‘ศูนย์วิจัยกรุงไทยฯ’ คาดพิษโควิด-เศรษฐกิจหดแรง ฉุดรายได้ดีลเลอร์รถยนต์ปีนี้ร่วง 25% พร้อมประเมินตลาดรถยนต์ในประเทศต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีก 2 ปี แนะผู้ประกอบการทำตลาดออนไลน์ นัดทดลองขับรถถึงบ้านลูกค้าผ่าน Application
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มหดตัวรุนแรงที่ระดับ 9.1% นั้น คาดว่าจะทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศทั้งปี 63 อยู่ที่เพียง 620,000 คัน หรือหดตัว -38.2% และจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจตัวแทนจัดจำหน่ายรถยนต์มือหนึ่ง (ดีลเลอร์) ที่พึ่งพารายได้เกือบ 85% มาจากการขายรถยนต์
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ในประเทศในครึ่งแรกของปี 2563 อยู่ที่เพียง 330,000 คัน หรือหดตัว 37.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน
“รายได้ของธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ในภาพรวมมีแนวโน้มลดลง 25% เทียบกับปีที่แล้ว แต่ดีลเลอร์ไม่สามารถปรับลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายลงมาเท่ากับรายได้ที่หายไปได้ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ของผู้ประกอบการมีแนวโน้มแย่ลง จากกำไรที่ 1-1.2% ในช่วงปี 60-62 เป็นติดลบ 4.8% ในปี 63 และคาดว่าสัดส่วนของผู้ประกอบการที่มีกำไรสุทธิติดลบจะเพิ่มขึ้นจาก 24% ในปีที่ผ่านมา เป็น 36% ในปีนี้” นายพชรพจน์กล่าว
นายพชรพจน์ ระบุว่า ศูนย์วิจัยฯประเมินว่า การที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศจะกลับมาอยู่ในช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 หรือที่ประมาณ 1 ล้านคัน จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี
นายมานะ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการฝ่าย ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่า นอกจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวอย่างรุนแรงและฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภคแล้ว ธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจแบบดั้งเดิม (Brick and Mortar) กำลังเผชิญกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยคาดการณ์ได้ว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเข้าไปยังโชว์รูมน้อยลง การปิดการขายจึงจะยากขึ้นกว่าเดิม
“ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์เป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการควรรักษาฐานลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง ทำการตลาดเชิงรุกเพื่อรองรับกับ Pent Up Demand ที่อาจกลับมาหลังการแพร่ระบาดคลี่คลาย รวมทั้งนำกลยุทธ์ของดีลเลอร์ในต่างประเทศมาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะการยกระดับการขายและบริการเข้าสู่ระบบดิจิทัล (Digitalize) ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในระยะยาว” นายมานะกล่าว
นายมานะ ระบุว่า สำหรับกลยุทธ์ที่ธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ควรทำทันที คือ การรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าเดิมตลอดช่วงของการล็อกดาวน์ และการทำตลาดเชิงรุกในการหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ในช่วงหลังคลายล็อกดาวน์ ส่วนในระยะยาวนั้น เราแนะนำให้ผู้ประกอบการปรับแนวทางการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะการนำขั้นตอนการขายและบริการเข้าสู่ระบบดิจิทัล
เช่น การแสดงหรือรีวิวรถยนต์ในช่องทางออนไลน์ที่มีความคมชัดสูง การนัดทดลองขับ (Test-drive) ณ ที่พักอาศัยของผู้บริโภคผ่าน Application ไปจนถึงการเพิ่มช่องทางการขายแบบ Omni-channel ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดในยุค New Normal เห็นได้จากยอดขายของบริษัทที่ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลักอย่าง Tesla ที่ติดลบเพียง 5% ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เทียบกับค่ายรถยนต์อื่นๆในสหรัฐฯ อย่าง Ford และ GM ที่ลดลงมากกว่า 30%
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/