นิด้าโพลเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนร้อยละ 32.86หวั่นต่อโรคระบาด 'COVID-19' ชี้รัฐไม่ตัดสินใจเด็ดขาดขณะที่อีกส่วน หงุดหงิดใจต่อผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศแต่ไม่กักตัว
“นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “COVID-19” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11 – 12 มี.ค. 2563 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,260 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95.0
จากการสำรวจเมื่อถามประชาชนถึงความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย พบว่า ร้อยละ 32.86 ระบุว่า มีความกังวลมาก ร้อยละ 35.32 ระบุว่า ค่อนข้างมีความกังวล ร้อยละ 18.33 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความกังวล และร้อยละ 13.49 ระบุว่า ไม่มีความกังวลเลย
ด้านความกลัวที่จะติดเชื้อไวรัส COVID-19 พบว่า ร้อยละ 23.97 ระบุว่า มีความกลัวมาก ร้อยละ 36.67 ระบุว่า ค่อนข้างมีความกลัว ร้อยละ 22.14 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความกลัว และร้อยละ 17.22 ระบุว่า ไม่มีความกลัวเลย
สำหรับความถี่ในการใส่หน้ากาก (ทุกชนิด) เพื่อป้องกันตัวเอง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 32.54 ระบุว่า ใส่หน้ากากในทุกที่ ตลอดเวลา เมื่อออกจากบ้าน รองลงมา ร้อยละ 25.71 ระบุว่า ใส่หน้ากากเฉพาะเวลาอยู่ในที่ชุมชน ร้อยละ 20.56 ระบุว่า ไม่ใส่หน้ากากเลย ร้อยละ 13.02 ระบุว่า ใส่หน้ากากเป็นบางครั้ง ร้อยละ 7.14 ระบุว่า แทบจะไม่ได้ใส่หน้ากากเลย ร้อยละ 0.71 ระบุว่า ใส่หน้ากากเฉพาะเวลาที่ตนเอง มีอาการเจ็บป่วย และร้อยละ 0.32 ระบุว่า ใส่หน้ากากเฉพาะเวลาที่ต้องมีการใกล้ชิดกับผู้ป่วย
เมื่อถามถึงสิ่งที่ทำให้หงุดหงิดใจมากเมื่ออ่านข่าวเกี่ยวกับ COVID-19 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 31.43 ระบุว่า คนที่กลับจากประเทศเสี่ยงไม่กักตนเอง รองลงมา ร้อยละ 28.41 ระบุว่า การขาดแคลน และ/หรือ มีการกักตุนหน้ากากอนามัย ร้อยละ 21.75 ระบุว่า จำนวนคน ติดไวรัส COVID-19 ในไทยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 21.11 ระบุว่า ภาครัฐไม่ตัดสินใจเด็ดขาด มีแต่มาตรการรายวันในการแก้ไขปัญหา ร้อยละ 17.14 ระบุว่า ภาครัฐไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ไม่ยอมกักตนเอง ร้อยละ 16.43 ระบุว่า ราคาหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เจลล้างมือ แพงเกินเหตุ ร้อยละ 9.92 ระบุว่า ข่าวปลอมเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 ร้อยละ 9.84 ระบุว่า การขาดแคลนแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ร้อยละ 9.21 ระบุว่า จำนวนคนติดไวรัส COVID-19 ในโลกเพิ่มขึ้น ร้อยละ 8.33 ระบุว่า ไม่หงุดหงิดใจเมื่ออ่านข่าวเกี่ยวกับ COVID -19 ร้อยละ 8.25 ระบุว่า ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการป้องกัน COVID-19 ที่สับสน ร้อยละ 7.70 ระบุว่า ประชาชนตื่นตระหนกเกินเหตุ ร้อยละ 6.11 ระบุว่า นักการเมืองบางคนนำ COVID-19 มาเป็นประเด็นทางการเมือง และร้อยละ 4.60 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงมาตรการที่รัฐบาลควรมีเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 35.95 ระบุว่า รัฐบาลควรสั่งไม่ให้คนต่างชาติจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าประเทศ รองลงมา ร้อยละ 32.70 ระบุว่า ลงโทษจริงจังและหนักขึ้นสำหรับคนที่กลับจากประเทศเสี่ยงแต่ไม่กักตนเอง ร้อยละ 28.02 ระบุว่า ลงโทษจริงจังและหนักขึ้นสำหรับคนที่กักตุนหน้ากากอนามัย ร้อยละ 25.08 ระบุว่า ลงโทษจริงจังและหนักขึ้นสำหรับคนที่ขายหน้ากากอนามัย/แอลกอฮอล์เจลล้างมือ ในราคาแพงเกินกว่าเหตุ ร้อยละ 23.17 ระบุว่า รัฐบาลควรมีศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับ COVID-19 ที่ชัดเจน ร้อยละ 18.17 ระบุว่า รัฐบาลควรทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะครั้งใหญ่ ร้อยละ 14.37 ระบุว่า รัฐบาลควรทำความสะอาดอาคารสนามบินครั้งใหญ่ ร้อยละ 13.02 ระบุว่า รัฐบาลควรสั่งปิดประเทศ ร้อยละ 7.62 ระบุว่า รัฐบาลควรสั่งปิดสถานที่ชุมชน เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงหนัง สนามกีฬา เป็นต้น ร้อยละ 2.38 ระบุว่า รัฐบาลควรแจกหน้ากากอนามัย/แอลกอฮอล์เจลล้างมือให้แก่ประชาชน และร้อยละ 8.02 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ