเป็นเคสใหญ่จึงลงมาดู พยายามสอบถามแล้วผู้ต้องหาไม่ยอมบอกความจริง จึงทำไปโดยไม่ถูกต้อง"
@ เจตนา
"แต่สิ่งที่ทำเพื่อต้องการเอาข้อมูลยาเสพติดที่ทำลายพี่น้องประชาชนใน จ.นครสวรรค์"
"เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการตัดสินใจของผมคนเดียว ลูกน้องห้ามแล้ว ขอยอมรับผิดทุกประการ ตั้งใจทำงานแต่ทำพลาดไป ต้องการที่จะหาของ เพราะทราบว่าของมันเยอะ เจ้าของเป็นพ่อค้าในภาคกลาง"
@ เรื่องการรีดเงิน 2 ล้าน
"ไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง"
"สำหรับเงินหนึ่งล้านบาทนั้น ขอสาบานกับพระที่ห้อยคอว่าชีวิตรับราชการมาไม่เคยทุจริตเรื่องเงิน"
@ ให้ผลประโยชน์กับพ่อผู้เสียชีวิต
"ไม่มีการให้ผลประโยชน์กับพ่อผู้เสียชีวิต ให้อย่างเดียวคือช่วยทำบุญงานศพไป 3 หมื่นบาท"
@ ถูกตบทรัพย์แลกการไม่เผยแพร่คลิป
"ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว"
@ ยอมรับผิด
"ส่วนลูกน้องนั้นตนสั่งเอง ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ลูกน้องไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและห้ามตนแล้ว เพราะตนเป็นนายสั่งลูกน้องก็ต้องทำ"
"ส่วนที่เอาถุงพลาสติกครอบหัวนั้นเจตนาเพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาเห็นหน้า และเขาเอามือพยายามฉีกถุง จึงเอามือพ่ายหลังไว้ ก่อนหน้าไม่เคยซ้อมทรมารผู้ต้องหา ครั้งนี้เป็นครั้งแรก"
" ตอนที่ผู้ต้องหาสลบไปตนตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงเอาผ้าเช็ดเพื่อให้เขาตื่น และจับชีพจรยังหายใจอยู่ จึงให้ลูกน้องช่วยซีพีอาร์ ก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งหลังจากน้องเสียชีวิตสาเหตุที่ไม่ได้ทำให้ข้อเท็จจริงถูกต้อง เพราะตกใจเลยปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร
"ส่วนที่แจ้งหมอว่าเขาเสพยาเสพติดเกินขนาด เพราะคุยกับแฟนเขาเสพยาแต่ละวันเยอะจริง และเขานอนน้อย จึงคาดสาเหตุน็อคจากการเสพยา"
“ผมยอมรับผิด และยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร จะจำคุกผมตลอดชีวิต แต่ผมขอให้การว่า ผมไม่ได้มีเจตนาฆ่าน้อง แต่เจตนาตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประชาชนไม่ให้ลูกหลานคนนคสวรรค์ติดยา ต้องกราบขอโทษประชาชนทุกคน ผมตั้งใจทำงานจริงๆ แต่พลาดไป กราบขอโทษพ่อแม่ผู้ตายเพราะตนไม่มีเจตนา และใจจริงก็ทราบว่าไม่ได้ตายเพราะการที่เราไปคลุมหัวเพื่อต้องการเอาข้อมูลยาเสพติด และกราบขอโทษผบ.ตร. และตำรวจทุกคน องค์กรตำรวจยังมีคนดีๆ เยอะ ผมผิดเอง"
@ ท่าที ผบ.ตร. - รอง ผบ.ตร.
ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. แถลงว่า "อยากเรียนว่าการจับกุมหรือการรับมอบตัว ตำรวจพยายามทำให้สังคมเห็นว่า เราไม่เคยปกป้องคนกระทำผิด มันอาจไม่ได้ช่วยให้สิ่งที่สูญเสียไปดีขึ้น แต่อย่างน้อยก็ให้เห็นว่าเราไม่เคยปกป้อง แล้วสังคมตำรวจจะอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของประชาชน"
"ที่ผ่านมาในนามของผู้นำองค์กร ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ยืนยันว่าองค์กรตำรวจตรวจสอบได้ ไม่เคยมีตำรวจคนไหนทำผิดแล้วพ้นโทษหลบหนีไปได้ ส่วนใหญ่เราดำเนินการเกือบทั้งหมด ซึ่งไม่ว่าจะยศชั้นไหนเหมือนกัน ตั้งแต่ ผบ.ตร ถึงลูกแถว ถ้าทำผิดต้องถูกลงโทษ"
ส่วน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ยืนยันว่า สำหรับข้อสงสัยประเด็นการใช้ดุลยพินิจของแพทย์เรื่องผลตรวจปัสสาวะ พบสารเมทแอมเฟตามีน ตรงนี้ได้รับการยืนยันว่า ตรวจจากการร้องขอของพนักงานสอบสวน ในการจะผ่ากระเพาะปัสสาวะของผู้เสียชีวิตในวันที่ 7 สิงหาคม หลังจากผ่าตรวจแล้วนำปัสสาวะของผู้เสียชีวิตไปตรวจจึงพบสารดังกล่าว ถึงได้ลงความเห็นเช่นนั้น ส่วนผลอย่างเป็นทางการจะมีการส่งให้พนักงานสอบสวนอีกครั้ง
"ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำอย่างตรงไปตรงมา จากนี้จะนำตัว ผกก.โจ้ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปที่สภ.เมืองนครสวรรค์ ในวันนี้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป"
ผลการดำเนินคดีนับจากนี้เป็นอย่างไร ต้องติดตามดูกันต่อไป
อ่านประกอบ :
- ปูพรมล่าตัว'ผกก.โจ้'! ค้นบ้านเจอรถหรูหลายร้อยล. ศาลอนุมัติหมายจับ-ตรึงกำลังเข้มชายแดน
- ชงอนุฯ ป.ป.ช.สอบทรัพย์สินบ้าน-รถหรู-นอมินี‘ผกก.โจ้’-รวมข้อมูลไต่สวนซ้อมผู้ต้องหาด้วย
- คำสั่ง ผบ.ตร.ให้‘ผู้กำกับโจ้’ออกจากราชการ-ใบรับรอง รพ.อ้างผู้ต้องหาตายจากพิษแอมเฟตามีน
- เปิดมุมมองกม. 'สิทธิผู้ถูกจับกุม' เทียบกรณีคลุมถุงดำรีด 2 ล. 'เถยจิต' โจร ในคราบ ตร.
- ป.ป.ช.ภาค 6 ขอเร่งรัดมติส่วนกลางไต่สวน คดี 'ผกก.โจ้' - จนท.ยักยอกเงินโควิด 12.7 ล.
- นิ้วไหนไม่ดี ต้องตัดทิ้ง! ผบ.ตร.สอบวินัย-อาญา'ผู้กำกับโจ้'จ่อให้ออกจากราชการ
- ผกก.โจ้ ปฏิเสธไม่มีรีดเงิน 2 ล.! ยอมรับผิดคนเดียว พลั้งมือทำผู้ต้องหาเสียชีวิต
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage