นายกรัฐมนตรี สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งขุดบ่อน้ำตื้น - หาแหล่งน้ำสำรอง เพื่อรับมือสถานการณ์การภัยแล้ง หลังแม่น้ำสายหลักยังมีปริมาณน้ำน้อยอยู่ในขั้นวิกฤติ
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบรายงานจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ว่า จากอิทธิพลของพายุอำพัน ในช่วงวันที่ 18-22 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยเฉพาะ จ.ชลบุรี มีน้ำไหลเข้า 1.72 ล้าน ลบ.ม. และจังหวัดระยองน้ำไหลเข้า 6.29 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่แม่น้ำสายหลักส่วนใหญ่ยังมีปริมาณน้ำน้อยจนถึงขั้นวิกฤติ
นางนฤมล กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดหาแหล่งน้ำให้ตรงกับความต้องการของภาคการเกษตร และประชาชน โดยให้สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนในการใช้ที่ดินของเอกชนเป็นแหล่งน้ำสำรอง รวมถึงให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งรัดดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ เช่น การก่อสร้างระบบเติมน้ำใต้ดินระดับตื้นผ่านบ่อน้ำตื้นในแอ่งเจ้าพระยาตอนบน ที่ตั้งเป้าหมายไว้จำนวน 500 แห่ง และรูปแบบการเก็บกักน้ำผ่านหลังคารับน้ำฝนในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี จำนวน 30 แห่ง เพื่อแก้ไขปัญหาการลดระดับน้ำบาดาล และเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝน
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งใน 29 จังหวัด ทั้งให้ความช่วยเหลือสนับสนุนน้ำอุปโภคบริโภค และมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พัฒนาบ่อบาดาล 186 บ่อ ขุดเจาะบ่อน้ำตื้นอีก 626 บ่อ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ส่วนกรมชลประทานให้ดำเนินการขุดลอกอ่างเก็บน้ำ จ.ขอนแก่น เพื่อเปิดทางให้น้ำไหลผ่านได้สะดวกช่วยเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำให้เพียงพอต่อการใช้น้ำในพื้นที่ต่อไป
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage