กรมสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกําลัง ตํารวจภูธร จ.สุโขทัย ตรวจค้นเครือข่าย ช.เล็ก สุโขทัย
................................
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มีข้อสั่งการให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษลงพื้นที่ภาคเหนือ ตอนล่าง เพื่อสืบสวนกรณีกลุ่มบุคคลชักชวนให้ประชาชนลงทุนโดยอ้างว่ามีผลตอบแทนสูง ในลักษณะการ ฉ้อโกงประชาชน
พันตํารวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตํารวจโท สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อํานวยการกองคดีธุรกิจ การเงินนอกระบบ ดําเนินการสืบสวนต่อกลุ่มขบวนการ ช.เล็ก สุโขทัย หรือ นายจรณินทร์ หมื่นจิตร หรือ นายธีรธัชช์ ธรกนก ซึ่งมีพฤติการณ์ชักชวนให้ประชาชนทั่วไป ร่วมลงทุนในลักษณะระดมทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ในการเบิกเงิน โดยอ้างว่ามีเงินจํานวน 2 แสนล้านบาท จากบัญชีธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง และเสนอให้ ผลตอบแทน 5 แสนบาท ต่อการลงทุน 100 บาท และได้รับเงินเดือน เดือนละ 1 หมื่นบาท เป็นเวลา 5 ปี ทําให้มีประชาชนหลงเชื่อกว่า 1 หมื่นราย และมีการจัดตั้งแม่ทีมออกชักชวนประชาชน ทั่วประเทศ ผ่านทาง แอปพลิเคชันเฟซบุ๊กและแอปพลิเคชันไลน์ อันเข้าลักษณะความผิดตามพระราชบัญญัติความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ฯ และฉ้อโกงประชาชน ซึ่งกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบได้ดําเนินการเป็นสํานวนสืบสวน ที่ 50/2564 โดยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 คณะพนักงานสืบสวน นําโดยนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อํานวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสวรรคโลก เพื่อดําเนินการ เข้าตรวจค้นบ้านพักและสํานักงานของกลุ่มขบวนการดังกล่าว จํานวน 1 เป้าหมาย ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายค้น ที่ 2/2564 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564
ในวันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564) เวลา 08.30 น. คณะพนักงานสืบสวน ได้สนธิ กําลังร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 6 และสถานีตํารวจภูธรศรีสัชนาลัย เข้าทําการตรวจค้น เป้าหมาย ผลการตรวจค้นสถานที่ ไม่พบอุปกรณ์สํานักงาน และไม่มีสภาพเป็นบริษัทหรือประกอบกิจการ ตามที่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ไว้ พบเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เมมโมรี่การ์ดจํานวนหนึ่ง และเอกสาร ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจหรือการลงทุนใดๆ จึงได้ทําการตรวจยึดไว้ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะทําหนังสือสอบถามไปยังกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของบริษัทดังกล่าว หากพบว่าไม่มี การประกอบธุรกิจจริง จะประสานงานเพื่อทําการยกเลิกใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ต่อไป
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังในการร่วมลงทุนผ่านทาง แอปพลิเคชันเฟซบุ๊กและแอปพลิเคชันไลน์ โดยก่อนตัดสินใจร่วมลงทุนใดๆ ขอให้ตรวจสอบธุรกิจว่ามีจริง ตามที่โฆษณาไว้หรือไม่ ซึ่งหากเกิดปัญหาความเสียหายขึ้น อาจจะมีความยากลําบากในการได้เงินคืน ทั้งนี้ ประชาชนผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูล/เบาะแสต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตํารวจภูธรศรีสัชนาลัย หรือ ที่เว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือติดต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ที่ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 0 2142 2831 หรือสายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 โทร.ฟรีทั่วประเทศ