
สุชาติ แกนนำกลุ่ม 18 รวมไทยสร้างชาติ ถก ท่าทีทางการเมืองเย็นนี้ ก่อนออกเเถลงการณ์ เผย ไม่สบายใจการปฏิบัติตัว พีระพันธุ์ หัวหน้าพรรค เปรียบเป็นเด็กเกเรได้อมยิ้ม ขู่ อาจใช้เอกสิทธิ์ สส.ออกเสียง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 23 มิถุนายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) และ นายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่ทั้งคู่กล่าวหาว่านายสุชาติ เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ สำนักงานประกันสังคม เข้าซื้อตึก Skyy 9 ในสมัยที่นายสุชาติดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
นายสุชาติ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการเข้ามาฟังการซักค้านของฝั่งทนายจำเลย ภายหลังจากสัปดาห์ก่อนได้มีการเลื่อนไต่สวนออกไปเป็นวันนี้ เนื่องจากทนายจำเลยที่ 1 ป่วยเป็นโรคโควิด-19 และตนเข้ามาตอบในฐานะโจทก์และชี้แจงให้ความเป็นธรรมกับตนเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าไปร่วมการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นอย่างไรบ้างหลังจากก่อนหน้านี้สส.ในฝั่งของนายพีระพันธุ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก แต่กลุ่มของนายสุชาติยังยืนยันสนับสนุนรัฐบาล
@ นัด กำหนดท่าทีทางการเมือง
นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ากลุ่ม 18 ของตนนั้นยังสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ และมีความรู้สึกไม่สบายใจในเรื่องการปฏิบัติตัวของนายพีระพันธุ์และทางมติพรรคที่ออกไปก่อนหน้านี้ในการขอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง อีกทั้งยังมีการเคลื่อนไหวของสส.จังหวัดชุมพร 3 ราย และสส.บัญชีรายชื่อ 2 รายที่ออกมากดดัน แต่ตนยังยืนยันว่ากลุ่มของตนตั้งแต่วันแรกที่ทราบมติของพรรคก็ได้ออกแถลงการณ์ว่าส.ส.ทั้ง 18 คน ยังยืนยันที่จะสนับสนุนรัฐบาลอยู่
นายสุชาติกล่าวว่า แต่หลังจากเหตุการณ์เมื่อวานทำให้กลุ่มของตนสงสัยในพฤติกรรมของหัวหน้าพรรคของตน ที่สุดท้ายแล้วเป็นคนเชื่อถือได้หรือเชื่อถือไม่ได้กันแน่ ตนอยากให้ประชาชนไปตัดสินใจในประเด็นนี้เอง แต่ในส่วนของตนนั้นไม่สบายใจอย่างแน่นอน และในวันนี้กลุ่มจะมีนัดทานข้าวเพื่อหาทิศทางหลังจากนี้ เนื่องจากมีแนวทางที่แตกต่างจากหัวหน้าพรรคตนเองมาตลอด ซึ่งทางตนยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน
@ เปรียบ ‘เด็กเกเร’ ได้อมยิ้ม
เมื่อถามว่าหลังจากเห็นโผ ครม.แพทองธารที่ออกมาแล้วมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมบ้างหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการจัดตั้งครม.ทั้งหมดนั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ตนและกลุ่มไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงในส่วนตรงนั้นได้ นายกรัฐมนตรีจะมองว่าใครเหมาะสมจะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีก็เป็นสิทธิ์ของตัวนายกรัฐมนตรีเอง
“แต่ก็อาจจะมีเสียงสะท้อนออกมาจากในกลุ่มของตนว่า ในวันที่อีกฝั่งหนึ่งไม่ชัดเจนว่าจะร่วมรัฐบาลต่อหรือไม่ แต่กลุ่มของตนมีความชัดเจนว่าจะสนับสนุนรัฐบาลต่อ ตนมองว่าเป็นเหมือนกับเด็กเกเรที่ได้อมยิ้ม แต่กลุ่มของตนทำตัวเป็นเด็กดีเพราะต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อ รัฐบาลสามารถทำงานต่อไปได้ แต่กลุ่มเด็กเกเรกลับไปกลับมาในคำพูด กลับได้รับการตอบแทน คนที่อยู่ในสถานะเด็กดีก็ต้องมีสถานะที่จะคิดในส่วนของตนเองได้”นายสุชาติกล่าว
@ นัด ถก พฤติกรรมพีระพันธุ์-กลับลำมติพรรค ขู่ ใช้เอกสิทธิ์ สส.
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอีกครั้ง นายสุชาติ กล่าวว่า ตรงส่วนนี้ไม่สามารถตอบได้ เพราะตนไม่ได้พูดในฐานะที่จะนำจำนวนสส.มาพูดถึงเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะหน้าที่ทั้งหมดในส่วนนี้เป็นของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว การนัดทานข้าวในวันนี้จะเป็นเพียงการหารือกับกลุ่มถึงพฤติกรรมของหัวหน้าพรรคของตนเท่านั้น รวมถึงเรื่องมติพรรคต่าง ๆ ที่จะทำอย่างไรต่อไป
“หลังจากที่แนวทางของตนกับพรรคไม่สามารถไปด้วยกันได้แล้ว หากมีการออกมติอะไรออกมาก็จะใช้เอกสิทธิ์ของสส. และไม่ใช่การขู่อย่างแน่นอน แต่เป็นสิทธิความชอบธรรมและความพึงพอใจรวมถึงการที่ประชาชนจะได้ประโยชน์อีกด้วย อะไรที่จะสามารถทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดตนก็ต้องทำ แต่ถ้าเกิดมติพรรคมาบังคับพวกตนแต่ทางหัวหน้าพรรคไม่มีความชอบธรรมแล้ว ตนคงจะไปบอกให้ทุกคนในกลุ่มฟังก็คงไม่ได้ และภายหลังจากการคุยกันวันนี้หลังจากนั้นจะมีแถลงการณ์ของกลุ่มออกมาอีกครั้งหนึ่ง”นายสุชาติกล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา