กลุ่มธรรมาภิบาลฯ ลุยยื่นหนังสือถึง กมธ.การกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมสอบปมทุจริตเรียกเก็บค่าหัวคิวงานขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ งบ 11,892 ล้าน
................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2563 กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ศึกษาและตรวจสอบการกระทำผิดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กรณีการทุจริตและเรียกเก็บหัวคิวงานขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศ ในโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมของรัฐบาล โดยมีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ.การกฎหมายฯ เป็นผู้รับหนังสือ
โดยหนังสือดังกล่าว ระบุว่า ตามที่กลุ่มธรรมภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ได้ยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตและเรียกเก็บหัวคิวงานขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศในพื้นที่ 76 จังหวัด ตามโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมของรัฐบาล งบประมาณจำนวน 11,892 ล้านบาท (งบกลาง) ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2563 นี้ โดยมอบอำนาจให้นายอำเภอทุกอำเภอสามารถลงนามจัดจ้างผู้ใดผู้หนึ่งมารับงานขุดลอกแหล่งน้ำด้วยวิธีพิเศษเป็นการตกลงจ้างได้ เนื่องจากเป็นโครงการได้มีการกำหนดแผนงาน ขอบเขต และวงเงินการจัดจ้างไว้ไม่เกิน 500,000บาท (ทั่วประเทศ)
กรณีดังกล่าวได้ก่อให้เกิด “กลุ่มขบวนการเรียกเก็บหัวคิวขบวนการใหญ่” ไปเดินสายหาผู้รับจ้างงานขุดลอกทั่วประเทศเพื่อเสนอขายงาน จำนวนกว่า 18,000 โครงการ โดยข้อมูลพบว่ามีการไปเรียกเก็บเงินผู้ประกอบการที่อยากเข้าทำสัญญางานเป็นจำนวน 35-50% ตามความยากง่ายของหน้างานและขบวนการดังกล่าวได้อ้างชื่อ “บิ๊ก ฉ.”และ “บิ๊ก ป.”เพื่อให้ผู้ประกอบการเชื่อถือและให้ผู้มีหน้าที่ลงนามในสัญญาต้องดำเนินการทำสัญญาให้ตามใบสั่งของผู้มีอำนาจ มีการวางแผนการทำงานเป็นขบวนการใหญ่ในลักษณะ “ ทำธุรกิจค้างบประมาณแผ่นดิน ”โดยอาศัยการจัดทำโครงการขุดลอกแหล่งน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้วและน้ำท่วมของพื้นที่ต่างๆ และจัดการให้ดำเนินการจัดจ้างแบบพิเศษโดยให้สามารถตกลงจ้างได้โดยไม่ต้องเปิดให้มีการแข่งขันราคา เป็นกรณีมีเจตนาเพื่อเปิดช่องทางให้กลุ่มผลประโยชน์นำงานขุดลอกไปวิ่งขายงานต่อได้ และอาจนำเงินค่าหัวคิวส่งต่อให้ผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง โดยยากที่กฏหมายจะติดตามเอาผิดต่อขบวนการค้างบประมาณแผ่นดินกลุ่มนี้ได้ เป็นการสร้างความเสียหายต่อประโยชน์ของประชาชนไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท
กลุ่มธรรมาภิบาลฯจึงขอให้ท่านเร่งดำเนินการศึกษา ตรวจสอบ เพื่อนำผลการศึกษาตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพื่อเอาผิดต่อขบวนการค้างบประมาณแผ่นมาลงโทษตามกฏหมายได้หรือไม่อย่างไร ดังนี้
1.ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหน้างาน ตรวจสอบสัญญาและTOR ทุกสัญญา ในพื้นที่ที่ดำเนินการขุดลอก ว่าทำถูกต้องหรือไม่ และหรือมีการกระทำผิดต่อกฏหมายหรือไม่และมีผู้ใดบ้างที่ร่วมกันกระทำความผิดทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องและเอกชนคู่สัญญา
2.ศึกษาและตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่าง “บิ๊ก ฉ. และ “บิ๊ก ป.” กับกลุ่มขบวนการค้างบประมาณแผ่นดิน ว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่อย่างไรทั้งในทางตรงและทางอ้อมเพื่อนำผลมาพิจารณาศึกษาข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้องว่าสามารถเอาผิดได้หรือไม่
3.ศึกษาและตรวจสอบโครงการขุดลอกแหล่งน้ำ และ การจัดจ้างวิธีพิเศษ แบบตกลงจ้าง ว่าน่าจะเป็นการดำเนินการที่มีเจตนาเพื่อทำให้เกิดช่องว่างหรือมีเจตนาวางแผนเพื่อเอื้อต่อการเรียกเก็บหัวคิวของกลุ่มขบวนการค้างบประมาณแผ่นดินหรือไม่และเป็นประการที่น่าจะขัดต่อกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันราคาและสร้างความสียหายต่อเงินแผ่นดินอย่างมหาศาล
อ่านประกอบ :
‘บิ๊กป้อม’กำกับดูแล! คุ้ยมติ ครม.ที่มางบขุดคลองหมื่นล.ก่อนถูกร้องหักหัวคิวเอื้อเอกชน?
ข้อพิรุธจัดจ้างวิธีพิเศษ! เปิดหนังสือร้องนายกฯสอบขบวนการงาบหัวคิวงบขุดคลองหมื่นล.
อ้าง‘บิ๊ก ฉ.-บิ๊ก ป.’! กลุ่มธรรมาภิบาลฯยื่นนายกฯสอบขบวนการหักหัวคิวงบขุดลอกคลองหมื่นล.
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage