อธิบดีกรมบัญชีกลาง ปฏิบัติราชการแทนปลัดคลัง ลงนามให้ บมจ.บูรพาฯ เป็นผู้ทิ้งงาน! ชี้ไม่ปฏิบัติตามสัญญาก่อสร้างโครงการสายส่งระบบ 115 เควี วงเงิน 125 ล้าน ไร้เหตุผลอันสมควร เข้าข่ายหลักเกณฑ์ตาม ม.109 วรรคหนึ่ง (2) แห่ง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ
..............................................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้า กรณีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แจ้งกระทรวงการคลังให้บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ทิ้งงานอีกครั้ง หลังจากทิ้งงานโครงการก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี ช่วงสถานีไฟฟ้าปัตตานี 2 ถึงสถานีไฟฟ้าสายบุรี จังหวัดปัตตานี อย่างไรก็ดี บมจ.บูรพาฯ ทำหนังสือชี้แจงผู้ถือหุ้น รวมถึงยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อปลัดกระทรวงการคลังเพื่อให้พิจารณาข้อเท็จจริงอีกครั้งนั้น (อ่านประกอบ : ขอความเป็นธรรม!บมจ.บูรพาฯ ยื่นปลัดคลังปม กฟภ.กลับลำให้เป็นผู้ทิ้งงาน ยันชดใช้แล้ว 26 ล.)
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2564 นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง ลงนามในคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1399/2564 เรื่อง การสั่งให้ บมจ.บูรพาฯ เป็นผู้ทิ้งงาน โดยเห็นว่า พฤติการณ์ของ บมจ.บูรพาฯ ถือได้ว่าเป็นคู่สัญญาของหน่วยงานรัฐ ไม่ปฏิบัติตามสัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร อยู่ในหลักเกณฑ์การลงโทษให้เป็นผู้ทิ้งงาน ตามมาตรา 109 วรรคหนึ่ง (2) แห่ง พ.ร.บ.พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 จึงมีคำสั่งให้ บมจ.บูรพาฯ เป็นผู้ทิ้งงาน
ทั้งนี้ บมจ.บูรพาฯ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อปลัดกระทรวงการคลัง โดยทำเป็นหนังสือระบุข้อโต้แย้งและข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายที่อ้างอิงประกอบด้วย ส่งไปยังกรมบัญชีกลาง หรือยื่นด้วยตนเอง ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ บมจ.บูรพาฯ ได้รับแจ้งคำสั่ง ตามมาตรา 44 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
รายละเอียดในหนังสือดังกล่าว ระบุว่า เนื่องจาก กฟภ. แจ้งชื่อ บมจ.บูรพาฯ เป็นผู้ทิ้งงานโครงการก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควีฯ ดังกล่าว เป็นเงินจำนวน 125 ล้านบาท ตามสัญญาเลขที่ จ.ป.218/2558 ลงวันที่ 16 พ.ย. 2558 เนื่องจาก บมจ.บูรพาฯ เป็นคู่สัญญาของหน่วยงานของรัฐไม่ปฏิบัติตามสัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ปลัดกระทรวงการคลัง อาศัยอำนาจตามมาตรา 109 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ตามมาตรา 29 วรรคหนึ่ง (5) แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าว เห็นว่า กรณีนี้ภายหลังลงนามในสัญญา กฟภ. ส่งมอบพื้นที่ให้ บมจ.บูรพาฯ เริ่มดำเนินการก่อสร้างในส่วนที่ได้รับหนังสืออนุญาตไปก่อน หากได้รับหนังสืออนุญาตเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบภายหลัง ต่อมา กฟภ. มีหนังสือแจ้งให้ บมจ.บูรพาฯ เร่งจัดทำแผนก่อสร้าง พร้อมให้รายงานผลความคืบหน้าทุกเดือน และหากมีเหตุการณ์ความไม่ปกติให้ บมจ.บูรพาฯ รีบทำหนังสือขอสงวนสิทธิ์แจ้ง กฟภ. ทันที พร้อมทั้งให้ปรับแก้ไขรายละเอียดแบบก่อสร้างให้เรียบร้อย แล้วนำส่ง กฟภ.เพื่อขออนุมัติ
ต่อมา บมจ.บูรพาฯ มีหนังสือแจ้งนัดตรวจรับงานครั้งที่ 1 กฟภ. ได้ตรวจรับงานครั้งที่ 1 แล้ว และให้ บมจ.บูรพาฯ นำเสนอวิธีการที่จะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนใหม่ โดย บมจ.บูรพาฯ ส่ง Shop Drawing โดย กฟภ. ตรวจสอบแล้วเห็นว่า มีความเหมาะสมสามารถก่อสร้างได้ ต่อมา บมจ.บูรพาฯ มีหนังสือแจ้งนัดตรวจรับงานครั้งที่ 2 และขอขยายเวลาสัญญา 60 วัน กฟภ. ตรวจรับงานครั้งที่ 2 แล้ว และแจ้งให้นำส่งเอกสารรับรองจากหน่วยงานราชการเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาขยายระยะเวลาสัญญา เนื่องจาก บมจ.บูรพาฯ มีหนังสือขอขยายระยะเวลาก่อสร้าง กรณีน้ำท่วมพื้นที่ก่อสร้าง กรณีเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จ.ปัตตานี
กฟภ. มีหนังสือแจ้งค่าปรับ และให้นำส่งรายงานความก้าวหน้าของงาน แต่ บมจ.บูรพาฯ เพิกเฉย กฟภ. จึงแจ้งให้ บมจ.บูรพาฯ เข้าร่วมประชุมติดตามการทำงาน และเร่งรัดให้นำส่งรายงานเพื่อใช้ประกอบการอนุมัติขยายระยะเวลาส่งมอบงาน ต่อมา บมจ.บูรพาฯ มีหนังสือขอขยายระยะเวลาก่อสร้าง เนื่องจากความไม่สงบในพื้นที่ก่อสร้าง และนำส่งรายงานประจำเดือนเพื่อประกอบการขยายระยะเวลาสัญญา โดย บมจ.บูรพาฯ มีหนังสือแจ้งให้ กฟภ. ตรวจรับงานครั้งที่ 3 โดย กฟภ. ตรวจรับงานครั้งที่ 3 แล้วเสร็จ แต่ บมจ.บูรพาฯ ดำเนินการล่าช้ากว่าแผนงาน กฟภ. จึงแจ้งให้จัดทำแผนการก่อสร้าง พร้อมหนังสือชี้แจง
ต่อมา บมจ.บูรพาฯ มีหนังสือขอขยายระยะเวลาก่อสร้างอีกครั้ง เนื่องจากน้ำท่วมบริเวณก่อสร้าง โดย กฟภ. อนุมัติขยายเวลาก่อสร้างจำนวน 120 วัน และ บมจ.บูรพาฯ มีหนังสือให้ตรวจรับงานครั้งที่ 4 และ 5 โดย กฟภ.ตรวจรับงานครั้งที่ 4 และ 5 แล้วเสร็จ เมื่อครบกำหนดส่งมอบงานตามระยะเวลาที่ขยายเพิ่มเติม บมจ.บูรพาฯ ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้ โดย กฟภ. มีหนังสือเร่งรัดให้ บมจ.บูรพาฯ ดำเนินการก่อสร้างในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่ บมจ.บูรพาฯ ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ โดย กฟภ. พิจารณาแล้วเห็นว่า บมจ.บูรพาฯ ไม่สามารถปฏิบัติงานตามสัญญาต่อไปได้ เนื่องจากไม่สามารถเชื่อมต่อระบบได้ตามแผนงาน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย กฟภ. จึงบอกเลิกสัญญา
เมื่อเปิดโอกาสให้ชี้แจงเหตุผล บมจ.บูรพาฯ ชี้แจงว่า ไม่สามารถเข้าทำงานในพื้นที่ได้ทันทีหลังจากลงนามในสัญญา การส่งมอบพื้นที่ได้ส่งมอบเพียงบางส่วน อีกทั้งพื้นที่ก่อสร้างมีความซับซ้อน และมีความยากในการเข้าถึงมากกว่าพื้นที่ที่เคยดำเนินในโครงการอื่น ในระหว่างก่อสร้างได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำท่วมขัง ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าทำงานในพื้นที่ได้ อีกทั้งการปักเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ ต้องมีการพาดสายนส่งฟ้าแรงสูง มีงานขุด งานตัด และงานติดตั้งในที่สูงเหนือต้นไม้ พนักงานต้องทำงานกลางแจ้งและอยู่บนที่สูง หากมีเหตุการณ์ฝนฟ้าคะนองย่อมมีความเสี่ยง รวมทั้งเครื่องจักรขนาดใหญ่ไม่อาจเข้าทำงานได้ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลาดเอียง อีกทั้งทุกครั้งที่เกิดความไม่สงบ จะส่งผลต่อการทำงาน เพราะพนักงานและ บมจ.บูรพาฯ เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัย เป็นเหตุให้พนักงานมีการหยุดงาน และลาออกจำนวนมาก ส่วนการเปลี่ยนแปลงการก่อสร้าง และเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องหลายรายการ กรณีนี้ต้องใช้เวลาเพิ่มในการดำเนินการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของแบบ และการแจ้งให้หยุดงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้แจ้งเหตุดังกล่าวให้ กฟภ. ทราบแล้ว แต่ กฟภ. ไม่เคยพิจารณาขยายระยะเวลาให้กับ บมจ.บูรพาฯ
กฟภ. พิจารณาข้อชี้แจงดังกล่าวแล้ว ไม่อาจรับฟังได้ เนื่องจาก กฟภ. ส่งมอบพื้นที่ให้ บมจ.บูรพาฯ โดยให้เริ่มดำเนินการในส่วนที่ได้รับอนุญาตจากกรมทางหลวงเรียบร้อยแล้วไปก่อน ส่วนที่เหลือเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจะแจ้งให้ทราบภายหลัง ซึ่ง กฟภ. ดำเนินการขออนุญาตทั้งหมด 9 ช่วง ได้รับอนุญาตแล้ว 5 ช่วง ต่อมาได้แจ้งอนุญาตเพิ่มอีก 3 ช่วง ขาดอีก 1 ช่วง บมจ.บูรพาฯ สามารถดำเนินการก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการขยายเวลาการทำงานกรณีมีภัยธรรมชาติ ฝนตกน้ำท่วม กฟภ. ได้ขยายเวลาก่อสร้างแล้วจำนวน 120 วันตามมติคณะรัฐมนตรี ส่วนเหตุการณ์ความไม่สงบใน จ.ปัตตานี เหตุการณ์ที่ บมจ.บูรพาฯ แจ้งอยู่นอกพื้นที่โครงการ การแก้ไขแบบก่อสร้าง มีการแก้ไขปรับเปลี่ยนแบบ บมจ.บูรพาฯ ยังสามารถดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่อื่นได้
เมื่อ กฟภ. บอกเลิกสัญญา ผลการดำเนินการก่อสร้างยังดำเนินการไม่ถึงพื้นที่ดังกล่าว ส่วนการแจ้งให้หยุดงานเทศกาลสงกรานต์ บมจ.บูรพาฯ ไม่ได้ส่งหนังสือขอสงวนสิทธิ์ช่วงเวลาดังกล่าวให้ กฟภ.พิจารณา ดังนั้นพฤติการณ์ของ บมจ.บูรพาฯ ถือได้ว่าเป็นคู่สัญญาของหน่วยงานรัฐ ไม่ปฏิบัติตามสัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร อยู่ในหลักเกณฑ์การลงโทษให้เป็นผู้ทิ้งงาน ตามมาตรา 109 วรรคหนึ่ง (2) แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าว จึงมีคำสั่งให้ บมจ.บูรพาฯ เป็นผู้ทิ้งงาน
ทั้งนี้ บมจ.บูรพาฯ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อปลัดกระทรวงการคลัง โดยทำเป็นหนังสือระบุข้อโต้แย้งและข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายที่อ้างอิงประกอบด้วย ส่งไปยังกรมบัญชีกลาง หรือยื่นด้วยตนเอง ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ บมจ.บูรพาฯ ได้รับแจ้งคำสั่ง ตามมาตรา 44 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
อ่านประกอบ :
ขอความเป็นธรรม!บมจ.บูรพาฯ ยื่นปลัดคลังปม กฟภ.กลับลำให้เป็นผู้ทิ้งงาน ยันชดใช้แล้ว 26 ล.
ยื่น ป.ป.ช.สอบ ‘ผู้ว่าฯ กฟภ.’ไม่ลงโทษเอกชนทิ้งงาน ปมสร้างสายส่งไฟฟ้าปัตตานี 125 ล.
สหภาพ กฟภ.ทวงถาม‘ฉัตรชัย’ สอบปมสร้างสายส่งไฟฟ้าปัตตานี 125 ล.ไม่ลงโทษเอกชนทิ้งงาน
ส่องโครงการระบบไฟฟ้าสะบ้าย้อย-ปัตตานี 175 ล. -ทำไมผู้รับเหมาส่งงานครบไร้ปัญหา
เปิดปม! กฟภ.ไม่ลงโทษเอกชนเป็นผู้ทิ้งงาน? หลังบอกเลิกสัญญาระบบไฟฟ้าปัตตานี 125 ล. (1)
อ้างเหตุสุดวิสัย! เปิดหนังสือ กฟภ. แจ้งเลิกสัญญา-ไม่ลงโทษ ทำระบบไฟฟ้าปัตตานี 125 ล.(2)
เจอตั้งเสาเปล่าริมถนนหลักสิบต้น! ตามไปดูโครงการสายส่งระบบไฟฟ้าปัตตานี 125 ล. (3)
'อิศรา' ถาม 'กฟภ.' ตอบ! ทำไมบอกเลิกสัญญา-ไม่ลงโทษ บ.บูรพาฯ ทำระบบไฟฟ้าปัตตานี 125 ล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/