‘เรืองไกร’ ยื่นคำร้องถึง ‘ป.ป.ช.’ ตรวจสอบ ‘กิตติรัตน์’ ว่าที่ ‘ประธานบอร์ด ธปท.’ มีส่วนเกี่ยวข้องอนุมัติงบสร้าง ‘สนามฟุตซอล’ ที่มีการทุจริตหรือไม่
................................
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ว่า มีส่วนร่วมรับผิดชอบตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.31/2567 ลงวันที่ 5 ก.ย.2567 ด้วยหรือไม่
นายเรืองไกร ระบุว่า จากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.31/2567 พบว่า คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. 31/2567 ศาลพิพากษา (หน้า 65-67) ว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ... ลงโทษจำเลยที่ 1 จำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 100,000 บาท ...
องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมากเห็นว่า พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรกได้เพียง 3 เดือนเศษ และไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้รับประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินอย่างใด หลังเกิดเหตุจำเลยที่ 1 นำคณะครูไปยังสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 5 เพื่อแจ้งปัญหาการก่อสร้างสนามฟุตซอลไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้การบอกเลิกสัญญาในบางโรงเรียน
เป็นการระงับยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหาย... ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1....ได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยที่ 1 ...ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
โดยคดีนี้ สาเหตุสำคัญแห่งคดี มีส่วนมาจากคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ได้ระบุเงื่อนไขในชั้นกรรมาธิการฯว่า จะต้องใช้ข้อมูลรายละเอียดประกอบการจัดสรรงบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎร โดยการประสานงานจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. 31/2567 จึงเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขที่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ที่มีนายกิตติรัตน์ เป็นประธานฯ กำหนดไว้
“เนื่องจากผลของคดีดังกล่าว อาจทำให้เห็นได้ว่าคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกหลายร้อยคน น่าจะมีส่วนรับผิดชอบด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 คือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง
ส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายอื่นๆ อีกหลายร้อยคน จากหลายพรรคการเมือง รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ที่มีชื่อปรากฏในพยานเอกสารของคดีดังกล่าว ซึ่งมีหลายหมื่นหน้าจะต้องใช้ทำการตรวจสอบอีกพอสมควร เพื่อจะได้ร้องเป็นราย ๆ ไป เพราะมีการใช้งบแปรญัตติที่แตกต่างกัน หากผู้ใดมีพยานหลักฐานควรแก่การร้อง ก็จะร้องขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบต่อไป” นายเรืองไกร กล่าว
สำหรับคดีหมายเลขดำที่ อม.18/2565 หมายเลขแดงที่ อม.31/2567 เป็นคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสมหญิง บัวบุตร สส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย กับพวกรวม 12 คน ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ‘สพฐ.’ โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อระหว่างเดือน พ.ย.2554 ถึงเดือน ม.ค.2556
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานฯ มีมติเสียงข้างมาก จำนวน 4 เสียง จากทั้งหมด 7 เสียง เลือกนายกิตติรัตน์ เป็นประธานบอร์ด ธปท. โดยคณะกรรมการฯจะนำรายชื่อนายกิตติรัตน์ เสนอให้ รมว.คลัง เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งต่อไป