กรมราชทัณฑ์เผยมีผู้ต้องขังติดโควิดเพิ่ม 91 ราย รักษาหายแล้วอีก 842 ราย และเสียชีวิต 4 ราย เป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว พร้อมแจงเริ่มฉีดวัคซีนในผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยง-พื้นที่เสี่ยง ก่อนกระจายทั่วประเทศ
.........................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 91 ราย รักษาหายเพิ่ม 842 ราย เสียชีวิต 4 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 13,008 ราย
ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถาน พบว่ามีเรือนจำและทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 126 แห่ง พบการแพร่ระบาดจำนวน 12 แห่งเท่าเดิม และยังคงเข้มมาตรการป้องกันเชื้อ คือ อย่าให้มีการนำเชื้อเข้า เร่งดำเนินการรักษาเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต และระวังอย่าให้นำเชื้อจากเรือนจำที่พบการแพร่ระบาดออกภายนอก โดยเฉพาะการเร่งค้นหาและคัดแยกผู้ป่วยในเรือนจำและทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาด นอกจากจะช่วยให้ผู้ต้องขังได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วแล้ว ยังสามารถคัดกรองผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ ให้ได้รับการจัดสรวัคซีน ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดภายในเรือนจำและทัณฑสถานได้อีกทาง
นายอายุตม์ กล่าวถึงด้านการดำเนินการฉีดวัคซีนว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการฉีดวัคชีนในเรือนจำทัณฑสถานไปแล้ว จำนวน 9 แห่ง คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษปทุมธานี เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางนครปฐม เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เรือนจำพิเศษพัทยา ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เรือนจำจังหวัดภูเก็ต และเรือนจำพิเศษมีนบุรี ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนการดำเนินการต่อจากนี้ ในระยะแรกจะเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนในผู้ต้องขัง 3 กลุ่มที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด คือ กลุ่มเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาดในพื้นที่สีแดงเข้ม ได้แก่ เรือนจำจังหวัดปทุมธานี เรือนจำอำเภอธัญบุรี สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางเพชรบุรี จะได้รับการจัดสรรวัคซีนครบตามจำนวนผู้ต้องขังทุกคน
กลุ่มเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาดในพื้นที่สีแดง จะดำเนินการฉีดให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง ผู้ต้องขังสูงอายุ และผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัว จำนวน 19 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดตรัง ทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลา เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี ทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช เรือนจำอำเภอนาทวี เรือนจำกลางยะลา เรือนจำอำเภอทุ่งสง เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เรือนจำกลางเขาบิ่น เรือนจำจังหวัดระนอง ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา เรือนจำกลางตาก เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานหญิงชลบุรี ทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานหญิงสงขลา เรือนจำอำเภอไขยา และเรือนจำอำเภอปากพนัง และ
กลุ่มเรือนจำที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และมีผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิดจากการยืนยันทางการแพทย์ จะได้รับการจัดสรรวัคนเพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว โดยวันนี้จะเริ่มจัดสรรวัคซีน ให้แก่ทัณฑสถานหญิงกลาง และจะพิจารณาจัดสรรเพิ่มเติมที่ทัณฑสถานหญิงธนบุรี รวมถึงเรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่อยู่ระหว่างการยืนยันผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้ออีกครั้ง
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีของผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 4 รายในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังที่เสียชีวิตที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 3 ราย และที่โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง 1 ราย โดยทั้ง 4 ราย เป็นผู้ต้องขังในกลุ่มเปราะบาง คือ มีโรคประจำตัว เป็นโรคเบาหวาน และบางรายเป็นผู้ป่วยสูงอายุ ที่มีภาวะความเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคที่สูง ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามกระบวนการอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตของผู้ป่วยทั้ง 4 รายไว้ได้ จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage