
ผบก.สืบสวน บช.น. เผยคืบหน้าคดียิงอดีต สส.กัมพูชา แจงตอนนี้กำลังประสานนำตัวผู้ต้องหาจากกัมพูชากลับมาดำเนินคดีที่ไทย หลังถูกจับข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย เผยเส้นทางคนร้ายใช้เส้นทางชลบุรี-จันทบุรี หลอกทีมสืบสวน ก่อนออกชายแดนผ่าน จ.สระแก้ว เข้ากัมพูชา แต่ไปจนมุมที่พระตะบอง ยันต้องขยายผลจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการ-ตอนนี้ออกหมายจับคนชี้เป้าแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยความคืบหน้าคดีนายลิม กิมยา อายุ 73 ปี ชาวกัมพูชา สัญชาติฝรั่งเศส นักเคลื่อนไหว ทางการเมือง อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูก พ.จ.อ. เอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม อายุ 41 ปี อดีตทหารเรือยิงเสียชีวิต บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ ใกล้วงเวียนสิบสามห้างถนนบวรนิเวศน์ แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม.ต่อมา ชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. บก.สส.ภ.2 ประสานตำรวจกัมพูชาจับกุมผู้ต้องหาภายหลังก่อเหตุหลบหนีข้ามประเทศไปในพื้นที่จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา และจะประสานนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่เมืองไทยต่อไป ว่าผู้ต้องหาอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมายของทางการกัมพูชาเนื่องจากผู้ต้องหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจึงต้องดำเนินคดีที่ประเทศกัมพูชาก่อน แต่รองผบ.ตร.และผบช.น.ทำหนังสือทางการทูต เพื่อขอให้ส่งตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อที่ไทยแล้วคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่าตามคดีดังกล่าวตำรวจไทยเป็นคนไปประสานงานกับตำรวจกัมพูชา และร่วมกันไล่ล่าติดตามตัวมาด้วยกัน โดยผู้ต้องหาใช้เส้นทางจังหวัดชลบุรีและจันทบุรีเป็นทางผ่านมีวิธีหลอกตบตาทีมสืบสวน ก่อนจะเดินทางออกทางชายแดนจังหวัดสระแก้วเข้าไปยังประเทศกัมพูชาซึ่งตำรวจจับกุมขณะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่อำเภอพระตะบอง และไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ พบเพียงบัตรประจำตัวประชาชนและบัตรข้าราชการ ส่วนรายละเอียดตำรวจไทยยังไม่ได้สอบปากคำ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าสาเหตุใดถึงหลบหนีไปกัมพูชาและต้องรอส่งตัวกลับมาสอบปากคำก่อน ในส่วนของอาวุธปืนเรียกตำรวจที่รับจำนำปืนของผู้ต้องหามาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นยอมรับว่ารับจำนำปืนไว้จริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบสังหารที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับผู้ขับขี่แท็กซี่สีเขียวเหลืองก็เชิญมาสอบปากคำแล้วเช่นกัน ยืนยันว่าไม่รู้จักกันมาก่อน และไม่เกี่ยวข้องกับคดี คนร้ายเพียงมาว่าจ้างให้ไปส่งเท่านั้น
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวยืนยันว่าจะติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ หรือช่วยเหลือให้การสนับสนุนเพิ่มเติมด้วย โดยเฉพาะคนชี้เป้าที่มีหลักฐานชัดเจนว่าเข้ามาพร้อมกับผู้เสียชีวิต และมีพิรุธเพราะบริเวณจุดเกิดเหตุมีการเดินวนดูลาดเลาหลายครั้ง รวมถึงหลังเกิดเหตุหลบหนีออกนอกประเทศผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิทันที และเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการสัญชาติเดียวกันอีก โดยขอเวลาทำงานสักระยะและตอนนี้ออกหมายจับไทยแล้ว ขั้นตอนต่อไปอยู่ระหว่างประสานตำรวจสากล ขอออกหมายแดง เพื่อติดตามตัวนำผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศมาดำเนินคดี ส่วนผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงว่าคนร้ายจะไหวตัวทัน สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคือนายคิมสลิน พิช สัญชาติกัมพูชา ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 8 มกราคม 2568
ด้าน พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม กล่าวว่าภรรยาผู้ตายเดินทางมาติดต่อเกี่ยวกับเรื่องรับศพจึงคอยอำนวยความสะดวก เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิต เป็นคนต่างชาติ โดยหลังจากเดินทางมาที่ สน. ทางเจ้าหน้าที่จะพาไปที่นิติเวช โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อดูศพสามี แต่ยังไม่สามารถนำศพออกได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องเอกสาร และต้องผ่านขั้นตอนทางสถานฑูตกัมพูชา เพื่อรับร่างกลับไป จากนั้นทางภรรยาผู้ตาย พร้อมผู้ติดตาม รวม 4 คนขึ้นรถตู้ของทางตำรวจ สน.ชนะสงคราม เดินทางไป รพ.ทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา